ทะเลหมอก ภูทับเบิก ตอนที่ 1
ทัศนศึกษา เขาค้อ เชียงราย เชียงใหม่
17 มกราคม 2557
16.30 น. พร้อมกันหน้าศาลหลักเมือง
17.00 น. คณะเดินทางสู่อำเภอเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
18 มกราคม 2557
06.00 น. คณะเดินทางถึง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ทำภารกิจส่วนตัว ณ ปั๊มน้ำมัน เปลี่ยนเป็นรถสองแถวนั่งคันละ 10 คน เพราะต้องขึ้นเขาถ้ารถหนักไม่สะดวกและไม่ปลอดภัยนัก เรียบร้อยแล้ว 07.30 น. คณะออกเดินทางขึ้นภูหินร่องกล้า (รถสองแถว) ตลอดทางที่รถแล่นผ่านสองข้างทางจะมีสวนผักกะหล่ำปลี มีไร่ยาสูบ เสียดายเก็บภาพไม่ได้เพราะรถแล่นไม่สม่ำเสมอ สะเทือนมากโยกไปโยกมา ประมาณ 45 นาที เวลาประมาณ 08 . 45 น. ถึงยอดภูทับเบิก อากาศเย็นมาก อุณหภูมิ 8 องศาเซนเซียส มีเต็นท์นักท่องเที่ยวเป็นระยะ ๆ และมีสินค้าประเภทผักสด ๆ สตอเบอร์รี่ มองไปรอบ ๆ มีแต่ทะเลหมอก “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว”
ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ ภูทับเบิก ยังเป็นสถานที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542) เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้า ถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542
ปัจจุบัน ภูทับเบิก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม มื้อเช้าเป็นข้าวต้มเห็ด อร่อยมาก กับผัดกะหล่ำปลีกับน้ำปลา
10.30 น. เดินทางต่อขึ้นอุทยานภูหินร่องกล้า ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ภูหินร่องกล้ามีลักษณะภูมิอากาศคล้ายกับภูเขาสูงของจังหวัดเลย เช่นภูกระดึงและภูเรือ เนื่องจากมีความสูงไล่เลี่ยกัน อากาศจะหนาวเย็นเกือบตลอดปี ที่นี่ โรงเรียนการเมืองการทหาร ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 4 เป็นหมู่อาคารไม้ภายใต้ร่มเงาของป่ารกครึ้ม เป็นที่ตั้งของคณะกรรมการเขต 3 จังหวัด คือ จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดพิษณุโลกเมื่อปี2513 และต่อมาในปีพ.ศ.2520 ได้ก่อตั้งเป็นโรงเรียนซึ่งให้การศึกษาตามแนวทางลัทธิคอมมิวนิสต์
มีสินค้าเกษตร ผัก ผลไม้สด ๆ งานฝีมือของชาวเขาเผ่าม้ง เขานำลูกเล็กมาขายดอกไม้ที่ชื่อ "ดอกกระดาษ" สงสารเด็ก อากาศหนาวเย็นแต่เขาทนได้
เดินทางเข้าชมลานหินปุ่ม หลังจากผ่านทางเดินไม้ ก็ถึงลานหินกว้างๆ มีธารน้ำเล็กๆ ไหลผ่านต้อนรับสดชื่นมากๆ ถัดจากลานหินเดินลึกเข้าไป ก็เริ่มเข้าสู่เส้นทางไปยังลานหินปุ่ม และผาชูธง มีป้ายให้เลือกซ้ายหรือขวา ผมเลือกเดินไปทางลานหินปุ่ม ซึ่งต้องเดินวนขวาเข้าไป ที่จริงจะไปซ้ายหรือขวาก็ได้ เพราะเส้นทางเป็นวงกลม กลับมาบรรจบกันตรงที่เดิมตรง การเดินจากจุดเริ่มเดิน ไปถึงลานหินปุ่มมีระยะทางประมาณ 1.2 กม. ระหว่างทาง มีวิวสวยๆ ข้างทางที่น่าสนใจมากมายครับ ยิ่งในช่วงฤดูฝนอย่างนี้ด้วย ดอกไม้บานเต็มลานหินไปหมด ประกอบกับหมอกขาว ที่ปกคลุมอยู่อย่างนี้ทั้งวัน แต่ก็ไปไม่ถึงผาชูธง เหนื่อย หมดแรง แต่เก็บรูปมาได้บ้าง
มื้อกลางวันส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ สุดยอดอร่อยมาก
อิ่มแล้วแวะดูลานหินแตก แต่ไม่ได้ไปดูเพราะแดดจัด ลมแรง ฝุ่นเยอะมาก นั่งรอบนรถสองแถว ประมาณ 14.00 น. เดินทางกลับที่พักเขาค้อ ระหว่างทางแวะซื้อของฝากมะขามหวานเพชรบูรณ์ ที่รูท 12 และถ่ายรูปบริเวณที่ชมวิว
เดินทางถึงที่พักประมาณ 17.30 น. เข้าพักที่วงจันทร์กลางหมอก เป็นเรือนพักสองชั้น นอนห้องละ 5 คน ที่นี่ไม่มีแอร์ อากาศเย็นยะเยือก มีงานเลี้ยงสังสรรค์แต่ไม่ได้ลงไปร่วม หนาว ไม่ไหวแล้วขอนอนก่อน เช้าจะตื่นมาเก็บภาพทะเลหมอกมาฝากค่ะ
ยามเช้าหน้าเรือนพักวงศืจันทร์กลางหมอก
ความเห็น (5)
..... สวยงามจริงๆ นะคะ ....
...บรรยากาศหนาวๆ เที่ยวน่าสนุกนะคะ...
หนาวถึงกระดูกค่ะ ยิ่งสูงยิ่งหนาวค่ะอาจารย์
สวยงามมากค่ะ ผักสดๆ น่าทานมากค่ะ ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ http://www.gotoknow.org/posts/558984