nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

หนังในดวงใจ The Sound of Music


หนังในดวงใจตลอดกาลเรื่อง The Sound of Music ออกฉายครั้งแรกในอเมริกาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ ฉันดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ดูในโรงถึง ๗ ครั้ง ดูจากม้วนเทป จากแผ่นอีกนับครั้งไม่ถ้วน ทุกเพลงทุกภาพจารึกอยู่ในใจ ไม่เคยรักหนังเรื่องไหนเท่าเรื่องนี้

ฉากสวยงามตรึงตาตรึงใจทั้งหมดอยู่ใน Salzburg ออสเตรีย ที่เรากำลังจะไปเยือน

จึงไม่พลาดที่จะหยิบมารื้อฟื้นความทรงจำอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง... 

หนังเปิดเรื่องด้วยเมฆบางเบา ภาพมุมสูงของยอดเขา กล้องเคลื่อนช้าๆ ไปตามทิวเขาอันงดงาม ทะเลสาบนิ่งใสสะท้อนเงา บ้านเรือนอันสงบงดงาม ใกล้ไปยังเนินเขาเขียวขจี เพื่อเปิดตัวละครสำคัญ “มาเรีย” ด้วยภาพนี้ และเพลงอันไพเราะ จับใจคนทั้งโลก “The Sound of Music”

“...The hills are alive with the sound of music...with songs they have sung for a thousand years…”

จบเพลงแรกด้วยเสียงระฆังแว่วมาไกลๆ ดึงมาเรียกลับไปสู่หน้าที่ของตัวเองที่โบสถ์

เพลงชื่อ “Maria” ขับร้องโดยแม่ชี พรรณนาอุปนิสัยของมาเรีย และสรุปว่า

“....Maria's not an asset to the abbey…”
มาเรียถูกส่งไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ๗ คนแห่งครอบครัวฟอนแทรป (Von Trapp) หัวหน้าครอบครัวคือกัปตันฟอนแทรป เสียภรรยาไปไม่นาน

 

มาเรียใช้เพลง I Have Confidence ปลอบใจตัวเองขณะเดินทางไปบ้านของครอบครัวฟอนแทรป

“…..A captain with seven children… What's so fearsome about that?...”

 

เด็กๆ  ลิเซิล – ฟริดริช – ลุยซ่า – เคิร์ท – บริกิต้า – มาร์ธา และ เกรเทิล

ต้อนรับมาเรียด้วยท่าทีที่เย็นชา หลังจากผ่านพี่เลี้ยงมาหลายคน กฎของบ้านที่กำหนดให้เด็กๆ

แต่งเครื่องแบบ มีสัญญาณนกหวีดประจำตัวสำหรับเรียกแทนชื่อ สร้างบรรยากาศที่ห่างเหิน

การถูกเด็กๆ แกล้ง ที่โต๊ะอาหารค่ำมื้อแรก

เป็นโอกาสของการเริ่มต้นมิตรภาพ ที่เด็กๆ คาดไม่ถึง

ลิเซิ่ล ลูกสาวคนโต หลบจากโต๊ะอาหารไปพบ “รอล์ฟ” เด็กหนุ่มที่มาส่งโทรเลข

เพลงน่ารักๆ “Sixteen Going on Seventeen”

“….I am sixteen going on seventeen…Innocent as a rose…”

ฝนตกหนัก ฟ้าร้อง ลิเชิ่ล ปีนขึ้นมาในสภาพเปียกปอน เด็กๆ วิ่งมาที่ห้องนอนของมาเรีย

เพลงสนุกสนาน น่ารัก ชื่อ My Favorite Things” เปิดรอยยิ้ม ผูกสัมพันธ์ระหว่างมาเรียกับเด็กๆ

“…When the dog bites…When the bee stings…When I'm feeling sad…
I simply remember my favorite things...And then I don't feel so bad…”


กัปตันออกจากบ้านไปเวียนนา มาเรียเปลี่ยนแปลงกฎเหล็กของบ้านให้เด็กสวมชุดสบายๆ

แทนเครื่องแบบ พาเด็กๆ ไปที่เนินเขา

เพลงสนุก น่ารัก เนื้อร้องจำง่าย ที่ทุกคนติดหู ร้องคลอไปกับหนัง “Do Re Mi”

“...Doe, a deer, a female deer…Ray, a drop of golden sun...Me, a name I call myself…”


“…Far, a long, long way to run…Sew, a needle pulling thread...

La, a note to follow Sew…Tea, a drink with jam and bread…”

เพลงอันน่าประทับใจนี้ เปิดดนตรีในหัวใจเด็กๆ 

ทุกฉากของเมือง Salzburg สวยงาม น่าหลงใหล

ไม่มีใครไม่ตกหลุมรัก  เพลง...หนัง…มาเรีย…เด็กๆ…และ ซอลเบิร์ก จากเพลงนี้

มาเรียกับเด็กๆ เตรียมการต้อนรับบารอนเนสเอลซ่า กับ ลุงแม๊ค อย่างอบอุ่นด้วยเสียงเพลง

เป็นครั้งแรกในหลายปีหลังภรรยาเสียชีวิตที่กัปตันร้องเพลง “Edelweiss”

“….Small and white, clean and bright…You look happy to meet me…”

ม่านบางๆ ระหว่างพ่อลูกถูกทำลายลงด้วยเสียงเพลงอันอ่อนหวานเพลงนี้ 

ในงานเลี้ยงแนะนำตัวบารอนเนส

ฉากสำคัญคือฉากที่กัปตันขอมาเรียเต้นรำต่อหน้าเด็กๆ ด้วยเพลงบรรเลงแสนหวาน

"Laendler"  เปิดสิ่งที่ซ่อนเร้นในหัวใจของทั้งคู่

เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้มาเรียตัดสินใจออกจากบ้านโดยไม่ร่ำลา

 

ฉากเด็กๆ ร้องเพลงอำลาSo Long, Farewell” แขกในงานเลี้ยง

จะขโมยหัวใจของคุณไปแบบไม่รู้ตัวทีเดียว โดยเฉพาะเด็กหญิงตัวน้อย “เกรเทิล”

“….The sun has gone to bed and so must I…”

เด็กๆ ออกไปตามมาเรียถึงโบสถ์ และกลับมาด้วยความผิดหวัง

เพลง "Climb Every Mountain"

“…Climb every mountain…Ford every stream…Follow every rainbow
'Till you find your dream…”

ด้วยความเมตตาและเข้าใจของแม่อธิการ ปลุกปลอบใจให้มาเรียกลับออกมาอีกครั้ง เพื่อตามหาความฝัน

ขณะที่เด็กๆ กำลังเศร้าสร้อย  เสียงเบาๆ เหงาหงอยของเพลง  "My Favorite Thing"  ที่เด็กๆนำมาร้องปลอบใจตัวเอง (ทำให้คนดูน้ำตาซึม)

พลันถูกเติมเต็มด้วยเสียงหวานใสของมาเรีย เปลี่ยนความเศร้าสร้อยเป็นรอยยิ้ม

เธอกลับมาตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ  เติมความสุขให้แก่ครอบครัวฟอนแทรป

 

เพลง   "Something Good"   อันอ่อนหวาน

“….For here you are, standing there, loving me…”

 

 

หลังการแต่งงาน การฮันนีมูน กัปตันถูกทหารเยอรมันที่เข้ายึดครองออสเตรียเชิญตัวไปร่วมรบกับกองทัพเยอรมัน 

แผนการหลบหนีจึงเกิดขึ้น

ด้วยความช่วยเหลือของลุงแม๊ค

ครอบครัวฟอนแทรปได้เป็นหนึ่งในคณะนักร้องประกวด

หลายเพลงถูกนำมาร้องซ้ำ แต่ด้วยท่วงทำนองอำลาประเทศบ้านเกิดอย่าง

อ่อนหวานระคนเศร้า  “So Long Farewell” และ   “Edelweiss”

ทุกคนในหอประชุมร้องตาม เป็นภาพการจากลาประเทศบ้านเกิดเมืองนอนที่สุดแสนอาลัย

เราอาจหลั่งน้ำตาให้กับฉากนี้...และเนื้อเพลงนี้...

“…Edelweiss, Edelweiss…Bless my homeland forever…”

ด้วยความช่วยเหลือของเหล่าแม่ชี ครอบครัวฟอนแทรปหลบหนีออกจากประเทศออสเตรีย

ไปยังสวิสเซอร์แลนด์ได้สำเร็จ

“…Climb every mountain
Ford every stream
Follow every rainbow
'Till you find your dream…”



บันทึกเพิ่มเติม

หนังสร้างจากเรื่องจริง จากงานเขียน ชื่อ The Story of the Trapp Family Singers (1949) ของ Maria Augusta Trapp

ผลงานสร้างของ Robert Wise งานเพลงอันไพเราะเป็นอมตะ โดย Richard Rodgers แต่งคำร้องโดย Oscar Hammerstein

 

Maria Augusta Trapp (1905-1987)  มีลูก ๓ คน กับ กัปตัน Georg von Trapp 

จูลี่ แอนดรู นักแสดงนำในบท Maria ขับร้องเพลงในหนังทุกเพลง

...........................................................................................................

สุดท้าย  เรื่องราวของ The Sound of Music ตราตรึงใจหัวใจคนรักหนังรุ่นเก่าไม่ลืมเลือน  หนังยังคงถูกนำมาดูซ้ำ และยังคงความเป็นอมตะอยู่ในหัวใจคนรักหนังตลอดไป  เพลงทุกเพลงฟังคุ้นหู  ละครเพลงเรื่องนี้ยังคงแสดงอยู่ในหลายๆ ประเทศจนทุกวันนี้    และเรากำลังจะเดินทางไปตามรอยหนังเพื่อเก็บเกี่ยวความงามจากทุกฉากของ Salzburg กลับมา 

....................................................................

พุธ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๗

หมายเลขบันทึก: 567045เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2014 07:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2014 17:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

ชอบหนังและเพลงในเรื่องนี้มากเช่นกันค่ะ บันทึกนี้ทบทวนความทรงจำได้เยี่ยมมาก ๆ เที่ยวให้สนุกนะคะพี่นุ้ย 

หนังอมตะยอดนิยมตลอดกาลค่ะ...

ชอบมาก ๆๆ ๆ เหมือนกัน

เป็นหนังเก่า

ที่น่าดูมากเลยครับ

ใช้ฝึกภาษาได้ด้วยนะครับ

... ชอบบรรยากาศ มากค่ะ  ...





ชอบเช่นกันครับพี่...เสียงเพลง...การเต้น...ความน่ารัก...และแต่ฉากที่งดงามมากครับ

ขอบคุณน้อง กุหลาบ มัทนา

พี่เขียนบันทึกต่อจนจบแล้วนะคะ

รุ่นพี่ใหญ่ นงนาท สนธิสุวรรณ

ทันดูในโรงแน่ๆ ค่ะ  ดูกี่รอบคะ

ใครได้ดูก็จะชอบ จะรักค่ะคุณGD

หาดูไม่ได้บอกพี่นะน้องอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง

ได้ดูมั๊ยคะ ดร.เปิ้น  Dr. Ple

น้อง  ทิมดาบ คงเคยดูนะคะ  เป็นหนังเรื่องเดียวที่ดูไม่เบื่อค่ะ

...ชื่อไทย "มนต์รักเพลงสวรรค์"นะคะ ...ตอนเด็กๆ ยังทันได้ดู ...น่าจะเรียนอยู่ ป. 4 - ป.5 ...ช่วงนั้นอายังไม่แต่งงานมีเวลาก็มาพาหลานๆไปดูหนัง ...

ตามมาอ่านตอนจบแล้วค่ะพี่นุ้ย เยี่ยมมากจริง ๆ  ขอบคุณด้วยภาพจาก Salzburg (Salzwelten) ที่ถ่ายเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ไม่ได้ตามรอยหนัง The sound of Music เหมือนพี่นุ้ยนะคะ ไปบางที่เท่านั้นค่ะ รอชมภาพเมื่อพี่กลับมาค่ะ :)

ชอบฟังเพลงหนังเรื่องนี้มากๆครับ ขอบคุณมากครับผม

ใช่ค่ะอาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา ชื่อไทย  มนต์รักเพลงสวรรค์  ใครได้ดูจะรักเด็กๆ และเพลงค่ะ

น้อง กุหลาบ มัทนา นี่สุดยอดนักท่องเที่ยวนะคะ  

ขอบคุณนะคะที่เอาภาพมาอวดเรียกน้ำย่อยพี่   มะรืนเดินทางแล้วค่ะ

แสดงว่าอาจารย์ Dr. Pop ก็ทันดู  เอ๊ะ น่าจะดูจากแผ่นนะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท