เรื่องอันเป็นเป้าหมายของงานเขียนฉบับนี้เป็นประเด็นของการศึกษาเรื่องสิทธิเด็กในปัจจุบัน หลายหน่วยงานในระดับระหว่างประเทศได้พยายามที่จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นเป็นวาระที่สำคัญของประชาคมระหว่างประเทศ ดังจะเห็นจากความตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับที่ได้กำหนดถึงเรื่องนี้
การจดทะเบียนการเกิดเป็น “กระบวนการ” ที่รัฐเจ้าของดินแดนหรือรัฐเจ้าของบุคคลได้แสดงการรับรองเหตุการณ์อันหนึ่ง กล่าวคือ “การเกิดของมนุษย์คนหนึ่ง” เรื่องของการรับรองการเกิดของมนุษย์คนหนึ่งบนดินแดนของตนนั้น เป็นคนละเรื่องกับการยอมรับให้สัญชาติ รัฐอาจรับแจ้งการเกิด โดยที่ไม่ให้สัญชาติก็ได้ หรือรัฐอาจให้สัญชาติ โดยไม่ยอมให้การรับรองการเกิด ก็เป็นได้
ในวันนี้ ความตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับพยายามที่จะกำหนดให้การจดทะเบียนการเกิดเป็น “หน้าที่ของรัฐเจ้าของดินแดน” และในทางกลับกัน บทบัญญัตินี้ย่อมส่งผลให้ “เด็กมีสิทธิในทะเบียนการเกิด” การที่รัฐปฏิเสธที่จะรับแจ้งเกิดและบันทึกชื่อและรายละเอียดส่วนบุคคลของเด็กลงในทะเบียนของรัฐ จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ตกตะกอนจากหลายความตกลงระหว่างประเทศในเรื่องนี้
แล้วรัฐไทยปฏิเสธที่จะจดทะเบียนการเกิดให้แก่เด็กที่เกิดในประเทศไทยหรือไม่ ? และหากรัฐไทยเคยละเลยที่จะจดทะเบียนการเกิดให้แก่อดีตเด็ก รัฐไทยจะเยียวยาปัญหาความไร้สถานะในทะเบียนราษฎรของอดีตเด็กเหล่าอย่างไร ?
นอกจากนั้น ปรากฏมีคนที่เป็นเด็กและอดีตเด็กจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนการเกิดในประเทศที่พวกเขาเกิด แต่วันนี้ พวกเขาอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนในประเทศไทย บางก็เพิ่งเข้ามา และบางก็เข้ามานานแล้ว จนได้กลายเป็น “บุพการีของเด็กและเยาวชนที่เกิดในประเทศไทย” พวกเขาทั้งหมด ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนถึงรุ่นลูก และผ่านไปถึงรุ่นหลานเหลน คนอพยพกลุ่มหลังนี้ต่างก็มีความกลมกลืนทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจกับสังคมไทย รัฐไทยในวันนี้จึงมีนโยบายชัดเจนที่จะให้สถานะคนต่างด้าวที่ชอบด้วยกฎหมายแก่คนอพยพรุ่นแรกที่เกิดนอกประเทศไทย และให้สัญชาติไทยแก่คนรุ่นที่สองและสาม
ในส่วนที่เกี่ยวกับคนอพยพนั้น คำถามที่ต้องถามตัวเองและเพื่อนร่วมคิดหลายคน ก็คือ หากฟังว่า คนอพยพไม่ได้รับการจดทะเบียนการเกิดจากรัฐต้นทาง รัฐไทยและสังคมไทยควรจะต้องผลักดันให้คนอพยพเหล่านี้ได้รับการจดทะเบียนการเกิดย้อนหลังด้วยหรือไม่ ?
บทความนี้พยายามจะตอบคำถามทั้งหมดข้างต้น แต่ก็คงไม่สามารถตอบอย่างละเอียดละออในทุกจุดที่หยิบยกขึ้นมา โดยเจตนาของผู้เขียนเอง ผู้เขียนประสงค์ที่จะสร้างสรรค์บทความนี้ขึ้นเพื่อนำเสนอข้อค้นพบและข้อเสนอแนะทางวิชาการในประเด็นที่มีความสำคัญ ๓ ประการเกี่ยวกับการจดทะเบียนการเกิด กล่าวคือ
ในประการแรก ผู้เขียนใคร่จะนำเสนอบทสังเคราะห์แนวคิดด้านนิติศาสตร์ในประเด็นที่ว่า “การจดทะเบียนการเกิดเป็นสิทธิของมนุษย์ที่เกิดในประเทศไทย” ผู้เขียนใคร่จะยืนยันผ่านบทความนี้อีกด้วยว่า “สิทธิดังกล่าวเป็นความชอบด้วยกฎหมายที่มนุษย์ซึ่งเกิดในประเทศไทย ย่อมต้องได้รับทั้งภายใต้กฎหมายไทย หรือกฎหมายระหว่างประเทศ”
ในประการที่สอง ผู้เขียนใคร่จะขอนำเสนอแนวคิดและมาตรการที่รัฐไทยควรจะใช้ในการแสดง “ความรับผิดชอบต่อมนุษย์ที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนการเกิด” ซึ่งมนุษย์ในสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดในหรือนอกประเทศไทย
ในประการที่สาม ผู้เขียนใคร่จะขอนำเสนอแนวคิดและมาตรการเมื่อพบว่า “มีการกระทำทางปกครองของเจ้าหน้าที่ของรัฐไทยที่มีผลเป็นการปฏิเสธสิทธิในทะเบียนการเกิดของเด็กและอดีตเด็กที่เกิดในประเทศไทย”
ที่มาของข้อมูลในการเขียนบทความนี้ ก็คือ งานวิจัยที่ผู้เขียนทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๕ มาจนปัจจุบัน[1] และงานให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายซึ่งผู้เขียนเริ่มต้นทำอย่างจริงจังตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๓๗ จนถึงปัจจุบัน[2]
ไม่มีความเห็น