ก็เป็นคนแบบ....เนี๊ยะ !!


ทำไมแตกต่างกันราวฟ้ากับดินได้ก็ไม่รู้?

ก็อาย ๆ เหมือนกันแฮะที่จะเปิดเผยเรื่องราวของตัวเอง .... จำได้ว่าแต่ก่อนตัวเองเป็นคนขี้อายและขี้กลัวมาก ตอนนี้ก็ยังเป็น...แต่อาจลดดีกรีลงสักหน่อย....(จาก100 เหลือ 99.9 เปอร์เซ็นต์)  

ที่อยากเขียนเรื่องนี้ก็เพราะเมื่อวันอาฑิตย์ที่ผ่านมามีคุณครูประจำชั้นน้องใบเตยและน้องต้นตาลมาแวะเวียนเยี่ยมบ้าน จึงได้พูดคุยกับคุณครูทั้งสอง ...

ทำให้รับรู้ว่า..ลูกสองคนนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิงเกือบ  ๆจะ หน้ามือกับหลังเท้า เอ๊ย ! หลังมือ น้องใบเตย(ผู้หญิงคนพี่) ชอบแสดงออก ชอบแกล้งเพื่อน โดยเฉพาะใครที่เรียบร้อยล่ะเสร็จน้องใบเตย และคอยแต่จ้องจะออกไปข้างหน้าชั้น ในขณะที่น้องต้นตาล (ผู้ชายคนน้อง) ขี้กลัวและอายสุด สุด เมื่อต้องออกไปหน้าชั้นก็จะยืนแอบอยู่หลังสุดของเพื่อน แต่ถ้าออกไปคนเดียวล่ะก็ ตัวสั่งยังกะเจ้าเข้าแน่ะ 

ประเด็นอยู่ที่ว่า แต่ละคนนิสัยเหมือนใคร ???กันแน่ --(นายดำถาม )

เราสรุปกันว่าน้องใบเตยนิสัยเหมือนพ่อ น้องต้นตาลนิสัยเหมือนแม่ โดยเฉพาะขี้อายและไม่กล้าแสดงออก ผู้เขียนยอมรับโดยดุษฏี โดยเฉพาะตอนเด็ก ๆ ขี้อายและกลัวมาก  ๆ จำได้ว่าเมื่อต้องออกไปหน้าชั้น ผู้เขียนสวดมนต์ภาวนาขอให้เวลาหมดเร็ว  ๆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ส่วนใหญ่ได้ผลทุกที

จำได้ว่านิสัยตัวเองเริ่มเปลี่ยนได้บ้าง.(พอประมาณ)...ก็คงเป็นตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยนั่นเอง เพราะตอนปิดเทอมผู้เขียนไปสมัครทำงานโดยไปสอบถามชาวบ้านในเขตภาคใต้ ...เกี่ยวกับเรื่องการคุมกำเนิด อะไรประมาณนั้น วันหนึ่งต้องไปสอบถามเรื่องราวชาวบ้าน  แบบสอบถามต่อรายเป็นเล่ม เล่มหนึ่งสิบกว่าหน้าหรือ 20 หน้าจำไม่ค่อยได้ วันหนึ่งผู้เขียนทำได้.....(จำไม่ค่อยได้ แต่มากกว่าคนอื่น ๆทุกวัน) .เล่นเอาเกือบจะนอนละเมอพูดออกมากลางคืน

ผู้เขียนเป็นคนทำงานดี เร็ว  เป็นที่ชื่นชม (เข้าข้างตัวเองไปรึเปล่าเนี่ย !!) ถ้าเป็นเรื่องงานผู้เขียนจะกล้าพูดกล้าถามและกล้าเสนอตามหน้าที่... แตกต่างจากพี่คนหนึ่งที่เป็นคนเงียบ เรียบร้อย ทำงานช้า ไม่พูดไม่จา ไม่ค่อยแสดงความเห็น ซึ่งไม่เป็นที่ชื่นชอบและชื่นชม และบ่อยครั้งที่โดนดุและว่ากล่าว ตัวเองเลยเห็นชักเห็นประโยชน์ของความแตกต่าง จึงกล้าที่จะพูดกล้าคุยและเสนอมากขึ้น แต่ก็ไม่มากจนเกินไป.....

คิดไปคิดมา จริง  ๆ แล้ว....

เราก็เลี้ยงลูกมาแบบเดียวกัน แต่ทำไมแตกต่างกันราวฟ้ากับดินได้ก็ไม่รู้?  หรือจะเป็นที่ยีน และกรรมพันธ์ (โทษเข้าไปนั่น)  จะอะไรก็ช่างมันเถอะ ยังไง๊ ยังไง ก็เป็นคนแบบ....เนี๊ยะ

รู้ตัวเหมือนกันว่าแบบเนี๊ยะ ...ไม่ค่อยจะดี (เท่าไร)

 

หมายเลขบันทึก: 56546เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2006 11:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • จะเป็นแบบนี้ หรือว่า แบบไหน ไม่สำคัญเท่า เรารู้ว่า เราเป็นแบบไหน แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือ คนอื่นรู้ ว่าเราเป็นคนแบบไหน
  • อ่านไป ยิ้ม ไป จริง ๆ ค่ะ
หากโลกนี้มีแต่คนพูด...ก็จะขาดคนฟัง
หากโลกนี้ไม่มีคนกล้าแสดงออกเราจะหาคนกล้าแสดงออกได้ที่ไหน
หากโลกนี้มีแต่คนอ่อนหวาน....คงเลี่ยนน่าดู
หากโลกนี้ไม่มีคนละเอียดละออ...คงไม่น่าดูชม

เขียนมาตั้งนานจะบอกว่าคุณศิริเป็นคน ละเอียดอ่อนคนหนึ่ง(ดิฉันสังเกตจากงานเขียน...ไม่น่าจะผิด)
พูดถึงนิสัยพี่นิสัยน้อง เขาว่าให้ยกนิ้วตัวเองดู ต่างมีลักษณะและจุดเด่นของตนค่ะ...แม้มาจากลำแขนเดียวกัน....ลูกดิฉันก็ต่างกันค่ะ....ออกมาจากเป้าเดียวกันสภาพแวดล้อม..พี่เลี้ยง..คนเดียวกัน....ต่างกันที่ใจแม่....ลูกคนหลังไม่ค่อยเห่อ...เธอเลยดูเข้มแข็ง...รู้จักสร้างสุขให้ตัวเองกว่าคนพี่ค่ะ...ที่ต้องคอยให้แม่เชียร์แม่ลุ้นตลอดเวลา...
  • พี่เม่ยว่าพี่กับน้องไม่ต่างกันหรอกค่ะ  อย่างน้อยก็ได้จากพ่อครึ่งนึง แม่ครึ่งนึงแหละน่า....คุณศิริต้องค่อยๆค้นหา แคะ ขุด คุ้ย ก็จะพบได้นะ
  • อย่างสองสาวของพี่เม่ยนะ ส่วนดีๆน่ะเหมือนแม่ทั้งน้านนนนน ส่วนอื่นๆที่ขัดใจเรา โอ๊ย เอาของป๊ามาทั้งเพ้....สบายใจจัง

คุณรัตติยาค๊ะ ขอบคุณค่ะ รู้สึกอายเล็ก  ๆแต่ยอมรับความจริงค่ะ ที่จะบอกว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน ??  

พี่เม่ยค๊ะ  อ่านแล้วนึกถึงเรื่องของตัวเองเลย นายดำพูดประจำเลยว่า ที่ดี ๆ น่ะเอามาจากเขาทั้งนั้น นิสัยซุ่มซ่าม ทะเล่อทะล่าหรือเวลาทำอะไรผิด นำมาจากแม่ค่ะ เฮ้อ! เป็นงั้นไป --อิ อิ

พี่เมตตา ขอบคุณที่ชมค่ะ ผู้เขียนก็รู้สึกตัวเองค่ะว่าเป็นคนละเอียดอ่อน และใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่น นอกจากนี้ยังเป็นคนมองโลกในแง่ดี๊ แง่ดีอีก (เห็นมั๊ยค๊ะ ไม่ค่อยจะเข้าข้างตัวเองสักเท่าไรเลย)

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท