วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ครูนั่งวางแผนการสอนเพื่อเสริมเติมเต็มในหลาย ๆ สิ่งหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะกับนักเรียนชั้น ม.๒/๒ที่เป็นนักเรียนโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เพราะจากการสังเกตพฤติกรรมในการทำงานที่ผ่านมา พบความแตกต่างระหว่างนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาในการทำงาน และความสนใจใฝ่รู้ในการเรียนภาษาไทย
ที่ผ่านมา เมื่อครูให้ทำกิจกรรมนักเรียนบางคนทำสำเร็จในเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งระหว่างคนที่ทำสำเร็จคนแรก คู่แรก หรือกลุ่มแรก จะทิ้งช่วงห่างกับ คน คู่ หรือกลุ่มสุดท้ายประมาณ ๒๐ – ๓๐ นาที เมื่อ เด็กกลุ่มนี้ทำงานบรรลุตามเป้าหมาย เขาก็ควรจะได้รับรางวัลพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ต้องนั่งรอเพื่อนไปเรื่อย ๆ จนกว่าทุกคนจะสำเร็จพร้อมกัน หรือจะให้เขาทำงานเพิ่มก็ใช่ที่ เพราะสมาธิและความสนใจของเขาก็มีเพียงเท่านั้นล่ะ ที่เขาทำให้สำเร็จเขาก็หวังจะได้มีเวลาพักผ่อนในช่วงนั้น แต่บางครั้งด้วยความเป็นเด็กก็อาจจะไปแหย่หรือพูดคุยรบกวนเพื่อนที่ยังทำไม่เสร็จ หากนั่งคุยนั่งเล่น คนที่ผ่านไปมาก็ไม่เข้าใจอีก อาจจะคิดว่า เด็กคนนั้นไม่สนใจการเรียนเลย ทำไมครูไม่ดูแล ซึ่งเขาคงไม่มาถามสาเหตุจากครูหรอก
ด้วยเหตุที่ครูชอบเล่นปริศนาอักษรไขว้จากหนังสือต่าง ๆ อยู่เสมอและได้พบเกมปริศนาเกมหนึ่งเป็น “ปริศนาหาเหตุผล” ผู้เล่นต้องอ่านข้อความ วิเคราะห์ สังเกต หาข้อเท็จจริง ในแต่ละรายการที่เขาให้ข้อมูลมา แล้วหาข้อสรุปให้ได้ว่าข้อมูลที่ถูกต้องหรือคำตอบที่เขาต้องการนั้นคืออะไรบ้าง กิจกรรมดังกล่าวครูมองเห็นว่าเป็นเกมภาษาที่ต้องอาศัยทักษะทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเหมาะสมกับนักเรียนกลุ่มนี้ ครูจึงจัดทำเอกสารสำหรับนักเรียนเล่น ๔ คน ต่อ ๑ ฉบับ
เมื่อถึงเวลาเรียน ครูสอนนักเรียนไปตามแผนที่กำหนดปกติ โดยไม่บอกว่าครูมีกิจกรรมอะไรจะให้เล่น เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้ตามเนื้อหาที่กำหนด และได้ทำกิจกรรมที่มอบหมาย ๒ ข้อ คือ วิเคราะห์เนื้อหาโคลงสุภาษิตจำนวน ๓ บท คือ สามสิ่งที่เกลียด สามสิ่งควรรังเกียจติเตียน และสามสิ่งควรเคารพ ครูให้นักเรียนวิเคราะห์โคลงแต่ละบทมีผลต่อผู้ที่ประพฤติ ผู้ที่คบ หรือสังคมอย่างไร และให้นักเรียนศึกษาความงามด้านศิลปะการแต่งของโคลงทั้ง ๓ บทว่า มีความงามอย่างไร นักเรียนทำร่วมกันเป็นคู่ ๆ คู่ใดทำเสร็จก่อน ก็จะได้นำเกมปริศนาหาเหตุผลไปเล่น สำหรับบางคนที่เป็นผู้หญิงรู้สึกจะไม่ค่อยเข้าใจวิธีการเล่นตามคำอธิบายของเกม ครูต้องยกตัวอย่างประกอบเสริมนักเรียนจึงเข้าใจ จากการสังเกตพบว่านักเรียนยิ้มอย่างมีความสุข คนที่ยังไม่เสร็จจากงานที่มอบหมายก็จะบอกว่า “อย่าเพิ่งแจกสิครู ไม่ยุติธรรมเลย เวลาในการเล่นก็ไม่เท่ากันสิ” นี่ล่ะธรรมชาติของเด็กวิทย์ - คณิต กลัวแพ้เพื่อนอย่างไรล่ะ และแล้วทุกคนก็ทำงานที่มอบหมายสำเร็จก่อนเวลาและได้นำเกมไปเล่นทุกคน แต่ละกลุ่มสุมหัวกันวิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นอย่างมุ่งมั่นน่ารักมาก แต่ยังได้คำตอบไม่ครบ ซึ่งครูนัดหมายว่าจะมาเฉลยกันชั่วโมงหน้า ไม่อยากจะบอกเลยว่าเกมนี้ครูทำไม่สำเร็จ คงยากเกินกว่าครูภาษาไทยอย่างครูมั้ง ?
อย่างนี้เป็นนวัตกรรมการเรียนการสอนหรือเปล่าล่ะนี่
ขอบคุณค่ะ
ชื่นชมในความสามารถและรอบรู้ค่ะ
ดีใจที่จะมีที่ปรึกษาเรื่องวิจัยในชั้นเรียนค่ะ
คำนิยามไม่มีค่ะ ก็ความหมายมันตรงตัวแล้วนี่
เด็กนักเรียนกลุ่มนี้เป็นนักเรียนโครงการคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ คือเขาสนใจ รัก ชอบในวิชานี้ และสามารถเรียนรู้ในวิชานี้ได้ดีค่ะ