วันนี้ไฟดับทั้งวันที่ ม.สงขลานครินทร์ เพื่อการปรับปรุงสถานีไฟฟ้าภายในมหาวิทยาลัยครับ
พอไฟดับ ดร.จันทวรรณ และผมก็ต้องคิดว่าจะไปที่ไหนดี ที่เราอยากไปคือร้านหนังสือ ร้านที่สบายๆ มีที่ให้เรานั่งอ่านหนังสือใหม่ๆ หรือกินกาแฟอร่อยๆ หรือพก notebook ไปนั่งทำงาน หรือมีการแสดงดนตรีที่หาฟังยากจากนักดนตรีที่ไม่มีชื่อแต่ฝีมือดี หรือมีกวีหรือนักเขียนมาปรากฎตัวให้เราได้ฟังได้ดู แม้จะไม่ค่อยรู้เรื่องหรือเข้าใจลึกซึ้งแต่ก็ได้สัมผัสบรรยากาศ "สด" จากผู้สร้างวรรณกรรมตัวจริง
แต่น่าเสียดาย ที่หาดใหญ่ ซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ไม่มีร้านหนังสืออย่างที่เราอยากไปครับ
มีแต่ "ร้านขายหนังสือพิมพ์" ขนาดใหญ่สุดไม่เกินสองคูหา
เรากลับจากอเมริกามาเกือบสี่ปีแล้ว ถึงตอนนี้เราไม่มีอะไรที่ต้องปรับตัวหรืออะไรที่ต้องเรียนรู้ใหม่ หรืออะไรที่คิดถึงอยากได้อยากไปอยากกิน ฯลฯ แทบเรียกได้ว่าเราลืมการดำรงชีวิตในอเมริกาไปเกือบหมดแล้วด้วยซ้ำ
แต่เหลือแค่อย่างเดียวครับ ที่เราไม่ลืม แต่หาไม่ได้ และเรา "อยาก" จะไปมาก คือ "ร้านหนังสือ" ที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็น Borders หรือ Barnes & Noble หลายต่อหลายสาขาที่เราไป "เดินเล่น" บ่อยๆ
ร้านหนังสือเป็นสิ่งเดียวที่เราบ่นถึงทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ที่เราต้องไปหาที่ "เดินเล่น" นอกมหาวิทยาลัยนานๆ อย่างเช่นวันนี้ที่ไฟดับทั้งวัน
ถึงตอนนี้ สิ่งเดียวที่เรามีความรู้สึกว่าชีวิตในอเมริกามีความสุขกว่าชีวิตในเมืองไทยคือมีร้านหนังสือดีๆ ให้ได้ไป ใครที่อยู่ต่างประเทศตอนนี้รีบตักตวงความสุขนี้ไว้นะครับ เพราะเวลาท่านกลับเมืองไทยแล้วท่านจะหาร้านหนังสืออย่างนั้นไม่ได้
เรื่องนี้เขียนแล้วเซ็ง ผมปรับตัวให้เข้ากับประเทศไทยในเรื่องนี้จะเข้าท่ากว่าเยอะ ว่าแล้วไปหาเบียร์กินใน "ร้านเหล้า" ที่ใหญ่ขนาดน้องๆ สนามฟุตบอลที่มีอยู่ในทุกหัวระแหงของหาดใหญ่จะดีกว่า ใช่ไหมครับ?
อาจารย์คะ
ตอนผมกลับมาใหม่ๆ เคยคิดจะเปิดร้านหนังสือครับ แบบว่าจะทำให้แตกต่างไปเลยดูสิว่าคนไทยจะเข้าไหม ปรากฎว่าไม่มีใครยอมลงทุนด้วยครับ เพราะไม่ว่าพิจารณาในมุมไหนก็เจ๊งแน่นอน
อเมริกาก็มีหลายอย่างที่คนไทยเราต้องอิจฉา และประเทศไทยเรามีหลายอย่างที่อเมริกันต้องอิจฉาเช่นกัน เป็นเรื่องปกติที่แต่ละประเทศก็มีส่วนดีส่วนด้อยของตนเองครับ
เรื่องน่าอิจฉาของอเมริกันคือมีร้านหนังสือดีๆ ส่วนเรื่องน่าอิจฉาของคนไทยคือมีร้านเหล้าดีๆ ผมเจออเมริกันที่เคยมาประเทศไทย ถ้าคุยกันสักพักจนสนิทกันเริ่มได้ที่ บางคนก็จะเริ่มเล่าออกมาถึงความประทับใจในร้านเหล้าของประเทศไทย
ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นความภาคภูมิใจใน "ของดี" ของไทยได้หรือเปล่านะครับ
เรื่องนี้ที่จริงแล้วควรจะเป็น "ประเด็น" ระดับชาติทีเดียว แต่ก็เหมือน "ผู้บริหารประเทศ" (ไม่ว่ายุคไหน) จะมองข้ามหรือสัมผัสแค่ผิวๆ เอาหน้าเท่านั้นครับ