ความจริง ความเชื่อ ความกล้าลองผิดลองถูก กับการจัดการความรู้

คนที่ยังไม่ใช้ KM เพราะอาจติดยึดอยู่กับวังวนของความคิดที่เชื่อ ไม่เชื่อ กล้า ไม่กล้า กลัวไม่จริง กลัวไม่ได้ผล เลยไม่รู้ว่าจะทำ หรือไม่ทำดี เงื้อง่าราคาแพงอยู่ตลอด

เมื่อผมมีโอกาสมาพิจารณาทบทวนกระบวนการจัดการความรู้ เพื่อเตรียมการสอน ก็เกิดมีความคิดมาแวบหนึ่งว่า คนที่ยังไม่ใช้ KM นั้น อาจเพราะยังติดยึดอยู่กับวังวนของความคิดที่เชื่อ ไม่เชื่อ กล้า ไม่กล้า กลัวไม่จริง กลัวไม่ได้ผล เลยไม่รู้ว่าจะทำ หรือไม่ทำดี เงื้อง่าราคาแพงอยู่ตลอด ต่างจากคนที่กล้าลอง ไม่กลัวความผิดพลาด ทั้งที่มีโอกาสพลาด แต่พลาดก็ยังเป็นครู (หรือบทเรียน) อยู่ดี ก็เลยมีโอกาสใช้ KM ในการพัฒนาความรู้ ปัญญา และชีวิต ฉะนั้น ตอนนี้ผมก็เลยลองทำตัวเป็นบ่างช่างยุ ไม่ทราบจะได้ผลสักแค่ไหน ไปที่ไหนยุที่นั่น แต่ไม่ค่อยพบคนบ้ายุเท่าไหร่ บ้ายอก็เจอบ้าง ได้ผลก้าวหน้าอย่างไรจะมารายงานต่อไปนะครับ

[ดร.อุทัย อันพิมพ์]

เห็นด้วยกับอาจารย์อย่างยิ่งครับ เพราะการที่เราจะพูด จะทำ หรือจะสอนอะไรนั้น ถ้าตัวเองไม่มีประสบการณ์ก็ไม่กล้าพูด หรือพูดได้เต็มปาก ดังนั้นต้องทำจริง เหมือนสุภาษิตอีสานที่ว่า

สิบปากเว่า  บ่ท่อตาเห็น

สิบตาเห็น   บ่อท่อมือคำ

สิบมือคำ   บ่อท่อเฮ็ดเอง

ขอบคุณครับ

อุทัย   อันพิมพ์

 

 

[ดร. แสวง รวยสูงเนิน]

คุณอุทัย

คุณคิดว่ามีคนจะทำอย่างที่ว่าสักกี่คน ตอนนี้มีแต่นักจัดการความรู้ด้วยปากมากเหลือเกิน เมื่อไรเราจะพูดให้น้อยลงแล้วใช้พลังงานที่เหลือไปออกทางการกระทำ โลกคงจะสวยกว่านี้มาก

แสวง ๓ พย. ๔๙

[ปภังกร]

• สวัสดีครับท่านอาจารย์แสวงที่เคารพ
• ถ้าท่านมายุผมต้องยุขึ้นแน่ ๆ เลยครับ เพราะผมเป็นแนวออกจะบ้าบิ่นสักหน่อยครับ ชอบลองทำโน่นทำนี่ครับ บางครั้งทำในสิ่งที่ใคร ๆ หาว่าบ้าไม่น่าจะไปทำครับ
• ผมกำลังจะขออนุญาตเข้ามาเป็นแนวร่วมทำเรื่องการพัฒนาจากรากฐานแห่งปัญญา (Wisdom Development) ที่อาจารย์ได้กรุณาทิ้งร่องรอยแนวความคิดดี ๆ ไว้ให้ผมในบันทึกเรื่อง "ศูนย์การเรียนรู้ที่โครงการหลวงครับ"
• ซึ่งตอนนี้ผมก็พยายามที่จะตีความหมายและใช้ปฏิบัติไปเลยครับ ถ้าได้ผลหรือติดขัดอย่างไรก็จะขออนุญาตมาแลกเปลี่ยนขอคำชี้แนะจากท่านอาจารย์ครับ
• ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ