ส่งงานอาจารย์ดร.ประกอบ


ITการเรียนรู้
  ยกระดับแม่พิมพ์ด้วยการใช้ไอที เพื่อพัฒนาทักษะนักเรียนในอนาคต                   การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะพัฒนา คน ที่ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญมากที่สุด ในยุคที่การแข่งขันในสังคมไม่ได้อยู่เพียงแค่ระดับท้องถิ่น หรือ ระดับประเทศ แต่เป็นการแข่งขันกับชาติต่างๆในเวทีระดับโลก ที่ทุกชาติจำเป็นต้องก้าวให้ทันกระแสโลกาภิวัฒน์ ทั้งในด้านการสื่อสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยหากมีคนที่มีคุณภาพ มีเทคโนโลยีที่ดี และมีนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐบาลแล้ว โอกาสที่จะสร้างนวัตกรรม หรือประดิษฐ์กรรมใหม่ สู่สายตาชาวโลกก็เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินฝันเด็ก และ เยาวชน ที่เป็นนักเรียน นักศึกษา จึงจำเป็นต้องมีทักษะในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพราะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการใช้ศึกษา ค้นคว้า หาแหล่งความรู้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่มีองค์ความรู้ทางวิชาการอยู่มากมายเหลือคณานับ แต่การที่เด็กนักเรียนจะสามารถใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครูผู้สอน ที่เปรียบเหมือนแม่พิมพ์ของชาติก็จำเป็นที่จะต้องมีทักษะ และความรู้ในด้านไอซีทีเช่นกัน โดยทักษะที่มีอยู่จะได้ถูกถ่ายทอดไปยังเด็กนักเรียน และเยาวชน    บริษัท อินเทล คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตชิปไมโครโพรเซเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาจึงได้ทำโครงการที่ชื่อว่า        “Intel Teach to the Future” ที่เป็นส่วนหนึ่งของแนวความคิด Intel Innovation in Education ที่เป็นความมุ่งมั่นที่อินเทลดำเนินการร่วมมือกับนักการศึกษา และผู้นำของภาครัฐทั่วโลก เพื่อช่วยนักเรียนในปัจจุบันพัฒนาความคิดในระดับที่สูงขึ้น โดยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเตรียมตัวให้พร้อมกับเศรษฐกิจแบบองค์ความรู้ โดยเป็น 1 ใน 10 ของโครงการที่อินเทลทำขึ้นแบบไม่หวังผลกำไร เพื่อช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของครูและนักเรียนให้พร้อมสำหรับศตวรรษที่ 21ตั้งแต่เริ่มโครงการถึงขณะนี้ มีครูกว่า 3,000,000 คน เข้าร่วมโครงการ Intel Teach to the Future ที่เป็นโครงการอบรมครูระดับมืออาชีพ เพื่อช่วยให้ครูมีความเข้าใจ และสามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อผนวกเข้ากับกลยุทธ์ต่างๆ ในด้านความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดที่เป็นระบบการสื่อสาร และ การทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ ครูผู้สอนที่เข้าอบรมในโครงการนี้ จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้ ให้เด็กนักเรียนกว่าหลายสิบล้านคนทั่วโลก    ขณะนี้ มีครูหลายล้านคนที่ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนในห้องเรียน โดยการนำเทคโนโลยีเข้าไปใช้ประกอบการเรียนการสอน  โดยทำให้บรรยากาศการเรียนการสอนในห้องเรียน มีความน่าสนใจกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยให้นักเรียนพัฒนาทักษะได้อย่างเต็มที่ การร่วมมือระหว่างภาครัฐ นัการศึกษา และภาคอุตสาหกรรม จะช่วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ และ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนสำหรับครู รวมทั้ง นักเรียนทั่วโลกประสบผลสำเร็จ   การดำเนินการในประเทศไทย      อินเทลได้เริ่มโครงการนี้ในราวต้นปี 2546 ด้วยความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ ในการช่วยให้ครูสามารถนำเทคโนโลยี ไปใช้กับการเรียนการสอนในชั้นเรียนส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่ดีขึ้น โดยครูที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมที่เข้มข้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการวางแผนการสอน ที่มีไอซีทีมาเป็นส่วนประกอบ และต้องสามารถถ่ายทอดความรู้และทักษะเหล่านี้ ให้แก่เพื่อนครูคนอื่นๆ บนแนวคิด “Train the Trainer” หรือ การสร้างครูแกนนำให้ไปขยายผลต่อเพื่อนครูด้วยกัน    จากการศึกษาระดับนานาชาติเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับผลการตอบรับที่มีต่อโครงการ Intel Teach to the Future ที่ดำเนินโครงการโดย Education Development Center จากครูจำนวน 17,800 รายใน 14 ประเทศพบว่า โครงการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกประเทศ แม้แต่ละประเทศที่เข้าร่วมโครงการจะมีฐานะทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน โดยครูร้อยละ 80.1 ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในกิจกรรมต่างๆ สำหรับนักเรียนมากขึ้น ร้อยละ 63.3 สอนนักเรียนด้วยวิธีการแบบ Project-Based Learning: PBL มากขึ้นขณะที่ครูร้อยละ 87.1 ใช้เทคโนโลยีในการวางแผนและเตรียมการสอนมากขึ้น ส่วนการดำเนินโครงการฯ ในประเทศที่มีสถานะการเงินดีกว่านั้น ไม่ค่อยประสบปัญหาหรืออุปสรรคเท่าใดนัก โดยผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า ครูในประเทศเหล่านี้ มักมีเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงวิธีการสอนใหม่ๆ ให้แก่เด็กนักเรียน และอนาคตอันใกล้นี้ จะมีการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ การจัดสัมนาเชิงปฏิบัติการ และ การพัฒนาต่างๆ บนระบบออนไลน์สำหรับการศึกษา หลังจากที่มีการประเมินผลจากการตอบรับของผู้เข้าร่วมโครงการIT Digest หวังว่าโครงการเช่นนี้ จะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับโครงการพัฒนาครูในประเทศไทย ให้มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เพราะความรู้ที่ครูผู้สอนได้รับก็จะถูกถ่ายทอด ไปยังนักเรียนกลายเป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนของไทย ให้ไม่น่าเบื่อ ส่งผลให้นักเรียนเกิดความตื่นตาตื่นใจ จากรูปแบบการนำเสนอเป็นมัลติมีเดีย e-Book หรือ รูปแบบดิจิตอลคอนเทนท์อื่นๆ               ศักยภาพในการเรียนรู้ของเด็กไทยมีเพียงพอที่จะ เปิดรับเทคโนโลยีใหม่อยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เพื่อหล่อหลอมให้เด็ก และเยาวชนวันนี้ จะเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจที่จะคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ หรือไม่ โดยทั้งหมดนี้ ก็เป็นหน้าที่ของครู หรือ พ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ ของชาติที่ยังคงเป็นความหวังของผู้ปกครองและเด็กนักเรียนทุกคนนั่นเอง...
หมายเลขบันทึก: 57056เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2006 08:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท