Irrepressible.info จาก Amnesty International


องค์กร Amnesty International พึ่งเปิดให้บริการ Irrepressible.info ซึ่งมี เครื่องไม้เครื่องมือที่อยู่บนพื้นฐานของ RSS ให้นักพัฒนาได้ใช้เพื่อ "ส่งต่อ" "freedom of speech" กันครับ

นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพในการนำเสนอข่าวสารของโลก

ผมดีใจที่ประเทศไทยไม่ปิดกั้นข่าวสารโดยภาครัฐ "มากนัก" ในสถานการณ์เช่นนี้ นับว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่ดีของผู้บริหารภาครัฐทีเดียว

เพราะถ้าท่านปิดกั้นอย่างเช่นประเทศเผด็จการอื่นๆ เมื่อไหร่ "ตัวจริง" ของนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพบนอินเตอร์เน็ตก็จะออกมาทันที และผมเชื่อว่าท่านควบคุมไม่ได้แน่นอน ยกเว้นเสียแต่ว่าท่านจะห้ามการใช้อินเตอร์เน็ตทั้งประเทศ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นท่านก็นำประเทศไปเป็น "พม่า" ทันที

ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาผมเห็นความเคลื่อนไหวของ "ตัวจริง" น้อยมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพไม่พอใจกับการบิดเบือนข่าวสารและการครอบงำข่าวสารของสื่อมวลชนรายใหญ่ต่างๆ ของไทยเสียมากกว่า แต่เรื่องนั้นถือว่าเป็นเรื่องของคนด้าน "สื่อสารมวลชน" ที่จะคิดการณ์แก้ไขกันไป (หรือจะตกเป็นเครื่องมือ... ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล)

ผมเห็นความเคลื่อนไหวเตรียมการสู้กับการปิดกั้นข่าวสารคึกคักก็ช่วงหลังปฎิวัติ แต่ก็เงียบๆ กันไปเพราะภาครัฐก็ไม่ได้ปิดกั้นมากนัก

แต่ถ้าปิดกั้นข่าวสารจริงๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ เชื่อผมเถอะ ลำพังทหารไม่กี่คนที่จบด้าน computer science หรือ electrical engineering มานั้น ไม่มีทางสู้รบตบมือกับ "ตัวจริง" ที่เป็นคนไทยที่กระจายกันอยู่ทั่วโลกหรอกครับ

ผมไม่ได้ขู่นะครับ แค่ส่งต่อข่าวสารที่ได้รับมาครับ
หมายเลขบันทึก: 56266เขียนเมื่อ 29 ตุลาคม 2006 11:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณมากค่ะที่แนะนำให้รู้จักกับ Irrepressible.info

เห็นด้วยมากๆค่ะว่า เทคโนโลยีตอนนี้ทำให้ปิดกั้นกันลำบากขึ้นมาก 

โดยเฉะาพช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ มี

  • RSS รับรู้ ส่งต่อข่าวสารอย่างมีระบบ และ ไม่พลาดข่าวสด
  • podcast ใครไคร่พูด พูด จัดรายการวิทยุส่วนตัว ให้ทั้งโลกฟังได้
  • youtube ใครใคร่ถ่ายวีโดีโอ โชว์ทั้งโลก ก็ทำได้ง่ายๆ
  • ยังไม่นับการที่ถ่ายรูปด้วยมือถือส่งรูปกันจะๆทันใจ
      ฯลฯ

เรามารอดูกันดีกว่าว่าการที่เมืองจีน เรียก blogger ในประเทศ ไปจดทะเบียนทุกคนจะเป็นยังไงต่อไป : )

 

การจัดจดทะเบียน blogger ในประเทศจีนนี่สำหรับผมเป็นเรื่องตลกมากครับเพราะไม่มีทางจะเป็นไปได้ แต่เป็นการเขียนเสือให้วัวกลัวเสียมากกว่า

ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีเพื่อ anonymity มาไกลเกินกว่าจะไปตามจับตัวใครได้แล้วครับ สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการให้ความรู้แก่คนในการใช้งาน Internet แบบ anonymous ที่ปลอดภัยจริงๆ เท่านั้นเองครับ

คิดเหมือนกันเลยค่ะ : )
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท