วันนี้วันฮัลโลวีนค่ะ
วันนี้เป็นวันที่สนุกทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ใครๆก็ตั้งตารอคอย ผู้คนอารมณ์ดีกันทั้งเหมือน
เด็กๆแต่งชุดแฟนซี เดินเคาะประตูบ้านเพื่อนบ้าน เพื่อ "trick or treat" แปลเป็นไทยก็คงประมาณว่า "จะให้ขนมหนูดีๆ หรือ จะต้องให้หนูทำท่าผีหลอกจ๊ะ!" เจ้าของบ้านก็ยิ้มให้และ็แจกลูกอม หรือ ช็อคโกแล็ตแท่ง ไปตามประเพณี
แค่วันนี้วันเดียว น้องหนูเหล่านี้ก็มีขนมหวานเก็บไปกินได้อีกหลายเดือนค่ะ
ขนมลูกอมและช็อคโกแล็ตกลายเป็น "ลัญลักษณ์" (symbol) แห่งความสุขและความสนุกมานานหลายชั่วอายุคน
ทีนี้เหล่านักส่งเสริมสุขภาพก็ทำยังไงดีหล่ะค่ะเนี่ยะ : )
ศึกหนักเลยนะเนี่ยะ
แต่วันนี้ก็มคนส่งบทความนี้มาให้อ่านค่ะ
Schwartz MB, Chen EY, Brownell KD. Trick, Treat, or Toy: Children Are Just As Likely To Choose Toys As Candy on Halloween. J Nutr Educ Behav, 2003;35:207-209.
กลุ่มนักวิจัยโภชนากรได้ลองทำการศึกษาว่า ถ้าแทนที่จะให้ขนมหวานซึ่งมีผลเสียต่อสุขภาพแล้วถามเด็กว่าจะให้ของเล่นแทนนั้น เด็กจะยอมรับของเล่นหรือไม๊
ผลการศึกษาพบว่า จากเด็กจำนวน 284 คน อายุ 3-14 ปี ที่มาขอขนมวันวันฮัลโลวีนนั้น เจ้าของบ้านทั้ง 7 หลัง ไม่พบความแตกต่างในการเลือกของเด็กๆค่ะ เด็กๆชอบและยอมรับของเล่นพอๆกับขนม
บันทึกนี้อาจไม่เกี่ยวกับเมืองไทยโดยตรง เพราะเราไม่มีวันฮัลโลวีนให้เป็นที่กังวล เหมือนประเทศโลกตะวันตกหลายประเทศ
แต่ผู้เขียนก็คิดว่าน่าสนใจและมีประโยชน์ทางอ้อมต่องานส่งเสริมสุขภาพไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก
เห็นด้วยค่ะ ทางสายกลางดีที่สุด จะให้เด็กเลิกทางขนมคงไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด
ถ้าคิดสูตรขนมให้ไม่มีโทษได้น่าจะดีกว่ามาก
วันนี้ผู้ประกาศรายการข่าวโทรทัศน์ภาคค่ำ พูดลงท้ายปิดรายการด้วยคำว่า "แปรงฟันดีๆนะคะคืนนี้"
"Brush well tonight!" : )
ขอขอบคุณอาจารย์มัทนา...