หากจะกล่าวถึงกิจกรรมหลักของโครงการจัดการความรู้จนเมืองนคร ก็แบ่งได้เป็น 2 กิจกรรมหลัก หรือ 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ กิจกรรมเรียนรู้เรื่องการให้ครัวเรือนหรือชุมชนจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเอง กับกิจกรรมเรียนรู้หรือปฏิบัติการแก้จนตามที่ปรากฏในแผนชุมชนพึ่งตนเองดังกล่าวนั้น
ว่ากันตามความเป็นจริงแล้วกิจกรรมทั้งสองดังกล่าวก็ถูกออกแบบให้ใช้การเรียนรู้ควบคู่อยู่แล้ว แต่จากข้อเท็จจริงที่ผ่านมาปรากฏว่า ปี 2548 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นที่ส่งเสริมให้คุณกิจครัวเรือนจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเอง กิจกรรมเรียนรู้ในขั้นตอนนี้เกิดขึ้นน้อยมาก ทีมคุณอำนวยที่จะไปส่งเสริมกระบวนการจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเองก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นใคร ทำให้แกนนนำหมู่บ้านๆละ 8 คน (ซึ่งมีการวิพากย์วิจารณ์กันถึงที่มาอยู่เหมือนกันว่าได้คนที่ตั้งใจทำงานมาหรือเปล่า) ขาดที่ปรึกษาขาดพี่เลี้ยง เมื่อแกนนำหมู่บ้านดังกล่าวต้องไปทำกิจกรรมเสมือนเป็นคุณอำนวยหมู่บ้านส่งเสริมกิจกรรมสำรวจข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และส่งเสริมการออกแบบกิจกรรมแก้ไขปัญหาความยากจนครัวเรือนอื่นๆอีก 64 ครัวเรือนในหมู่บ้าน และเป็นการออกแบบกิจกรรมแก้ไขปัญหาแบบพึ่งตนเองในแผนดังกล่าวด้วยแล้ว แกนนำดังกล่าวทำกิจกรรมนี้ได้ฝืดมาก แผนชุมชนพึ่งตนเองก็กลายเป็นแผนพึ่งพาที่รอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอกเป็นส่วนใหญ่ ส่งแผนชุมชนพึ่งตนเอง(ซึ่งไม่ค่อยจะพึ่งตนเอง)ต่อให้กับทีมปฏิบัติการแก้จนตามแผนซึ่งเป็นอีกทีมหนึ่ง อีกเจ้าภาพหนึ่ง เหมือนการวิ่งผลัดที่จะต้องส่งไม้ต่อกันไปในปี 2549 แล้วพูดกันจนเป็นที่เข้าใจกันว่าค่อยไปจัด KM กันในปี 2549 โน่น
น่าดีใจที่ปัญหาดังกล่าวได้กลายเป็นบทเรียนในปี 2550 นี้แล้ว กลายเป็นบทเรียนให้ทีมงานเริ่มกลับไปตั้งหลักใหม่ว่าต้องเรียนรู้ หรือ KM ตั้งแต่งานสำรวจข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ออกแบบกิจกรรมแก้ไขปัญหายากจนในขั้นตอนของการจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเอง ไม่ใช่จะให้นับหนึ่ง KM เมื่อตอนจัดกิจกรรมแก้ไขปัญหาความยากจนตามแผนดังกล่าว ฉะนั้นหมู่บ้านที่จะเริ่มต้นสำรวจข้อมูลครัวเรือนเพื่อจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเองอีก 600 หมู่บ้านทั้งจังหวัดในปี 2550 ต้องเริ่มต้นเรียนรู้กันอย่างเข้มข้น(KM)เรื่องการจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเองกันเลย
ผมพยายามส่งสัญญาณเรื่องนี้กับพรรคพวกมานาน ก็เห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ผมเห็นรูปธรรมนี้จากการที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชได้มีการประชุมเรื่องนี้กันแล้ว เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2549 ซึ่งอำเภอเมืองได้ผนึกกำลังกันระหว่าง อบต.ทุกตำบล และ กศน.เป็นแกนหลัก ซึ่งมาประชุมพร้อมเพรียงกันดีมาก ประมาณ 40 คน จัดตั้งศูนย์ประสานงานแผนชุมชนประจำตำบล ณ ที่ทำการ อบต.มีปลัด อบต.เป็นประธาน มีที่ปรึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตำบลเป็นที่ปรึกษา ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบเรื่องนี้จะออกไปจัดเวทีพบปะแกนนำหมู่บ้านในทุกตำบล เป็นเครื่องมือ หรือกลไกขับเคลื่อน ฉะนั้นหมู่บ้านใหม่ของอำเภอเมืองที่จะเริ่มต้นสำรวจข้อมูลจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเองในปี 2550 จำนวน 45 หมู่บ้าน จะใช้ KM เนียนไปเลย ไม่รอ KM ตอนปฏิบัติการแก้จนตามแผนเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมาอีกต่อไปแล้ว ...วงเรียนรู้ หรือเวทีเรียนรู้จะได้เกิดขึ้นในทุกขั้นตอนของการจัดทำแผนชุมชนพึ่งตนเองอย่างเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น
เป็นการนำบทเรียนที่ผ่านมา มาปรับปรุงเรียนรู้ต่อเนื่องนั่นเองครับ
เรียน อ.จำนง