ถอดมาจาก CD ประสพการณ์ ตาย 4 วันแล้วฟื้น และท่องเมืองนรก


ถอดมาจาก CD ประสพการณ์ ตาย 4 วันแล้วฟื้น

กระผมใคร่กราบนมัสการขออนุญาตเจ้าของเสียงนี้ซึ่งทราบว่าเป็นพระภิกษุ เผยแพร่ข้อความของท่านจาก CD ที่กระผมได้มาจากวัด ดงเย็น อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ถ้าใครรู้จักช่วยยืนยันความ มี เป็น อยู่จริงๆ ของท่านด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

"มีเรื่องมาคุยให้ญาติโยมฟัง ขอแนะนำตัวเองก่อน..อาตมานั้นนามชื่อว่า

พระวรยานเมธี ตรีปิฎก คณิตศร อมรรัตนดิลก คามะวาสี อรัญญะวาสี สามัญเปรียญวิปัสสนา สพ.วิ ชั้น 4 นามเดิมชื่อว่า หม่อมหลวง บูรฉัตร ณ อยุธยา เป็นบุตรของโยมพ่อ

พลโทหม่อมราชวงศ์ จำรัส บูรฉัตร ณ อยุธยา แม่ทัพภาคที่ 3 โยมแม่นั้นคือผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงพยุนี บูรฉัตร เป็นแพทย์รามาธิบดี อาตมาเป็นลูกคนที่ 2 ในตระกูลทั้งหมดลูกผู้ชาย บวชนานที่สุด 28 พรรษา เป็นเณร 8 พระ 20 ก็ไม่นานเท่าไร ถ้าเป็นเด็กน้อย ก็ยังไม่ทันโต อายุปัจจุบัน 40 ไม่แก่หรอก แต่บิณฑบาตเดินท้าย เขาก็เลยทักว่าเณร

ไปบิณฑบาต ต่างจังหวัด ต่างอำเภอ จะไม่ค่อยได้เดินหน้า ให้ลูกศิษย์เดินออกหน้า เราจะเดินตามหลัง เขาก็จะรู้จักเพียงแค่องค์หน้านั่นแหละ คืออาจารย์ องค์หลัง ไม่นาน เกินมาไม่นาน อายุ 40 ถามว่าทำไมดูผิวพรรณวรรณะไม่เหมือนคนอายุรุ่น 40 ปี บอกไม่ได้ มันเป็นปัจจัตตัง ครูบาอาจารย์ของอาตมามี 4 รูปรวมทั้งอุปัชฌาก็คือ 5 รูป ก็คือ

สมเด็จพระอริยวงศาคัตะยาณ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 นั่นคือพระอุปัชฌา อาจารย์องค์ที่ 2 ที่สอนกรรมฐานให้อาตมานั้นคือพระเดชพระคุณหลวงปู่แหวน สุจิณโน วัดดอนเมต จังหวัดเชียงใหม่ องค์ที่ 2 นั้นคือ พระครูเกษม เขมะโก หลวงปู่เกษม เขมะโก ศึกษาไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง องค์ที่ 3 นั้นคือ พระเดชพระคุณพระราชพรมญาณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยฯ องค์ที่ 4 นั้นองค์สุดท้ายคือพระเดชพระคุณพระราชนิโรธ คือหลวงปู่เทพ เทศรังษี วัดหินหมากเต้ง และองค์ที่ 5 นี่แหละ คือญาติโยม คือเป็นครูบาอาจารย์ให้เราดู

เป็นครูบาอาจารย์ให้เราดู ไปทุกสถานที่ที่ไปมาในประเทศไทยและต่างประเทศ ไปเผยแพร่ธรรมะ สิ่งต่างๆให้โยมเข้าใจ ไปอยู่ที่อเมริกานั้น 8 ปี อยู่ที่ประเทศอินเดีย 2 ปี อยู่ญี่ปุ่น เดนมาร์ก ฝรั่งเศส อังกฤษ นั้นอย่างละปีๆ รวมแล้วต่างประเทศนั้นอยู่ 76 ประเทศ 2 รัฐ รวมทั้งประเทศไทยก็ 77 ประเทศพอดี ไม่มาก ประสบการณ์มีน้อย เดินธุดงค์ก็เพียงแค่เดินใกล้ๆแค่ประเทศไทยไปประเทศพม่า ประเทศไทยไปประเทศลาว แค่ไปญวณ แค่ไปกัมพูชาใกล้ๆนี่เอง 2000 กว่ากิโลฯ ถ้าใช้รถวิ่งก็ประมาณ 3 วัน ถ้าใช้เดินก็

ประมาณเกือบๆ 2 ปี ไม่นาน เรามาเข้าเรื่องดีกว่า ยังไม่ได้เทศน์นะ เดี๋ยวตั้งนะโมก่อน

 

นโมตัสสะภควะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

นโมตัสสะภควะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

นโมตัสสะภควะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

สัพปาปัสสะ อะการะนัง กุสะรัสสุ ปะสัมปะดา สจิตตะ ปริโย ทัสสะนัง เอตัง พุทธาทะสาสะนัง ติ

โยมเอามือลง กราบนมัสการพระเดชพระคุณท่านพระครูสุตตะวรากร เจ้าคณะตำบลหนองระเวียง คณะครูบาอาจารย์ที่มาร่วมฟัง จะขอเริ่มเรื่อง พาไปเที่ยวเมืองนรก ..โยมตั้งใจฟังนะ..มันเหมือน เหมือนเมืองนรกจริงๆแหละ นั่งนึกแล้วก็จินตนาภาพ จินตนาการไปป่า

ป่าตรงเนี้ย เหมือนครั้งนึง เคยมาครั้งนึง แต่ก็จำไม่ได้ว่าครั้งไหน ป่าสถานที่ตรงนี้ เมื่อวานท่านพระครูบอกว่า มี 2 อย่าง ถ้าฝนไม่ตกเทศน์ในป่า ถ้าฝนตกเทศน์ในศาลา ก็ภาวนาว่า อย่าให้ฝนตก ขอเทศน์ในป่าดีกว่า เห็นญาติโยมได้ชัดกว่าในศาลา ในศาลามันแคบเพราะญาติโยมเป็นพัน ถือว่ามากนะฮะ ในรอบ 2 เดือนที่เทศน์มาโยมมากที่สุดในรอบนี้ นอกนั้นก็จะเป็นหกเจ็ดร้อยคน ธรรมดา ไม่มากเท่าไร นี่วันนี้มากที่สุด ก็ขออนุโมทนาบุญคนที่อยากเจอ คนที่อยากเห็น คนที่ไม่รู้จัก คนที่อยากสัมผัส คนที่อยากแตะอยากต้องอยากจับ

อนุญาต แต่ มีแต่ด้วย จับแต่ห้ามคลำ ห้ามคลำ จับได้นิ จับแตะๆได้ แต่จิตต้องดี จิตต้อง..จิตใจต้องดี ไม่ใช่มีความกำหนัดแล้วมาจับ ไม่ได้ อนุญาติให้จับได้ ทุกคนฮะ อนุญาติทุกคน เพราะว่าที่อนุญาตให้จับเพราะคนต้องการอยากจะรู้ว่า เนื้อหนังมังสาปกติของท่านจริงๆไหม จริงๆนะ จริงๆเลยเนื้อจริงๆ ไม่ใช่ไปแต่ง ไปทำศัลยกรรม ไม่ได้ไปทำเบบี้เฟสมาจากไหน เป็นเนื้อจริงๆ แต่เล็บที่เห็นนี้คือเล็บใหม่ เพราะเล็บตอนที่ตายไปนั้นมันหลุดหมดแล้ว นี่เป็นเล็บใหม่ ฟันนี้เป็นฟันจริงๆ ฟันโดยกำเนิด ไม่หักไม่กร่อน สายตาดวงตาจริงๆ หูจริงๆ จมูกจริงๆ ไม่ได้ไปแปลงร่างมา ไม่ได้ไปดึงหน้าดึงตามา นี่แหละจริงๆเลย 40 วันนี้นะให้ญาติโยมเข้าใจว่า ถ้าเรานั่งพิจารณาตามหลักของคนที่มีสติปัญญา

สจิตตะปริญโญ ทัตตะนัง การชำระจิตของตนให้มีความขาวสะอาด ชำระจิตแบบไหน?

ก็คือการนั่งฟังสุตตะมะยะปัญญา นั่งฟังให้ดีๆ แล้วมันจะเกิดปัญญา โยมมาเพื่อความสนุก เพื่อต้องการอยากจะเจอ อยากจะเห็น อยากจะได้ยิน อยากรู้อยากเห็นแค่นั้นเอง แต่ว่าฟังธรรมแล้วไม่ปฏิบัติ มันไม่เกิดผล ต้องให้ได้ทั้ง 2 อย่าง คือ เห็นแล้วได้ยินแล้วได้ฟังแล้วต้องน้อมนำไปปฏิบัติด้วย ตั้งแต่ฟื้นมานี่จะทำบุญตลอด เพราะรู้ว่าบาปมีจริง เวรมีจริง กรรมมีจริง บุญมีจริง ถ้าใครตายจากตรงนี้ไปแล้ว และฟื้นขึ้นมา คนนั้นจะทำบุญเก่ง สังเกตโยมสังเกต มีหลายคน สองสามวันตายไปแล้ว สามสี่ชั่วโมง แปดเก้าชั่วโมง ตายไปแล้ว ฟื้นขึ้นมาจะกลับบาป กลัวบาปมากเลย แล้วจะทำจริงๆ สบู่ ยาสีฟัน ผลไม้ที่อยู่ในวัด บางคนถือวิสาสะ มีพระเคยถามอาตมา พระอาจารย์ช่วยเทศน์บอกโยมด้วย โยมเห็นมะม่วงวัด เห็นชมพู่วัด เออ..วัดเรา เนี่ยวัดเรา ต้นไม้เรา เราปลูกไว้ ที่ของเรา เรายกให้วัด เห็นเจ้าอาวาสไม่อยู่ ก็บอก เจ้าอาวาส อาจารย์ขอมะม่วงลูกนะ แต่เจ้าอาวาสไม่อยู่หรอก พูดเองก็เออเอง ..เออ

แล้วเด็ดเลย ขึ้นไปเด็ด เอาเอง สบู่ ยาสีฟัน สังฆทานก็เก็บไปเอง พวกนี้ไม่ได้บุญ ได้กุศลอะไร มาเพียงแค่จะเกิดเป็นเปรต จิตเป็นเปรตตั้งแต่ตอนที่คิดแล้ว เริ่ม เริ่มเป็น พระพุทธเจ้าบอกว่า เปรตเนี่ยไม่ต้องดูตอนตายนะ ดูตอนเป็นๆ ถ้าจะเป็นเทวดา เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์เดียรัจฉาน เป็นยักษ์ ให้ดูตอนที่เราเป็นมนุษย์เนี่ย เราเหมือนอะไร แบบไหน ตอนที่เราเป็นมนุษย์เนี่ยถ้าเรากินไม่รู้จักเวล่ำเวลา เขาเรียกว่าสัตว์เดียรัจฉาน กินไม่รู้จักเวล่ำเวลาเนี่ยนะ กินไม่รู้จักอิ่มเนี่ย เขาเรียกว่ายักษ์ กินมาก กินเช้า กินเย็น กินหัวค่ำ กินกลางคืน เนี่ย เขาก็เป็นยักษ์ ถ้ากินรู้จักกิน เนี่ยเขาเรียกว่าเป็นพรหมเทวดา ถ้ากินรู้จักเวล่ำเวลาเขาเรียกว่ามนุษย์ ไม่เบียดเบียนเขา วางตนให้เหมาะสมสำมาอาชีพ สัมมาอาชีวด้วย ชีวิตของมนุษย์เราทุกวัน มันเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง โลกมันวิกฤติ เศรษฐกิจมันแย่ เริ่มจะดีขึ้น โดยที่ท่านนายกทักษิณมาเป็นนายกนี่แหละ เริ่มดีขึ้นภายใน 2-3 ปีที่เห็นมา แต่ก่อนนั้นมา รู้สึกบ้านเราจะแย่ไป แย่ลง แย่ลง อันนี้เราพูดถึงบ้านเมืองเรา ตอนนี้โยมกำลังจดจ่อกับเรื่องการฟัง ย้อนไปจากนี่ 11 ปี ประมาณโดย 11 ปี ปี 2537 นานไหมโยม 37 นาน 11 ปี อาตมาก็คิดว่ามันนานแล้ว 11 ปี เขากำหนดให้อยู่เพียงแค่ 10 ปี เขาให้ลงมาอยู่ 10 ปี แต่นี่เกินไปแล้วเกือบปี ตอนที่ถึงกำหนดนั้น ใจไม่ดีฮะ เกิดหน้ามืด วิงเวียน รถประสบอุบัติเหตุด้วย เมื่อปีกราย มันครบกำหนดพอดี ครบกำหนด ซึ่งวันที่เขากำหนดนั้น เป็นวันที่เขาออกเดินทางแล้วประสบอุบัติเหตุ คิดว่าตายแล้ว แต่ไม่ตาย ก็ ก่อนจะออกเดินทาง ก็อธิษฐานแล้วว่า วันเนี้ย ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไปเทศน์ไม่ได้ ต่างจังหวัด ถ้าออกเดินทางก็ต้องประสบอุบัติเหตุ ยังไงก็ต้องไป ถ้าอยู่วัด อยู่เฉยๆ โยมก็จะว่ารังเกียจ ไม่ไปงานเทศน์โยม บ้านนั้นไปได้ บ้านฉันทำไมไม่ไป ก็เลยต้องไปฮะ ไปแต่ไม่ถึงงาน อยู่แค่โรงพยาบาล 27วัน เมื่อปีกราย อยู่ห้องไอซียูด้วย ไม่รู้เรื่องเลยฮะ รถคว่ำเนี่ยไม่รู้ ก่อนรถจะคว่ำเนี่ยรู้ เพราะว่าหัวมันไสไปกับฝุ่น แต่ไม่รู้ว่ามันไปยังไง มันมืดไปหมดเลย ได้รู้ว่ารถจะคว่ำ บอกว่าให้รัดเข็มขัด ให้เขารัด เขารัดเสร็จ เรายังไม่ทันรัด คว่ำเลย เป็นเหตุอย่างนี้เองนะ ซึ่งจะต้องพยายามระมัดระวังตัวมากปีนี้ที่จะไปตรงไหน ไปที่ไกลๆ ระมัดระวังตัวในการเดินทางเป็นอย่างมาก มีซิกเซ้นส์ไม่เหมือนคนอื่นเขา อะไรที่ได้มาแปลกๆก็ได้ไม่เหมือนเขา คนรุ่นราวคราวเดียวกัน นั่งอยู่ด้วยกัน เขาไม่รู้หรอก เราเป็นเณร เป็นพระ เป็นอะไร ไม่รู้หรอก เราก็นั่งอยู่ใกล้ๆ เวลาเขาเรียกขึ้นไปสวดแล้วเราก็ต้องไปนั่งหน้าเขา ให้พระมหาชั้นเอกไปนั่ง พระครูก็นั่งองค์ที่สอง ที่สาม ที่สี่ เขาจึงรู้ว่าเป็นอะไร เขาบอกว่า รู้แล้วอย่าอวด ไอคนไม่รู้ชอบอวดเสียเยอะ ไอคนไม่รู้ก็อยากรู้เยอะ และคนไทยนิสัยเสียอย่างคือ ไม่ชอบอ่านแต่ชอบจำ จำแล้วไปพูดแล้วผิดหมดเลย ย้อนจากนี้ไป 10 ปี ปี 2537 ตรงกับวันที่ 17 กุมภา นานเหมือนกันนะโยม 17 กุมภา วันนั้นประมาณบ่ายๆ ในขณะนี้แหละ ขณะที่โยมนั่งฟังอาตมา แดดก็ออก ภูเขาเลากาอย่างนี้แหละ ต้นไม้ใหญ่ๆอย่างนี้แหละ เดินมาส่งน้ำ เดินมาจากตีนเขา มาส่งน้ำ ไปเดินธุดงนะฮะ ส่งน้ำจากยอดเขามาปลายตีนเขา ระยะทางประมาณ 300 เมตร ถือครุมาใบหนึ่ง ครุก็คือถังสีเหลือง แล้วในครุก็จะมีกล่องสบู่ มียาสีฟัน มีผ้าอาบ แล้วก้อถือไม้เท้ามาอันนึง เดินมา เดินมา เดินมาถึงประมาณเกือบๆตีนเขา ล้มฮะ ทางเดินลงเขาข้างล่างมันจะชัน หน้ามันจะเดินคว่ำ ไม่ใช่หน้าหงายขึ้น หน้าเดินคว่ำ หน้ามืด หน้ามืดแล้วก้อล้ม ก่อนที่เราจะล้ม ร่างกายเราจะล้มไป ร่างมันออกไปแล้ว ไปยืนอยู่ข้างๆน่ะ ตอนล้มก็เลยไม่รู้สึกเจ็บ เพราะว่าวิญญาณมันออกแล้ว เวทนาไม่มีความรู้สึก เวทนาไม่รู้สึก มนุษย์มันมี 5 ขันธ์ โยม มนุษย์เราเนี่ยมี 5 ขันธ์ คือรูปเวทนา สัญญา สังขาน วิญญาณ แต่วิญญาณผีมันมี 4 ขันธ์ มีเวทนา สัญญา สังขาน วิญญาณ แล้วก็มีขันธ์เดียว ที่โยมนั่งอยู่น่ะ ต้นไม้ ขันธ์เดียว ธูปขันธ์เดียว เทียนขันธ์เดียว สากกะเบือ เสาเรือน สังกะสี ขันธ์เดียวก็คือธูปนั่นเอง ไม่มีเวทนา ไม่มีสัญญา ไม่มีสังขาน ไม่มีวิญญาณ ไม่มีความรู้สึก ไม่มีสัญญาความจำได้ อันนี้เค้าเรียกว่าขันธ์เดียว แต่ผีเนี่ยมีแค่ 4 ขันธ์ ออกจากร่างกายปุ๊บ เวลาล้มก็เลยไม่รู้สึกเจ็บ ล้มเนี่ยไม่รู้สึกเจ็บ ก้อเลยยืนอยู่ตรงนั้น หมามันเห่า หมาที่ตามมา ตามลงมา มันเห่า พระก็เลยได้ยินหมาเห่า ก็เลยวิ่งมา พระมาหาบุญเอิบ ญาณะภโรองค์หนึ่ง แล้วสามเณรธนากรองค์หนึ่ง หลังจากล้มปุ๊บนี่ สภาพร่างกายล้มฟุบ วิญญาณเราเนี่ย ยังยืนอยู่เฉยๆ ก็พอดีมีผู้หญิงคนนึงเดินมา เขาเดินมานะ แต่รู้สึกจะเดินมาก้าว 2 ก้าว ก้อเดินมาหา มาถึงก็มากราบ เดี๋ยวจะบอกก่อนบอกรายละเอียดก่อน หลังจะออกฟุบเนี่ย อาตมาพลาดจีวรไป สบงค์ อังสะ มีผ้าอาบ เวลาออกก็ออกชุดนั้นเลย ออกชุดนั้น มีจีวร มีสบง มีสังขาน มีชุดนั้นไปเลย ชุดเดียวกันที่ใส่ ชุดนี้แหละ ชุดเดียวกัน มันเก่าแล้วก็ย้อม เก่าแล้วย้อม ปีนี้ได้ชุดใหม่ คุณโยมพิมพรรณ ซื้อไปถวาย เป็นชุดไตรกฐิน แต่ก็ไม่รักเท่ากับชุดนี้ที่ใส่ ชุดนี้หลายปีแล้ว แต่มันเก่าแล้ว ก็จะย้อม ลูกศิษย์จะย้อมถวาย บางทีใกล้ๆจะขาด จะไปปะ แต่ไม่ขาด จีวรชุดนี้ไม่ขาด เก็บไว้อย่างดี เนี่ยที่ใส่ไว้นี่ฮะ แล้วไม่หาย ไม่มีใครลัก ญาติโยมไม่ลัก ตากไว้ก็ไม่หาย พระก็ไม่กล้าใช้ด้วย เพราะเป็นของครูบาอาจารย์ ออกจากตรงนั้นปุ๊บ พระก็ไปครองขึ้นไปบนเขา เราก็เดินตามไป มีผู้หญิงเดินออกหน้าไป แล้วก้อเดินตามไป พระก็ประคองร่างเราไป ประคองขึ้นไป แบกซ้ายแบกขวาไป เราก็บอกว่า จะเอาไปไหน จะเอาไปสงค์น้ำ เขาไม่ได้ยินเรา แสดงว่าการพูดคุยของเรานั้นไม่ได้ผล ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า จะเดินตามเขาไปหรือว่าจะ… เขาไม่ได้พูดนะฮะ แต่นี่พูดเป็นภาษาปาก เขาเพียงแค่นึก เราก็นึกเฉยๆ ปากไม่ได้ขยับ เพียงแค่รู้ว่า เขาพูดใส่เรา เราก็พูดใส่เขา แต่นี่พูดออกมาเป็นเสียง แต่อยู่กับเขาจริงๆนั้นไม่ได้พูด เขาไม่ได้ขยับปาก แต่จิตเขานึก จิตเรานึก เรียกว่า สัญญาจิต เราจะเดินตามเขาไป เราว่าอย่างนี้ เขาก็เอาไปใส่วางไว้กับจีวร ปูผ้าเรียบร้อย หลวงพ่อก็เลยบอกว่า ท่านมหา อาจารย์มหา เสียแล้ว ได้ยินคำว่า เสียแล้ว รู้สึกเสียใจ เพราะยังไม่ได้บอกกับพ่อกับแม่ ทำยังไงดีหนอ ไม่รุ้จะทำยังไง ก็พระท่านก็เลยบอกว่า ไปบอกผู้ใหญ่ บอก อบต. บอกชาวบ้าน ประชาสัมพันธ์ ไปเรียนนายอำเภอให้ทราบว่า พระอาจารย์ท่านมรณภาพแล้ว เขาก็จัดการวิ่งเต้น เราเนี่ยไปเที่ยวฮะ ตอนนั้นไปเที่ยว เดินทางขึ้นไปเที่ยว ไปทางนู้นแหละ ทางชัยภูมิ ที่จำได้มี 2 อำเภอ คืออำเภอภักดีชุมพล กับอำเภอหล่มสัก 2 อำเภอนี้เป็นสถานแหล่งที่เก็บมนุษย์กับอมนุษย์ มนุษย์ที่ทำบาป อมนุษย์ก็คือเปรตอสุรกาย ห่างจากพื้นดินของเราเนี่ย ถ้าเรายืน ประมาณหัวเข่า แต่เรามองไม่เห็น สถานที่ตรงนี้ก็มีเหมือนกัน แต่เรามองไม่เห็น มันอยู่คนละมิติ คนละภพ เรียกว่ามิติอีกอย่างหนึ่ง มิติวิญญาณ ของเรามิติของมนุษย์ เรามีรูปกาย เราก็เลยมองของเราเห็น แต่ของเขาไม่มีรูป เราก็เลยมองเขาไม่เห็น มันเป็นนาม ของเราเป็นรูป ไปเที่ยวฮะ ไปเที่ยวดูบุญกุศลของตัวเองที่ทำไว้ ก็ไปเดินดูนั่นดูนี่ ก็กลับ บางอย่างเล่าให้ฟังไม่ได้ คนที่พาไปบอกชื่อไม่ได้ แต่รูปร่างบอกได้ ที่พาอาตมา ไป ไปถึงสถานที่ตรงหนึ่ง เขาก็เลยเรียกอาตมาเข้าไป บอกว่าพระอาจารย์ พอดีผมมีเรื่องจะกราบเรียนถามว่า บุญกุศลที่พระอาจารย์ทำในโลกมนุษย์จำได้ไหมว่ามีอะไร…. จำได้ โบสถ์ ศาลา วิหาร เจดีย์ บวชพระ บวชเณร บวชเจ้า มีเยอะเลย เพียงแค่นึกจบพูดจบก็ได้ไปเลยฮะ ไปเหยียบสถานที่ตรงนั้นพอดีเลย เขามีผู้ชาย 2 คนแต่งชุดเหมือน อบต.เหมือนบ้านเรานี่แหละ รูปร่างอย่างคนบ้านเรา ตัดผมเหมือนทหาร ใส่รองเท้าคัตชู ใส่เสื้อธรรมดาๆ อย่างกำนันผู้ใหญ่บ้าน เสื้อสีไข่ แขนขาเหมือนมนุษย์นี่แหละ เหมือนกัน เขาพาไปสองคน พาไปเดินดู เห็นไอนี่เห็นไอนั่น กับข้าวนี่เห็นหมด ยังร้อนๆอยู่เลย กับข้าวของอาตมา ที่ทำถวายพระ ถวายโยม ที่ให้เป็นทาน หลายปีแล้วนะฮะ กับข้าวยังร้อนอยู่เลย ถามว่าฉันท์ได้ไหม ถ้าพระอาจารย์ฉันท์ ฉันท์ไม่ได้หรอก … ทำไมฉันท์ไม่ได้ สภาพจิตวิญญาณพระอาจารย์สูงกว่าบุญกุศลอันนี้ ไม่ต้องฉันท์..ไม่ต้องฉันท์ ถ้าอยากฉันท์น่ะฉันท์ได้แต่จริงๆแล้วนั้นไม่ต้องฉันท์ เพียงนึกก็อิ่ม นึกก็อิ่มเลยฮะ แต่อาหารที่เราเห็นน่ะ ยังอยู่ บุญกุศลเราที่เราทำยังอยู่ ขันธ์เงินนะไปถวาย พระเดชพระคุณหลวงปู่เกษม เขมะโก ขันธ์เงินรูปนั้นสลักคำว่า ปัญญาภิกขุ คือชื่ออาตมา เป็นนามปากกา อาตมาเลยแต่งหนังสือมนต์พิธีชุดแรก หนังสือมนต์พิธีชุดแรกเลย ทำการสังคายนาหนังสือมนต์พิธีชุดแรกมา มีนามปากกาว่า ปัญญาภิกขุ สลักไว้กับขันธ์เงิน ถวายหลวงปู่เกษม แล้วขันเงินลูกนั้นก็ไม่รู้ไปไหน ไปเห็นอยู่ ที่เราตายไปแล้ว ก็ไปเห็นอยู่ ขันเงินลูกนั้น อ๋อ อยู่นี่เอง ไม่ได้หายไปไหน

นึกถึงบ้านฮะ นึกถึงบ้าน ไปเที่ยวแล้วนึกถึงบ้าน กลับมาบ้านเนี่ย 4 วันแล้ว กลับมาบ้าน แป๊บเดียวเองฮะ ไปเที่ยวแป๊บเดียวเอง ประมาณสัก 10-20 นาที ไม่ถึงด้วยมั๊ง เดินดูไอนั่น เดินดูไอนี่ ช่วงเวลาที่มา แต่ว่าโลกมนุษย์มันหมดไป 4 วันแล้ว มาดู อ้าว เขาเผาเราแล้วมั๊งป่านนี้ ผู้หญิงก็เลยพามาดู บอกว่าอาจารย์ ยังไม่ได้เผา เห็นว่าโยมแม่พระอาจารย์จะเก็บไว้ 100 วัน อ๋อ ถ้าเก็บไว้ร้อยวันก็ เดี๋ยวไปดูสักหน่อย ก็เลยมาดูฮะ กับข้าว อาหาร มาดูพระสวด มาดูญาติโยม ลงมาดูไออาหารที่เขาถวายข้างโลงศพ โยมคงจะเคยเวลาโยมตาย เอ๊ะ พูดผิดเนอะ พูดผิดพูดใหม่ ญาติของโยมนั้นตาย โยมก็เลยเอากับข้าวไปถวายข้างโลง โยมเข้าใจว่าพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย จะได้กิน แล้วไปเคาะโลง ว่า เอ้อ..พ่อ พ่อ ลุกมากินซี่ จะกินได้ จะเรียกเหรอ ไม่ต้องเรียกหรอก ถ้ากินได้ไม่ต้องเรียก กินไม่ได้หรอก ตามประเพณีคนไทยถ้าตายแล้วต้องเอาอาหารไปถวายปลายเท้าหรือที่หัวของศพ แล้วเรียก ถ้าไม่ถวายแสดงว่าไม่กตัญญู ทำไมตอนเป็นๆไม่ถวายให้ท่านกิน ทำไมอีตอนท่านไม่ป่วย ทำไมไม่ให้ท่านกิน ญาติโยมคนไทยเนี่ย ส่วนนึงเป็นคนที่ไม่ดีเลย เห็นพ่อแม่ป่วย ซื้อส้มให้กิน ซื้อทุเรียนให้กิน ซื้อเงาะไปให้กิน ทุเรียนกิโลละ 20-30 เงาะกิโลละยี่สิบสามสิบก็ซื้อให้กิน ส้มกิโลแพงๆหวานๆ เขียวหวาน โลละ 60- 70 ท่านกินไม่ได้ ท่านไม่สบาย แต่โยมก็บังคับให้กิน

พ่อ กินนะ แม่กินนะ หนูอุตส่าเอามาจากกรุงเทพ ซื้อไอนี่หวานๆ กินไม่ได้ พ่อแม่ดีใจ ปลื้มใจน้ำตาร่วงที่ลูกซื้อให้กิน อีตอนเป็นๆ ไม่นึกถึงพ่อแม่ นึกถึงสามี เมียของตัวเอง คนไทยก็เลยเป็นคนที่ไม่ดีซะส่วนมาก ทำนิสัยประเภทเช่นนี้เยอะ ในโรงพยาบาล ถ้าจะถวายให้พ่อให้แม่นะ ถวายตอนเป็นๆ ตัวเป็นๆน่ะ ถวายให้ท่านกิน พาท่านไปวัดสิ พ่อจะไปวัดเหรอครับ แม่จะไปวัดเหรอครับ.. เออ พ่อกับแม่จะไปวัดลูก พ่อแม่ขึ้นรถนะ เดี๋ยวผมจะไปส่ง ตอนเย็นผมจะไปรับ ผมไปทำงาน เนี่ยลูกที่ดี … แม่จะไปวัด โอ้ยจะไปก้อไปๆเถอะ ว่าแม่ แม่จะไปยังไง ใครจะเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานหนู ลูกหนูอยู่ 2 คน ใครจะเลี้ยง แล้วควาย 2 ตัวใครจะเลี้ยง เอาให้แม่เลี้ยง อ้าวเลี้ยงไป เขาเรียกว่างูเหลือมออกลูกบนบ้าน งูเหลืองออกลูกบนบ้าน น่ะ เฝ้าทรัพย์ไป สมบัติที่มีอยู่ก็เฝ้าไป งูเหลือม หลานเอย ยายเอย เหลนเอย ทรัพย์สมบัติโหระพา กระเพรา ไล่แต่ไก่แต่เป็ดแถวนั้นอะ อยู่หลังบ้านนั่นแหละ มาวัดไม่ได้ แต่ตอนตายให้พระไปจูง นึกแปลกๆ ชาวบ้านเราเนี่ย ตอนเป็นๆไม่มาวัด แล้วบอกว่าโยมไปวัดนะ วัดไหนล่ะอาจารย์ วัดป่าโคกกระเชา ไปทางใด๋ล่ะ บอก ไปทางใด๋ เอ๊ะ ทางใด๋นิมันเป็นทางไหนล่ะ ไอตัวเองน่ะอยู่บ้านเสพแต่กาม ทำแต่ลูก เสพแต่กาม ทำแต่เมีย ทำแต่บาป ไม่ได้ดูเลยตัวเองทำบาปขนาดไหน พระจะทำอะไรก็ปล่อยท่านไป ท่านจะเข้าห้องน้ำ ท่านจะนอนก็ปล่อยท่าน เข้าห้องน้ำก้อตามไปฟัง ไม่รู้ว่าท่านพระครูสุตตะวรากรโดนรึยังก้อไม่รู้

ท้องเสียๆเนี่ยเดินเข้าห้องน้ำ ไปดูซิพระครูทำอะไร พระครูท่านก็ถ่าย ก็ท่านท้องเสีย เอามาตีเป็นเลข 8 โอ้ยโยมนี่ สุดยอดเลย ก็ท่านท้องเสียนะ ท่านไม่ได้ให้เลข มันออก 88 เนี่ย ผลเหตุอย่างนี้เองจึงทำให้โยมงมงาย เชื่อในสิ่งที่พิจารณาไม่ถูกต้อง ไปเที่ยวนรกฮะ ไปดูนรก ไปเยี่ยมญาติโยมหลายคน ไปเจอปู่เจอย่า แต่ไม่ได้อยู่ในนรกน่ะ เจอปู่เจอย่าอีกสถานที่นึง เจอญาติโยมหลายๆคน ที่ไปเจอ เกิดในโลกนรกนิ เหมือนลูกเราติดคุก คดีร้ายแรง คุกเนี่ยมันมี 3 ระดับ ระดับต้นคือ ต้นหน้าห้อง ระดับกลางคือกระทำความผิด ระดับแรงก้อโน้นอยู่ข้างใน เราเอาอาหารไปให้ลูก ขนาดเราเห็นตัว รู้ว่าลูกติดคุก อยู่ที่บางขวาง รู้ว่าลูกเราติดคุกที่โคราช รู้อยู่เอาอาหารไปให้ได้อยู่ แต่อาหารไม่ถึงลูก อาหารไปก็อยุ่ที่หน้ากรงขังเนี่ย อาหารไม่ถึงลูก เพราะลูกทำความผิดคดีร้ายแรง ฆ่าพ่อฆ่าแม่ได้ ด่า พระสงฆ์องค์เจ้าก็เลยให้ไปติดคุกมืด นรกก็เหมือนกัน นรกเนี่ย ไม่มีรูปมีแต่วิญญาณ ฉะนั้นวิญญาณพวกเนี้ย ถ้าอยู่ในโลกนรกที่มืด จริงๆแล้วเนี่ย มันมืดจริงๆโยม เขาไม่ให้อาตมาเข้าไป มืดมาก ไม่มีอากาศ ไม่มีแสง มองอะไรไม่ได้ เพียงแต่คลำเอา คลำกันไป จับแขนก็กินกัน จับขาก็กินกัน คนที่เล่าให้ฟังคือโยมผู้หญิงคนนั้น พระอาจารย์ไปดูนี่ดีกว่า คนที่ชอบตีไก่ เล่นนกเขา คนที่ชอบด่าพระ คนที่ชอบเป็นชู้เขา คนที่ชอบมีเมียหลายๆคน พระอาจารย์ไปตรงนู้นดีกว่า ตรงนี้นี่พระอาจารย์อย่าอยู่เลย เพราะว่า วิญญาณพวกนี้มันร้ายกาจ มันอาฆาต มันพยาบาท มันหมกมุ่นมามาก พระอาจารย์ไปทางนี้ เดินตามเข้าไป ก็ไปเห็นหัวเป็นไก่ตัวเป็นคน กำลังตีกันเลือดกระจัดกระจาย เราก็ถามว่า เอ้าว ทำไมคนพวกนี้เป็นไก่ ผู้หญิงคนนั้นก็เลยบอกว่า ตอนเป็นมนุษย์เนี่ย เมียเป็นคนฝนขมิ้น ผัวเป็นคนจับไก่ตี วันพระไม่มาทำบุญ วันพระไม่ใช่วันพระก็ไม่ใส่บาตร บุญทานกุศลไม่ทำ เอาแต่ตีไก่ เล่นไก่ ตายมาผัวมันก็เลยต้องเป็นไก่ เมียมันก็ต้องฝนขมิ้น ตีกันอยู่นั่นแหละ ตีจนตาย แล้วก็ฟื้น ฟื้นแล้วก็มาตีกันอยุ่อย่างนั้นแหละ ตีกันจนตาย ตายแล้วก็ฟื้น ฟื้นเพราะกรรม วนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่อย่างนั้นอะ เป็นคนจังหวัดลพบุรี รู้ชื่อนามสกุล แต่มาบอกกับพ่อกับแม่เขาแล้ว ให้เขาอุทิศส่วนกุศลไปให้แล้ว ทำแค่วันสองวันก็ไม่ทำอีก ไม่ทำอีกเลย บอกว่าลูกมันไม่ค่อยทำบุญ ฉันทำบุญไปแล้วกลัวมันไม่ได้ ก็มันไม่ได้ มันเกิดไปเป็นไก่ คนที่ชอบเล่นผัวเล่นเมียนี่บาปหนักนะโยมนะ ต้นงิ้วมันไปขึ้นโลกนรกนู่น ใครทำก็ได้ต้นนั้นอะ ใครทำต้นไหนก็ได้ต้นนั้น และต้นมันเริ่มทำขึ้น มันเริ่มโตขึ้น เริ่มใหญ่ขึ้น หนามแหลมขึ้น แหลมมาก ต้นใหญ่พอสมควร ใหญ่กว่าต้นนี้ คือคนนั้นโอบกอดได้ ปีนป่ายขึ้นไป ปีนขึ้นไปลงไปลงมา คอยจะพูดเพี้ยน พูดเขมร ขึ้นไปลงมา อยู่อย่างนั้นแหละ ข้างล่างมีหมาคอยกัดกิน มียมทูตคอยเอาหอกจิ้มแทง ผู้หญิงก็ร้องโหยหวนคนละต้นกับผุ้ชาย ชายกับหญิงเป็นชู้กัน ต้นงิ้วแต่ละต้นไม่เหมือนกัน ใครทำกรรมมากก็จะใหญ่มาก หนามแหลมมาก หอกแหลมมาก หมามีมาก คนไทยชอบเสพกามมาก เสพมากก็ยังไม่เพียงพอ มีหนึ่งก็ต้องมีสอง มีสองก็มีสามอีก ใบมีดโกนใหญ่ๆนิตัดคอขาด ตัดขาดแล้วก็ยังฟื้นขึ้นมา ฟื้นเพราะกรรม คนพวกนี้ชอบว่าพระสงฆ์องค์เจ้า คนพวกนี้ก็เลยต้องไปถูกตัดคอ วิญญาณพวกนี้ไม่มีผม ไม่มีฟัน ไม่มีดวงตา ไม่มีเล็บ มีแต่นิ้วธรรมดา วิญญาณทรมาน วิญญาณพวกนี้ทรมานมาก ก็เลยเดินดูไปเดินดูมา พระอาจารย์ช่วยด้วย พระอาจารย์ช่วยด้วย .. ช่วยไม่ได้แล้ว..ไม่รู้จะช่วยยังไง อาตมายังไม่รู้จะกลับไปได้รึป่าวเลย ไปเห็นญาติโยมที่รู้จัก เขาก็เลยบอกว่า พระอาจารย์ กลับไปบอกพ่อกับแม่ผมด้วยนะ ให้ทำบุญมาให้ผม ผมรู้สึกว่าบาปหนักมาก ทำกรรมไว้หลาย บุญทานไม่ได้สร้าง บอกพ่อกับแม่ให้กลับมา คิดถึงบ้านฮะ เขาพูดแค่นั้น คิดถึงบ้าน อยากจะมาดูบ้าน "

หมายเลขบันทึก: 56403เขียนเมื่อ 30 ตุลาคม 2006 10:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 08:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมครับ
  • ลองเข้าไปดูที่ khajit' blog นะครับ
  • ดีใจด้วยครับครูบัว
  • สบายดีใช่ไหมครับ
  • อยากไปเที่ยวอู่ทองครับ
  • เรียนอาจารย์ ครู บัว ทองกะไลย nutim ได้นำวิธีการใส่พื้นหลัง และใส่เพลงมาให้โดยละเอียดแล้วค่ะ คลิกไป ที่นี่ค่ะ. ในช่องข้อคิดเห็น
  • บันทึกอาจารย์น่าสนใจมากค่ะ วันหลังจะเข้ามาศึกษาค่ะ  ขอบคุณค่ะ
อยากเห็นรูปจังเลยค่ะ
คนที่ชอบเล่นผัวเล่นเมียนี่บาปหนักนะโยมนะ ต้นงิ้วมันไปขึ้นโลกนรกนู่น ใครทำก็ได้ต้นนั้นอะ ใครทำต้นไหนก็ได้ต้นนั้น และต้นมันเริ่มทำขึ้น มันเริ่มโตขึ้น เริ่มใหญ่ขึ้น หนามแหลมขึ้น แหลมมาก ต้นใหญ่พอสมควร ใหญ่กว่าต้นนี้ คือคนนั้นโอบกอดได้ ปีนป่ายขึ้นไป ปีนขึ้นไปลงไปลงมา คอยจะพูดเพี้ยน พูดเขมร ขึ้นไปลงมา อยู่อย่างนั้นแหละ ข้างล่างมีหมาคอยกัดกิน มียมทูตคอยเอาหอกจิ้มแทง ผู้หญิงก็ร้องโหยหวนคนละต้นกับผุ้ชาย ไม่เข้าใจอ่ะครับ // คำว่าพูดเขมร ขึ้นไปลงมา หมายความว่ายังไงครับ ในนรกเขาพูดเขมรหรือครับ ----------------------------------------
  • แวะมาลิ้มรสพระธรรมครับ
  • ขอบคุณครับ

ไปอ่านและดูความจริงเรื่องที่คัดมาจาก ซีดีได้ที่

http://www.prajan.com/webboard/view.php?id=6371&page=1

 

ขอบอก....หนุกมักๆ

 

ม้วนที่ข้าพเจ้าได้ฟัง บอกว่าตายแล้ว 15 วันคะ แล้วฟื้น ไม่ทราบว่าแผ่นเดียวกันหรือเปล่า

 

รายนามพระราชาคณะชั้นสามัญ 394 ตำแหน่ง http://www.dharma-gateway.com/monk/monk-03-01-06.htm

ทำเนียบรายชื่ออดีตแม่ทัพภาคที่ 3 http://www.3armyarea-rta.com/boss_old.php

ต้นสกุลบุรฉัตร ณ อยุธยา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B9%8C_%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3_%E0%B8%93_%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2

ขอความกรุณางดเผยแผ่ CD พระวรญาณเมธี ตายไปแล้วฟื้น http://larndham.net/index.php?showtopic=18445

แจ้งลบชื่อออกจากรายการแจก cd http://larndham.net/index.php?showtopic=22580&st=201

พระวรญาณเมธี ?? http://www.prajan.com/webboard/view.php?id=6371&page=1

อ่านแล้วมีประโยชน์ทำให้เกิดความละอายต่อบาปเร่งรีบทำบุญครับเพราะเวลามีคุณค่าในทุกขณะ

ทำไมให้งดเผยแพร่ล่ะคะ มีประโยชน์มาก ๆ นะคะ น่าเสีนดาย

ขอความกรุณางดเผยแผ่ CD พระวรญาณเมธี ตายไปแล้วฟื้น http://larndham.net/index.php?showtopic=18445

แว้บไปดูแล้ว เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมให้งดเผยแผ่เรื่องนี้ โอ้โหเป็นเรื่องที่แต่งได้ดีจังเลยนะคะ ใครนะชั่งทำ สถานีวิทยุคลื่นเกี่ยวกับพระพุทธศาสนายังเอาไปเปิดให้ประชาชนฟังเลยค่ะ

เฮ้อ หาที่พึ่งดีๆให้มนุษย์ยากจังนะคะ

สุดยอดมากๆครับผมเคยฟัง

 

ดีครับ ก็เป็นอีกคนที่ใด้กลับมา ก็พอจะเข้าใจเงือนไขอยู่บ้าง ดีตรงใด้เห็นและรู้แล้ว บอกใด้คำเดียว ภพที่ต่างจากเราอาสัยมีอยู่ มีจริง รวมทั้งกรรมดีชั้วที่เราสร้างใว้ถูกเก็บใว้อย่างดีโดยตัวเราเอง ผลึกหรืออัญมณีสิ่งดีงามแห่งจิตหรือเรียกกันไปต่างๆนาๆ และแสงแห่งบุญ ความอบอุ่น ปิติ สุขล้นแบบหาที่เปรียบมิได้ เกินบันยาย ความเจ็บปวด ความหวาดกลัว กังวลห่วงโน่นนี่นั่น จะค่อยๆจางหายไป เพียงแค่เราเข้าใจในทุกอย่าง ก่อนลมเฮือกสุกท่าย.............. เพียงแต่ใด้กลับมาพร้อมกลับรู้ว่าต้องดำเนินชีวติยังไงต่อ และถ่ายทอด ให้คนใด้รู้ และเป็นกำลังแรงใจให้ผู้ที่เห็นและรู้แล้ว แร่งปฎิบัติกันต่อไปเดินต่ออย่างระมัดระวัง และท่านทั้งหลาย ทั้งตัวผมนี้เรานับว่าโชคดีที่ใด้เห็นสิ่งนั้น ทัศนียภาพที่กวางไกลสุดลูดหูลูกตาสุขสงบและสวยงาม หรืออีกอันแดงฉานและเกรียวกราด ^_^!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท