นายตัน เต็ก ไฮ้ หรือนายวาเลนติโน สัญชาติมาเลเซีย-กงสุลกิตติมศักดิ์โมร็อกโกในไทย : สิทธิทำธุรกิจที่ดินในไทยมีไหมนะ ?!!

โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล นิติสัมพันธ์ตามกฎหมายมหาชนที่มีลักษณะระหว่างประเทศย่อมตกอยู่ภายใต้กฎหมายมหาชนของรัฐคู่กรณีในนิติสัมพันธ์ เว้นแต่จะมีสนธิสัญญาระหว่างรัฐกำหนดเป็นอย่างอื่น เมื่อสิทธิในการถือครองทรัพย์ในประเทศไทยของมนุษย์ในดินแดนของรัฐใดเป็น “ความชอบด้วยกฎหมาย” อันเป็นผลมาจากนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายมหาชนระหว่างรัฐเจ้าของดินแดนและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์นั้น ดังนั้น โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล เรื่องของสิทธิในการถือครองทรัพย์ก็ย่อมตกอยู่ภายใต้กฎหมายภายในของรัฐเจ้าที่ตั้งของทรัพย์สินนั้น ทั้งนี้ เว้นแต่จะมีการกำหนดเป็นอย่างอื่น ในการศึกษาทางปฏิบัติของนานารัฐ จะเห็นว่า การที่คนต่างด้าวจะถือครองอสังหาริมทรัพย์ในรัฐใดรัฐหนึ่งซึ่งมิใช่เจ้าของสัญชาติของตน คนต่างด้าวนั้นไม่มีสิทธิที่จะทำได้โดยเสรี กฎหมายของรัฐเจ้าของดินแดนย่อมจะมีกฎหมายภายในกำหนดเงื่อนไขในการให้สิทธินั้นแก่คนต่างด้าว แล้วกฎหมายไทยยอมรับให้คุณตัน เต็ก ไฮ้ ทำได้หรือไม่ ?

 นายตัน เต็ก ไฮ้ หรือนายวาเลนติโน สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศโมร็อกโกประจำประเทศไทย
 
  “ดีเอสไอ” กัดไม่ปล่อย ลงพื้นที่ภูเก็ตตามล่าแก๊งรุกที่ดินเกาะยาวเพิ่มอีก 4 ราย หลังจากจับกงสุลโมร็อกโกดำเนินคดีไปแล้ว
      
       วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จับกุมตัว นายตันเต็กไฮ้ หรือนายวาเลนติโน สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประเทศโมร็อกโกประจำประเทศไทย และนางสุดใจ หรือสุวภัทร คีรีพอน ภรรยา ซึ่งเป็นกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐจิบูติประจำประเทศไทย ในข้อหาร่วมกับนักลงทุนต่างชาติ และเจ้าหน้าที่ของรัฐบุกรุกที่ดินบนเกาะยาว จ.พังงา
      
       พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนคดีรุกที่ดินสาธารณะเกาะยาว จ.พังงา พร้อมกำลังได้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต และใกล้เคียง เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 ราย คือ นายกระจ่าง คีรีพอน, นายบุญเลิศ คีรีพอน, นายตันจี้เคี้ยง หรือนายจี้เคียง แซ่ตั้ง สัญชาติมาเลเซีย และ พ.ต.นคร ทองมี
      
       พ.ต.ท.กรวัชร เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอกำลังติดตามผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 4 คน หากพบก็จะจับกุมและนำตัวไปสอบปากคำที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งขณะยังไม่พบตัวคาดว่าผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดภูเก็ตอย่างแน่นอน และมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมทั้งหมดในเร็วๆ นี้
      
       ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีบุกรุกที่ดินเกาะยาว ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 8 เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามและตรวจสอบเส้นทางการไหลเวียนของเงินในบัญชี หลังจากที่สถาบันการเงินปล่อยให้กับกลุ่มผู้กู้ หรือผู้ต้องหาในคดีบุกรุกที่ดินเกาะยาว เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลและประสานกับ ปปง.ให้ตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือไม่
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามแกนนำชาวบ้านในพื้นที่เกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงา ที่ส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวมุสลิม เมื่อทราบข่าวคดีบุกรุกที่ดินบนเกาะยาว ส่วนใหญ่รู้สึกดีใจมากที่มีการเอาผิดกับนายทุนที่บุกรุกที่ดินสาธารณะเป็นเกาะเป็นเนื้อที่นับพันไร่ ขณะเดียวกันชาวบ้านบางส่วนต้องการเดินทางมามอบดอกไม้และให้กำลังใจนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ
      
       ด้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ไม่อยากให้ชาวบ้านเดินทางมายังกรุงเทพฯ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเดินทางไกล ซึ่งในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนได้เคยเชิญรัฐมนตรีและตนเดินทางไปดูพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งตนก็เห็นด้วยและหากมีโอกาสก็จะเดินทางลงไปพบกับชาวบ้านในพื้นที่เอง และพร้อมจะสนับสนุนการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดตามครรลองของระบอบยุติธรรมที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
      
       “ผมต้องการให้ได้เงินและสมบัติของส่วนรวมคืนมาเป็นของส่วนรวมต่อไป และผมกับรัฐมนตรีจะเดินทางลงไปยังจังหวัดพังงาเพื่อดูพื้นที่จริงเนื่องจากเป็นคดีใหญ่ทั้งคดีป่ากะปง และคดีเกาะยาว เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน” ปลัดยุติธรรม กล่าว
      
       ดีเอสไอจับกงสุลกิตติมศักดิ์โมร็อกโก รุกที่ดินเกาะยาวกว่า 900 ไร่

------------------------------------------------------

ดีเอสไอ” ลุยภูเก็ต ตามจับแก๊งงาบที่ดินเกาะยาวอีก 4 ราย
 
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม

ผู้จัดการออนไลน์ 28 ตุลาคม 2549 18:06 น. 

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9490000133652