ลูกไม่ชอบไปโรงเรียน


แม่อยู่บ้านกับลูกได้มั๊ย,,,,, ลูกไม่ชอบไปโรงเรียน

แม่จ๋า.....หนูไม่ชอบไปโรงเรียน 

 

"น้องแปม"ปัจจุบันเธออายุ 3.11 ขวบ อนุบาล 1



น้องแปม กับพี่ปลา เมื่อ ตุลาคม 2549

ดิฉันดิฉันพาแกไปส่งเข้าเตรียมอนุบาลตั้งแต่อายุใกล้สามขวบไปรับไปส่งเองเป็นประจำทุกวัน ดูแกมีความสุขดี.....แต่พอเริ่มขึ้นอนุบาล1 เปิดเทอมได้สักสองเดือนแกเริ่มมีอาการ แรก แรกก็บ่น..."ลูกไม่ชอบไปโรงเรียน" ดิฉันปลอบ...ไม่ได้นะถ้าลูกไม่ไปหนูก็จะอ่านหนังสือไม่ออก....มีอะไรคะบอกแม่ได้มั๊ย....ว่าหนูไม่ชอบตรงไหนแกก็บอกอะไรไม่ได้มากไปกว่าลูกไม่ชอบไปโรงเรียน....ดิฉันปลอบก็แล้ว....ดุก็แล้วแกก็ไม่เปลี่ยนความคิด มีอาการหนักขึ้นคือร้องไห้..ไม่ยอมแต่งตัว
        พรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดเทอมวันแรก หลังจากปิดไปหนึ่งเดือนดิฉันส่งแกไว้ที่"เนิสซารี"ที่เดิมที่แกเคยอยู่ตั้งแต่เล็กดูแกเป็นสุขกับการที่ไม่ต้องไปโรงเรียน
      หัวค่ำพี่สาวชวนให้เอารองเท้าถุงเท้ามาเตรียม.....ดิฉันสังเกตแกไม่ยอมสนใจ...ออกจะกังวลด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้แกจะต้องไปโรงเรียน...ดิฉันเอาแกเข้านอนเมื่อหัวค่ำแกก็บอกดิฉันว่า...แม่..เอาหูมานี่หน่อย..แล้วแกก็กระซิบว่า....แม่อยู่บ้านกับลูกได้มั๊ย....ลูกไม่อยากไปโรงเรียน"    "..สำหรับพ่อเขาแล้วดูเหมือนจะเป็นเรื่องไร้สาระที่สุดที่พ่อเคยได้ยิน....เขาจะบอกแกมดุลูกว่า...เด็กทุกคนต้องไปโรงเรียนลูกไม่ต้องพูด...ทำตามที่ทุกคนเขาทำตาม...แปลกจริงเด็กนี้..."
            ดิฉันเพียรถาม...ตลอดมา..ถามครู..ถามเพื่อนๆ....เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมเจ้าแปมไม่ชอบโรงเรียน....
            ดิฉันอาจต้องหาโรงเรียนใหม่ให้แก...ที่คล้ายๆ กับบ้าน ....หรือต้องอดทนอดทนบังคับให้แกไปโรงเรียน....ทำเฉยเมยกับความคิดไม่ชอบโรงเรียนของแก.....ดิฉันชักจะเครียด...เพราะเริ่มมั่นใจว่าแกไม่รับโรงเรียนจริงไม่ใช่เพียงอารมณ์ขี้เกียจตื่นเช้า...ขี้เกียจอาบน้ำ...แล้วพาลพาโรไม่ไปโรงเรียน...แกสะท้อน....เรื่องการไปโรงเรียนต่างกับพี่สาวของแกเมื่อวัยเดียวกัน.....ที่ชอบไปโรงเรียนมากตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนจนทุกวันนี้

หมายเลขบันทึก: 56651เขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2006 02:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเมตตา

  • น่ารักทั้งสองเลยนะคะ  อืมม...
  • เด็กๆมักจะมีความเหมือนและความต่าง  นั่นเป็นธรรมชาติ
  • ต้องศึกษาสภาพ  ดูโรงเรียนของเธอสิคะ  ว่ามีเด็กๆแบบเธอใช่ไหมคะ  ที่ไม่ชอบไปโรงเรียน  อาจจะเกิดการเลียนแบบ
  • ครูอ้อยไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเอง
  • แต่แก้ปัญหาในจุดที่เป็นครู
  • ใจเย็นๆค่ะ  เปลี้ยนโรงเรียน บางที่ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาค่ะ
คุณน้องเมตตาครับ
  • ตอนเรียนเทอมหนึ่ง น้องแปมเธอชอบไปโรงเรียนมั้ยครับ เธอมีเพื่อนสนิทที่โรงเรียนมั้ยครับ
  • หากเธอชอบ...น่าจะแสดงว่าเธอติดบ้านตอนที่ปิดเทอม ก็น่าจะเป็นสักพักก็หายครับ
  • สังเกตุได้อีกจุดหนึ่งคือตอนไปรับกลับครับ ว่าเธอมีความสุขที่จะได้อยู่โรงเรียนเล่นกับเพื่อน หรือว่าเธออยากจะกลับบ้านให้เร็วที่สุด แล้วค่อยเลียบๆเคียงๆถามดูอีกที หรือไม่ก็คุยกับเพื่อนของเธอว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง เล่นสนุกมั้ย มีใครแกล้งเธอมั้ย
  • แต่ถ้าจะให้ดีลองเอาเรื่องนี้ไปคุยกับคุณครูที่โรงเรียนครับ เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมถึงไม่ชอบไปโรงเรียน คุณครูจะได้ดูแลใกล้ชิดขึ้น หรือคอยสังเกตุมากขึ้น ถ้าคุยกับคุณครูแล้วคุณครูแสดงความไม่สนใจ แล้วค่อยคิดเรื่องการย้ายห้องเรียน หรือย้ายโรงเรียนครับ

คุณเมตตาดูมีความสุขกับการเรียนรู้ชีวิตลูกนะครับ...

ผมเชื่อว่าไม่เกินความสามารถในการศึก...เอ้ย...แก้ไขปัญหาครั้งนี้(เพราะว่านี่เป็นลูกคนที่ 2 แล้วนี่ครับ...อิอิ)

ถ้าเป็นผมนะครับ...นี่เป็นโอกาสเรียนรู้ร่วมกันครั้งสำคัญ ของพ่อ แม่ พี่ และน้อง...ครับ

ผมจะแสดงให้เธอเห็นว่า...ความนิ่ง(มีสติ)คืออะไร...การใช้ความอดทนต่อภาวะบีบเค้น(Streng Zone)...ทำอย่างไร...

ที่สำคัญ...ความพร้อมใจของพ่อ แม่ และพี่...ที่จะสนับสนุนการสู้ศึกครั้งนี้โดยไม่หนีไปไหน...

และจะร่วมกันแสดงยินดีอย่างยิ่ง...ถ้าเธอทำได้สำเร็จ...

 

บันใดขั้นแรก... พ่อ แม่ พี่ นัดหมายกัน สอบถามถึงโรงเรียน ห้องเรียน ครู เพื่อน...ด้วยอาการกระตือรือล้น(ราวกับว่าอยากไปเรียนพร้อมเธอด้วย...ประมาณนั้น)

บันใดขั้นที่ 2 ... แลกเปลี่ยนความเห็นกับเธอด้วยประสบการที่สร้างสรรค์... อันนี้ผมเชื่อว่าคุณเมตตาจะเคยทำอยู่แล้วครับ...

 

ครูอ้อย คะ ขอบคุณค่ะคิดแล้วเชียวว่าครูอ้อยจะต้องช่วยได้
คุณไมโต คะ ดิฉันนึกออกขึ้นมาทันทีค่ะ ดิฉันไปรับแกเย็นมากจนเหลือเด็กคนสองคนในโรงเรียน...เพราะคุณแม่โดนงานกอดเอาไว้...แกคงโดนครูบ่นว่าแม่เธอทำอะไรอยู่....แน่เลย อาจเป็นสาเหตจะลองหันหลังให้งานทันทีที่เลิกงานแล้วไปรับลูกดูสักเดือน...ยากของแม่แต่น่าจะดีมากสำหรับ เจ้าหนูของดิฉัน
คุณนายขำ คะขอบคุณค่ะรู้สึกเราจะเป็นมิตรใหม่กันนะคะ ความสุขกับการเรียนรู้การเป็นแม่....ค่ะ

ดีแล้วครับ คุณน้องเมตตา
  • ช่างบังเอิญจัง พอดีเขียนบันทึกถามไว้
  • จะตามมาอ่านเรื่องความรัก
  • แต่มาพบเรื่องนี้ก่อน
  • น้องอาจมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้ไม่ชอบโรงเรียน เช่น คุณครูดุ ทะเลาะกับเพื่อน หรือ ติดคุณแม่ ฯลฯ
  • อาจเป็นช่วงนี้ไม่นานก็หายครับ ลองสืบหาสาเหตุนะครับ
  • พี่เมตตาคะ
  • พี่บอกว่าเพียรถาม....ถามครู..ถามเพื่อนๆ....เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมลูกไม่ชอบโรงเรียน....แล้วไม่ทราบว่าพี่เคยไปสังเกตเองมั๊ยคะ ?
  • เพราะบางครั้งการเห็นด้วยตนเองน่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนกว่าการถามผู้อื่นนะคะ
  • หวังว่าพี่คงได้คำตอบเร็ว ๆ นี้

ที่บ้านนี้เคยครั้งหนึ่ง ผมไม่อยู่ แม่ติดสอบวิทยานิพนธ์ไปรับลูกตอน หกโมงครึ่ง ลูกอยู่กับรปภ.ของโรงเรียน ร้องไห้เมื่อเห็นหน้าแม่ พร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น ว่า"ทำไมแม่ทำกับเป่าอย่างนี้"

ทำงัยดีค่ะ ลูกไม่อยากไปโรงเรียนเลย จะอาเจียนตลอด ทั้งๆที่เพื่อนก็เยอะ

ดูเหมือนเค้าเครียส จะอ๊วก เมื่อถึง โรงเรียน บางที่ก็ร้องให้ คิดถึง พ่อ-แม่ อยากให้อยู่ไกล้ๆค่ะ ทำอย่างไรดีใครมีวิธีแนะนำบ้าง หรือต้องไปหาหมดที่ไหน

คุณแม่กนกวรรณใจเย็นๆ ค่ะ ลองอ่านบทความนี้ดูอาจช่วยแก้ปัญหาได้บ้างนะคะ

“ทำไมลูกไม่ยอมไปโรงเรียน” คำถามนี้คุณพ่อคุณแม่อาจต้องหาคำตอบว่าสาเหตุนี้มาจากอะไร ส่วนใหญ่เด็กจะเริ่มไปโรงเรียนเมื่ออายุ 5 ปี แต่ปัจจุบันเราจะพบว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีผู้ช่วยดูแลลูก ดังนั้นเมื่อลูกอายุครบ 3 ปี อาจต้องให้ลูกเข้าโรงเรียน ซึ่งเด็กวัยนี้จะมีความกลัวการแยกจากพ่อแม่ กลัวคนแปลกหน้า หรือกังวลต่อสถานที่ใหม่ เมื่อพ่อแม่พาไปส่งที่โรงเรียนในตอนเช้า เด็กจะร้องไห้หรือกอดพ่อแม่ไว้ไม่ยอมปล่อยโดยเฉพาะในวันแรกที่ไปโรงเรียน เด็กจะร้องไห้มาก ต่อมาความกลัวจะค่อยๆลดน้อยลง และหายไปภายใน 2-3 เดือน เหตุการณ์เช่นนี้ถือว่าเป็นปกติ ถ้า เป็นในเด็กโต อายุ 10-14 ปี มักเกิดในช่วงเด็กเปลี่ยนโรงเรียน เปลี่ยนห้องเรียนหรือเปลี่ยนครูใหม่ช่วงเปิดเทอมใหม่ หรือหลังจากเด็กหายป่วย เด็กจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย ในตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนทุกวัน แต่พอหยุดเรียน ไม่ได้ไปโรงเรียนอาการเหล่านี้จะหายไป หรือมีอาการซึม แยกตัวออกจากเพื่อน ส่วนมากแล้วเด็กมักมีอาการเริ่มต้นแบบค่อยเป็น ค่อยไป และเป็นเวลานาน อาการจะรุนแรง ซึ่งถือว่าผิดปกติต้องให้การช่วยเหลือเด็ก หากปล่อยไว้จะเรื้อรังยากแก่การแก้ไข

คุณพ่อคุณแม่ลองหันมาดูว่าลูกเป็นเช่นนี้และสาเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้หรือไม่? ซึ่งมักมีสาเหตุหลายอย่างร่วมกัน มิใช่มาจากสาเหตุเดียวคือ

1. ความกลัวต่อการแยกจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นบุคคลที่ตนรักมาก กลัวว่าพ่อแม่จะไม่มารับในตอนเย็น หรือเด็กมีน้องใหม่ และตนเองต้องแยกเข้าโรงเรียนคิดว่าพ่อแม่ไม่รักตน ยิ่งตนเองร้องไห้อาละวาดไม่ยอมไปโรงเรียนแล้วอาจถูกพ่อแม่ขู่ว่าจะไม่รัก จะทิ้งไว้ที่โรงเรียน ยิ่งทำให้เด็กกลัวและวิตกกังวลว่าพ่อแม่ทิ้งตนเองจริงๆ

2. พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบปกป้องเกินไป หรือเด็กยังเล็กเกินไป ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ดีนัก การปรับตัวเข้ากับเพื่อนยาก เด็กจึงมีความรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์

3. พ่อแม่หรือครูมีความคาดหวังต่อเด็กสูงเกินไป ทำให้เด็กมีความกลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดีตามที่พ่อแม่หรือครูคาดหวังไว้ หรือเด็กทำดีมาตลอดแต่พลาดเพียงครั้งเดียว แล้วโดนดุก็จะทำให้เด็กกลัวและจะใช้วิธีถอยหนีโดยการไม่ยอมไปโรงเรียน

การช่วยเหลือแก้ไข

เมื่อทราบสาเหตุ และถ้าเป็นในเด็กเล็กซึ่งอาการจะค่อยลดลงถือว่าเป็นปกติ แต่ถ้าเด็กยังมีอาการไม่ยอมไปโรงเรียนถือว่าต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพื่อให้เด็กกลับเข้าโรงเรียนเร็วที่สุดเพราะยิ่งปล่อยให้หยุดเรียนนานเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้เด็กกลับเข้าโรงเรียนได้ยากขึ้นและมีปัญหาทั้งด้านการเรียนและการปรับตัว วิธีการช่วยเหลือมีดังนี้

- รายที่เป็นเด็กเล็ก พ่อแม่ควรใช้วิธีการเล่นซ่อนหาหรือเล่นจะเอ๋ เช่น เด็กเอาผ้าปิดหน้าตัวเองเล่น แล้วดึงออกพร้อมกับพูดด้วยเสียงดีใจว่า “จ๊ะเอ๋” เด็กมักจะชอบใจ และชอบเล่นซ้ำๆ โดยไม่เบื่อ การเล่นซ่อนหานี้จะช่วยให้เด็กคิดว่าเมื่อพ่อแม่หายหน้าไปแล้วก็จะกลับมาเช่นเดียวกับการซ่อนหา ซึ่งจะทำให้เด็กคลายความกังวลหรือกลัวพรากจากพ่อแม่ได้

- เมื่อเด็กมีอาการเจ็บป่วยทางกาย เช่น ปวดศีรษะ อาเจียน พ่อแม่ควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยที่แน่นอนว่าไม่ได้มีโรคทางกายซึ่งเกิดจากพยาธิสภาพจริงๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กแกล้งป่วย เพราะความกลัวหรือความเครียดจะทำให้เด็กรู้สึกเจ็บป่วยทางกายได้จริง พ่อแม่จะมีความมั่นใจว่าเด็กไม่มีโรคทางกายที่เป็นอันตรายและเด็กสามารถไปโรงเรียนได้อย่างปกติ

- พ่อแม่ต้องให้ความเข้าใจและแสดงความรักความเอาใจใส่เด็กเหมือนเช่นเดิม และยืนยันความมั่นใจแก่เด็กว่ายังรักลูกเหมือนเดิม มิได้ผลักไสไล่ส่งลูกให้ไปโรงเรียน แต่ว่าลูกโตพอที่จะเรียนรู้สิ่งที่อยู่นอกบ้านแล้วจึงให้ไปโรงเรียน

- พ่อแม่ควรมีท่าทีสงบ หนักแน่น จริงจังว่าเด็กต้องไปโรงเรียน และหลีกเลี่ยงการต่อรอง ทะเลาะ ข่มขู่ หรือลงโทษเด็ก ถ้าเด็กขัดขืน ดิ้น พ่อแม่ควรกอดเด็กไว้ และไม่โต้ตอบเด็กหรือทำให้เด็กเจ็บ และพาเด็กไปโรงเรียนเมื่อเด็กสงบลง พร้อมพูดให้กำลังใจเด็ก

- พ่อแม่ควรติดต่อครูที่โรงเรียน เพื่อร่วมมือให้ทราบปัญหาและร่วมมือกันช่วยเหลือเด็ก และครูควรมาคอยรับเด็กจากแม่เมื่อเด็กมาถึงโรงเรียน แสดงความรักความเอาใจใส่ทดแทนแม่ด้วยการโอบกอด ให้เด็กสนใจเพื่อนๆและการเล่นที่โรงเรียน พร้อมทั้งคอยปลอบเด็กและอยู่กับเด็กตลอดเวลาในระยะแรกๆ และครูควรมีท่าทีอ่อนโยนต่อเด็ก

เมื่อพ่อแม่ได้ให้การช่วยเหลือจนสำเร็จแล้วจะทำให้เด็กได้กลับเข้าโรงเรียน เด็กได้คลายความวิตกกังวลและความเครียด ก็จะทำให้เด็กมีความสุขกับพ่อแม่เหมือนเช่นเดิม

หวัดดีคับ..

กู๊ดดี้แวะมาอ่านด้วยคนคับ.. เพราะบางครั้งกู๊ดดี้ก็งอแง ไม่อยากไปโรงเรียนเหมือนกัน แต่จะเป็นในช่วงเช้าๆ เวลาจะลงจากรถ.. แต่ขากลับก็สนุกสนานดีคับ ..

คุณแม่บอกว่า คงต้องให้ปรับตัวกับเพื่อนและโรงเรียนซักระยะ

มาเป็นกำลังใจนะคับ..พี่แปม พี่ปลา..

ลูกไม่อยากไปโรงเรียนค่ะ โรงเรียนปิดเทอมหรือหยุดเทศกาลหลายวันก็ไม่เป็นอะไร พอถึงวันจะไปโรงเรียน ก็จะท้องเสียตลอดเลยค่ะ ไม่ยอมไปโรงเรียน 2 เดือนแล้วค่ะอยู่ชั้น ป.6 แล้ว หาหมอตรวจหลายแห่งก็ไม่หายจะท้องเสียตลอด ถามว่าที่โรงเรียนมีปัญหาอะไรไหมก็บอกว่าไม่มี คืนก่อนโรงเรียนเปิดจะปวดท้อง ถึงเช้าเลย ค่ะ จะมีวิธีอย่างไรดีคะ พูดคุยหว่านล้อมแล้วก็ไม่ยอมแต่งตัว ไม่เคยตีนะคะ จะพูดกับลูกอย่างไรดี

อาการเดียวกับน้องเปรมเลยค่ะ วันแรกเขายังไม่รู้ว่าต้องไปโรงเรียนใหม่ ไม่ร้องให้ ขึ้นรถโรงเรียนไปด้วยดี แม่แอนตามไปดูหนูที่โรงเรียนกับคุณพ่อ หนูนั่งเล่นระบายสีคนเดียว วันแรกของห้องเรียนบรรยากาศชุลมุนวุ่นวาย เด็กๆงอแงกันเกือบทั้งห้อง หนูเปรมไม่ยักกะร้องให้แหะ วันที่สองหนูก็ยังโอเค แต่เข้าวันที่สามหนูเห็นรถตู้โรงเรียนร้องให้วิ่งเข้าบ้าน บอกแม่แอนว่าไม่อยากไปโรงเรียน..(ที่ใหม่)หนูจะไป..(ที่เก่า) เรา(แม่แอนกะคุณพ่อ) พยามปลอบทุกวันจนหนูเลิกร้องให้ แต่..โรงเรียนปิดช่วงสงกรานต์ 10 วัน หนูเริ่มไปใหม่อาการหนูกลับมาเหมือนเดิมอีก นึกว่าหนูจะเป็นอย่างนี้สักไม่กี่วัน เพราะเราเคยทำสำเร็จมาแล้วนี่ แต่..อาการหนูหนักขึ้นทุกวัน ทำไงดีน้อ

ที่เก่าของหนู ครูพี่เลี้ยง 5 ต่อ 1 ที่ใหม่ 35 ต่อ 2 แม่แอนจะหาเวลาไปดูหนูที่โรงเรียนอีกสักวันดีก่า เนอะ

อ่านข้อความมาก็มีปัญหาไม่ต่างจากคุณพ่อ คุณแม่ท่านอื่นเท่าไหร่ค่ะ ลูกสาวไม่ชอบไป รร.เลย ปีนี้อยู่ อ.2แล้ว วันแรกไป รร.ร้องไห้ วันที่ 2 ไปง่ายหน่อย แล้วหยุดเรียน ส.-อา. พอจันทร์มาไม่ร้องไห้ที่บ้านตื่นเช้าเข้าห้องน้ำแต่งตัวไม่งอแง แต่พอไปถึง รร. ดึงแม่ไว้ไม่อยากเข้า รร. แถมน้ำตาคลอเบ้าก่อนจะขึ้นห้องเรียน ทำให้เครียดมาก ยิ่งกว่านั้นคุณแม่รู้สึกว่าน้องไม่สามารถเข้ากับเพื่อนได้ เวลาอยู่บ้านก็จะเลือกเล่นกับเด็กแค่ คน 2 คนในหมู่บ้าน พอไปที่ รร.คุณแม่เห็นเพื่อนน้องมาเล่นที่สนามเด็กเล่น บอกให้น้องไปเล่นกับเพื่อนแต่น้องไม่ยอมไปเล่นกับเพื่อน พอวันหลังบอกให้ไปเล่น น้องก็เล่นไม่ทันเพื่อน และก่อนหน้านี้ อ.1 เวลามีกิจกรรมที่ รร. คุณแม่เห็นเพื่อนน้อง บอกน้องบอกว่าเพื่อนมาแล้ว น้องรีบแอบ ไม่ยอมไปเล่นกับใครเลย อย่างนี้น้องผิดปกติไหมค่ะ ผิดปกติกว่าเด็กทั่วไปไหม แล้วต้องทำยังไงให้น้องสามารถเข้ากับเพื่อนๆ ได้ ใครมีวิธีช่วยแนะนำด้วยค่ะ .....เวลาอยู่ที่บ้านก็ไม่ชอบออกไปเล่นบ้านเพื่อน ไม่อยากจะออกไปเล่นนอกบ้าน ทั้งๆ ที่คุณแม่พยายามพาออกไปเดินเล่น พาไปเล่นที่ต่างๆ ที่มีเด็ก น้องจะไม่ค่อยสนใจใคร เล่นอยู่คนเดียว.... แต่เวลาเล่นกับคุณแม่น้องก็จะมีความสุขดี ใครมีความรู้หรือประสบการณ์ช่วยแนะนำด้วยนะคะ อยากทราบวิธีแก้ไข และวิธีดูแลน้องค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท