ความแตกต่างระหว่างแฟนกับกิ๊ก ขำขำ


ความแตกต่างระหว่างแฟนกับกิ๊ก

 เพื่อนส่งเมลล์มาให้อ่านค่ะ นำมาแบ่งบันให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ

             

1. มีแฟน - ไปไหนมาไหนได้ทุกที่ตั้งแต่ ดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว 
                    จตุจักร ชัอปปิ้ง วิ่งเปี้ยว เปิดผับ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ พาหมาไปตัดขน 
                    เอารถไปเข้าอู่ ไปสอบ gmat งานศพอาก๋ง อาม่า งานแต่ง 

                    มีกิ๊ก - ส่วนใหญ่ก็ไปกันแค่ห้าง ดูหนัง แดนซ์ มอมเหล้า 
                    ไม่มีหรอกจะมาเดินแดดร้อนลำบากๆ ต่อคิวคนเยอะๆ 
                    แถมยังออกได้บางเวลา เพราะบางกิ๊กต้องแอบแฟนมาเที่ยวกับเรา
                                               
                    2. มีแฟน - สุขภาพจิตดี สบายใจ พาไปไหนไม่ต้องระแวง หลบซ่อน 

                    มีกิ๊ก - เสียสุขภาพจิตเพราะกลัวเจอกิ๊กอีกคน 
                    หรือแฟนเขาจับได้ ไปเที่ยวด้วยความหลอน 
                                             
                    3. มีแฟน - ไม่สับสน ปะป๋า มะม้า จำได้ เพราะพามาอยู่คนเดียว 

                    มีกิ๊ก - เพื่อนๆ งง พามาหน้าไม่ซ้ำ ปะป๋า มะม้า เรียกชื่อผิดชื่อถูก 
                    เรียกแอ๋ว เป็นเอ๋ เรียกเอ๋ เป็นอุ้ม ทรมานคนแก่ 
                                               
                    4. มีแฟน - ไม่ต้องเอาใจมาก เพราะรู้ใจกันดี อยากทำอะไรก็ทำ 
                    ใส่แตะไปดูหนังก็ไม่ด่า เพราะปลงๆ กันแล้ว 

                    มีกิ๊ก - ต้องเอาใจสารพัด แต่งตัวต้องเนี้ยบ ทำบุคลิคดีๆ พาไปแต่ที่ดีๆ 
                    พาไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางอาจโดนด่าแม่ได้ 
                                               
                    5. มีแฟน - ได้รับนับถือจากเพื่อนหญิง เพื่อนชาย 
                    ได้เครดิตว่าเป็นคนมั่งคง ภาพพจน์ดี อกหักทีมีแต่คนเห็นใจ

 
                    มีกิ๊ก - ได้ภาพพจน์ความเป็นคาสโนว่า 
                    พาสาว พาหนุ่ม คนไหนๆ มาก็โดนเพื่อนเผายำเละ สรุปเผ่นหมด 
                    เพื่อนๆ ก็ไม่ค่อยไว้ใจ เวลาอกหักมีแต่คนสมน้ำหน้า 
                                                 
                    6. มีแฟน - เปรียบเหมือนกินมันเผา อาจไม่ค่อยมีรสชาติ แต่ยิ่งกินยิ่งมัน 
                    ทำให้ท้องอิ่ม มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
 

                    มีกิ๊ก - เหมือนเคี้ยวหมากฝรั่ง หวานซ่าตอนแรก พอหมดรสก็คายทิ้ง 
                    เหลือแต่ยางยืดๆ เคี้ยวไปก็เมื่อยปาก

คำสำคัญ (Tags): #แฟน#กิ๊ก
หมายเลขบันทึก: 56193เขียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2006 17:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 04:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ

  • อยากให้เขียนบ่อยๆๆนะครับ

อ่านแล้วสบายใจจริง  มองเห็นภาพพจน์ดีค่ะ 

อยากแบ่งปันความสุขบ้างค่ะ

<<เรื่องเล่า..ควรยกเลิกบัตรเครดิต..ก่อนตาย (ฮา)> >  อย่าลืมยกเลิกบัตรเครดิตของคุณก่อนตายนะคะ มันสำคัญมาก
สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน เพราะส่วนบริการลูกค้ามักจะเป็นเช่นนี้
นางแจ่มชัดเสียชีวิตไปเมื่อเดือนมกราคม ปีนี้เอง ทางธนาคารซิตี้แบงค์ได้ส่งใบเรียกเงินมาเก็บค่าธรรมเนียมประจำปีของบัตรเครดิต มาถึงเธอในเดือน กุมภาพันธ์ และมีนาคม พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าปรับที่เธอชำระช้า พร้อมดอกเบี้ยของยอดที่เรียกเก็บนั้น ซึ่งในความเป็นจริง เธอไม่ได้ใช้บัตรนั้นมาตั้งแต่วันที่เธอตายแล้ว แต่บัดนี้ยอดทั้งหมดที่เรียกเก็บ กลายเป็นจำนวนสองพันกว่าบาทเข้าไปแล้ว ทางญาติของเธอจึงโทรศัพท์ไปยังธนาคาร เชิญอ่านดูการโต้ตอบ:> > ญาติผู้ตาย ; ดิฉันโทร. มาแจ้งว่าคุณแจ่มชัดเสียชีวิตแล้วค่ะตั้งแต่เดือน มกราคม เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะคะ ดังนั้นค่าปรับการชำระช้า จึงต้องเรียกเก็บค่ะ ญาติผู้ตาย ; งั้นช่วยยกเลิกบัตรให้ดีไหมคะ  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; แต่มันช้ามาสองเดือนแล้วนะคะ ที่เรียกเก็บไม่ได้ และธนาคารได้ออกใบเรียกเก็บ ไปแล้วค่ะ  ญาติผู้ตาย ; ตามปกติถ้าลูกค้าเกิดตายไป ทางธนาคารจะจัดการอย่างไรต่อคะ  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; เราอาจต้องแจ้งหน่วยคดีฉ้อโกง หรือไม่ก็แจ้งไปยังเครดิตบูโร (ส่วนงานที่จะคอยเก็บประวัติการมีเครดิตของคน ประเทศไทยก็มี ค่ะ หรือไม่ก็แจ้งไปทั้งสองที่ค่ะ  ญาติผู้ตาย ; แล้วยมบาลจะโกรธเธอไหมคะ ? ( ฉันชอบคำถามนี้ของตัวเองจริงๆ)  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; อะไรนะคะ ?  ญาติผู้เสียชีวิต ; นี่คุณได้ยินหรือเปล่าคะที่ดิฉันบอกว่าเธอตายไปแล้วน่ะค่ะ เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; รอสักครู่ค่ะ คุยกะหัวหน้าดีกว่าค่ะ  สักครู่หัวหน้ารับโทรศัพท์ไปพูดต่อ........  ญาติผู้เสียชีวิต ; ดิฉันโทร.มาแจ้งให้ทราบว่า เจ้าของบัตรเสียชีวิตไปตั้งแต่เดือนมกราแล้วค่ะ  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะครับ ดังนั้นค่าปรับการชำระช้า จึงต้องเรียกเก็บครับ (สงสัยเป็นประโยคทีทางธนาคารมีไว้ให้ใช้ตอบกับลูกค้า)  ญาติผู้เสียชีวิต ; หมายความว่าจะต้องเรียกเก็บจากที่ดินของเธอหรือคะ  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; คือคือ..(ชักเริ่มติดอ่าง) คุณเป็นทนายความของเธอหรือครับ ?  ญาติผู้เสียชีวิต ; เปล่าค่ะ ดิฉันเป็นเหลนของเธอน่ะค่ะ (ทนายสอนให้บอกเช่นนี้)  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; กรุณาช่วยส่งแฟกซ์ มรณบัตรของเธอมาได้ไหมครับ ญาติผู้เสียชีวิต ; ยินดีค่ะ (ทางธนาคารแจ้งเบอร์แฟกซ์) หลังจากได้รับแฟกซ์เรียบร้อย  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; ทางระบบของเราไม่ได้บอกว่าจะให้จัดการอย่างไร ในกรณีที่ลุกค้าเสียชีวิต ผมก็ไม่ทราบจะช่วยเหลือได้อย่างไร ญาติผู้เสียชีวิต ; อ่อค่ะ คิดต่อไปนะคะ ถ้ายังคิดไม่ออกก็เรียกเก็บเงินเธอไปเรื่อยๆแล้วกัน เธอคงไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; ครับค่าปรับการชำระช้าก็ต้องเรียกเก็บต่อไปนะครับ (มันเป็นห่าอะไรของมัน วะ!!!)  ญาติผู้เสียชีวิต ; ไม่ทราบต้องการที่อยู่ใหม่ขอคุณยายทวดไหมคะ  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; ดีเลยครับ  ญาติผู้เสียชีวิต ; ปากน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา สมุทรปราการค่ะ  เจ้าหน้าที่ธนาคาร ; ขอประทานโทษครับ นั่นมันเป็นแม่น้ำนี่ครับ  

ญาติผู้เสียชีวิต ; อ้าว แล้วเวลาญาติพวกคุณตาย เอาอังคารไปลอยแถวไหน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท