บันทึกการท่องเที่ยวมาเลเซีย


เก็นติ้งไฮแลนด์ – คาเมรอน – ปีนัง 4 วัน 3 คืน

ระหว่างวันที่ 1 - 4  พฤษภาคม  2557

 30  เมษายน  2557   เวลา  19  นาฬิกา  คณะผู้ร่วมเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศมาเลเซียในครั้งนี้ ออกเดินทางโดยรถตู้มุ่งหน้าสู่อำเภอหาดใหญ่  จังหวัดสงขลา  1  พฤษภาคม  2557  05.00น.  คณะพร้อมกัน ณ จุดนัดหมายปั๊ม ป.ต.ท. หน้ามหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้รับการต้อนจากคุณยุ้ย (เดอะ มิราเคิล ทัวร์) เปลี่ยนรถเป็นรถตู้ V.I.P ซึ่งมีคุณสมบุรณ์  แซ่เย้า (คุณเชี้ยง) เป็นทั้งคนขับและมัคคุเทศก์ ออกเดินทางสู่ประเทศมาเลเซียผ่านด่านสะเดาของประเทศไทยทำการตรวจประทับตราหนังสือเดินทางและผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองพิธีการทางศุลกากรของมาเลเซียมุ่งหน้าสู่เก็นติ้งไฮแลนด์นครแห่งความบันเทิงที่ไม่เคยหลับใหล        

 เดินทาง จากนั้นนำสู่ เมืองใหม่ ปุตราจายา Putra Jaya เป็นนครที่มีความ ทันสมัยและก้าวหน้าลักษณะอย่างสมบูรณ์ที่สุดภายในศตวรรษที่ 21 นี้ ศูนย์กลางแห่งความดึงดูดใจ เปอร์ดานาปุตรา สำนักงานนายกรัฐมนตรี เซอรี เปอร์ดานา สถานที่พำนักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มัสยิดปุตรา มีโดมสีชมพู ก่อสร้างด้วย หินแกรนิตสีกุหลาบ ออกแบบง่ายๆแต่หรูหรา ตกแต่งอย่างสวยงามโดยใช้ทะเลสาบปุตราเป็นเครื่องประดับความโดดเด่น สะพานปุตรา งดงามตรึงตาสถาปัตยกรรมผสมผสานสวยงามยิ่ง อากาศร้อนมาก แต่ทุกคนสามารถเก็บภาพสวย ๆ กับสถาปัตยกรรมของที่นี่ในทุก ๆ ที่ ที่ได้เยี่ยมชมความสวยงาม  ทนความร้อนจากอากาศได้ วันนี้มีคนมาเที่ยวเยอะมากเพราะเป็นวันหยุด  วันที่ 1  พฤษภาคม  วันแรงงานสากล 

ได้เวลาพอสมควรกลับขึ้นรถเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน  ประมาณ  13.00 น. ถึงร้านอาหาร เป็นอาหารมื้อแรกที่มาเลเซีย  อาหารรสชาติเป็นอาหารจีน ทุกคนทานได้และบอกว่าอร่อยดี

เรียบร้อยแล้วกลับขึ้นรถเดินทางสู่เกนติ้งไฮแลนด์ ระหว่างทางแวะชม พระราชวังเก่าของมาเลเซียปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ เมื่อ 24 ม.ค.2013 ทางการมาเลเซียได้แปลงโฉมพระราชวังเก่าในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสุลต่าน และสมาชิกราชวงศ์ ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีกำหนดจะเปิดให้ผู้คนทั่วไปได้เข้าชมห้องต่างๆ ในพระราชวัง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2013 หลังจากเมื่อเดือนเมษายน ปีที่แล้ว ทางการได้เริ่มเปิดให้เข้าชมห้องท้องพระโรง เมื่อครั้งที่มีการจัดพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งนี้ พระราชวังเดิมแห่งนี้มีห้องต่างๆ รวมทั้งสิ้น 22 ห้อง โดยมีทั้งห้องบรรทม ห้องทรงงาน ห้องเสวย และห้องพักผ่อน  พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2471 ใช้เป็นที่ประทับของสุลต่าน มาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 พวกเราได้ถ่ายรูปร่วมกับทหารซึ่งแต่งตัวแบบดั้งเดิม แต่กลิ่นแขกค่อนข้างแรง

ออกจากที่นี่ไปชมพระราชวัง เนการา ของสูลต่าน มาเลเซีย Istana Negara Sultan 's Palace  พระราชวังสูลต่านของกษัตริย์มาเลเซีย มีชื่อว่า Istana Negara เป็นสถานท่องเที่ยวยอดนิยมในย่านใจกลางเมืองหลวง ซึ่งก็อยู่ในโปรแกรมของบอนด์สตรีททัวร์ด้วย ระบอบกษัตริย์ของมาเลเซีย   เริ่มมีขึ้นเมื่อได้เอกราชจากอังกฤษใน ค.ศ. 1954 หรือ 52 ปีมานี้เอง ต่างกับสถาบันกษัตริย์ไทยที่มีมานานนับพันปี ก่อนนั้นมาเลเซียก็มีตำแหน่งเจ้าเมืองที่เรียกว่าสูลต่าน ปกครองรัฐต่างๆตามรูปแบบของประเทศในโลกมูลลิมที่เข้ามาแผ่ขยายอิทธิพลในยุคต้นๆของประวัติศาสตร์มาเลเซีย....พระราชวัง เนการา แห่งนี้มีประวัติค่อนข้างแปลกประหลาดพิศดาร เริ่มจากแต่เดิมเป็นคฤหาสถ์ของชาวจีนอพยพที่เข้ามาตั้งรกรากและสร้างความร่ำรวยจากการทำเหมืองแร่และธุรกิจอื่น มีชื่อว่า ชานวิง (Chan Wing) ซึ่งได้สร้างบ้านหลังใหญ่ขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ 1920 ให้เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว  ขนาดใหญ่ที่พาภรรยาจากฮ่องกงจำนวนถึง 26 คน ตามบันทึกชองลูกสาวคนที่ 8 และบอกว่า ชานวิง เดิมมีฐานะยากจน ต่อมากลายเป็นมหาเศรษฐี (คศ. 1873 - 1947 ) และยังบอกด้วยว่าบ้านหลังนี้เคยใช้เป็นที่เลี้ยงสังสรรงานใหญ่ๆ รวมทั้งจัดปีใหม่ในเทศกาลตรุษจีน.. ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชานวิง และครอบครัวได้อพยพไปอยู่ประเทศอินเดียโดยทางเครื่องบิน และเมื่อสงครามสิ้นสุด  ก็ไม่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ได้ไปสร้างบ้านอยู่บนภูเขา กระทั่งบ้านหลังใหญ่นี้ได้ตกเป็นของรัฐบาลอังกฤษที่ปกครองมาเลเซียในสมัยนั้น....ค.ศ 1954 เป็นปีที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษและได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสหพันธรัฐมาเลเซีย ก็ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อให้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ ระบอบกษัตริย์มาเลเซียจึงมีอายุมาถึงปัจจุบันเพียงแค่ 52 ปีนี้เอง..... และจากการที่อังกฤษเคยปกครองประเทศนี้มาก่อน ก็ได้นำเอาประเพณีการผลัดเปลี่ยนทหารหน้าวัง ที่แต่งกายเต็มยศสวยงามมาใช้ เช่นเดียวกับพระราชวังบั๊กกิมแฮม แม้ว่าจะไม่ใหญ่โตเหมือนต้นตำรับจากประเทศผู้ดีแต่ก็ทำให้เป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวไม่น้อย ต่างถ่ายภาพกับบริเวณรอบ ๆ ที่สวยงาม

เดินทางต่อแต่ยังมีเวลาแวะเก็บภาพกับเปโตรนาส (petronas twin tower) ตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลก ที่สูงตระหง่านถึง 452 เมตร มีด้วยกัน 88 ชั้น ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 20,000 ล้านบาท ซึ่งเจ้าของตึกนี้เป็นเจ้าของน้ำมันยี่ห้อเดียวตึกนั่นเอง  ส่วนการออกแบบตึกได้รับแรงบันดาลใจจากเสาหินทั้ง 5 ของอิสลาม ผสมผสานกับโครงเหส็กที่ท่อหุ้มในแต่ละจุด ทำให้เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตามากเลยทีเดียว   ภายในตึกนี้จะเป็นแหล่งความรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี บันเทิง และแหล่งซ็อบปิ้งขนาดใหญ่นั่นคือ ห้างสรรพสินค้า ซูเลีย ห้างสรรพสินค้าที่มีสินค้าแบรนด์เนมนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง   สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ชั้น 4 ของ KLCC นี้ เรียกว่า เปโตรซายน์ส (Petrosains) เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยมากที่สุด แห่งหนึ่ง ที่ศูนย์แห่งนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 14.30 - 19.00 น. ปิดทุกวันจันทร์   ที่นี่มีศูนย์กลางคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถสอบถามได้ทุกอย่างโดยผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ ส่วนมากจะ เป็นเด็กๆ ส่วนใหญ่ ทั้งมากับผู้ปกครอง และมาทั้งห้องเรียน แบบทัศนศึกษา ที่นี่จะเน้นความรู้เกี่ยวกับน้ำมัน เพราะประเทศมาเลเซีย ก็เป็นแหล่งผลิตน้ำมัน รายใหญ่เช่นกัน และมีการย้อนสู่อดีตเมือ 200 ล้านปีก่อน จำลองเป็นไดโนเสาร์ และการค้นพบแหล่งน้ำมัน 

เดินทางต่อไประหว่างทางผ่านถ้ำบาตู ศาสนสถานของชาวฮินดู ศูนย์รวมของผู้ที่นับถือฮินดูในมาเลเซีย วัดถ้ำบาตู อยู่ทางตอนเหนือของกรุงวลาลัมเปอร์ไปประมาณ 14 กม. มีถ้ำที่ใหญ่โตจำนวนหลายถ้ำเชื่อมต่อกันยาวถึง 400 เมตร บางแห่งผนังถ้ำสูงถึง 100 เมตร ชาวฮินดูจากที่ต่างๆเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมาก รวมๆกับนักท่องเที่ยวแล้วนับหมื่นๆต่อวัน  อากาศร้อนมีมะพร้าวอ่อน ซึ่งมัคคุเทศก์บอกพวกเราว่าเขาเรียกมะพร้าวเหลือง ชอบใจวิธีเฉาะมะพร้าว เร็วและสวย


ศาสนสถานของพวกพราหมณ์หรือฮินดูในไทยอาจจะไม่ค่อยได้เห็นนัก เมื่อก่อนบริเวณโบสถ์พราหมณ์มีเฉพาะชาวพราหมณ์เท่านั้นที่เข้าไปบูชา แต่ปัจจุบันแม้กระทั่งชาวพุทธ ชาวจีน จนกระทั่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็ยังเข้าไปบูชาด้วย จนในเวลาต่อมากลายเป็นวัดที่เป็นศูนย์รวมชาวฮินดูที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย ในวันสำคัญทางศาสนาจะจัดงานใหญ่โตหลายวัน มีพิธีกรรมแปลกๆที่ท้าทายความเชื่อ ไม่แพ้งานกินเจที่ภูเก็ต ที่นี่มีลิงเยอะมาก  มีนกพิราบลงมากินอาหารที่นักท่องเที่ยวโปรยให่้ ไม่ได้เข้าไปถ่ายรูปคนเยอะ  อากาศก็ร้อนมาก

เวลาประมาณ 17.00 น. แวะรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารบริเวณทางขึ้นสู่เกนติ้งไฮแลนด์ ร้านนี้ภาชนะใส่อาหารไม่ผ่านเพราะใช้พลาสติกสีจัดจ้าน  ไม่มั่นใจในความปลอดภัยเท่าใดนัก........เตรียมตัวไปสู่ เกนติ้งไฮแลนด์ด้วยกัน  ตามมาค่ะ

หมายเลขบันทึก: 567435เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2014 20:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มีนาคม 2018 17:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณนะคะ ที่นำเที่ยวมาเลเซีย ...30 พฤษภาคม 2557 น่าจะเป็น  30 เมษายน  2557 นะคะ

 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท