บันทึกการเมืองไทย (4) : การเมืองเรื่องผลประโยชน์ส่วนรวม


       กัลยาณมิตร ส่ง คอลัมน์นี้มาให้ทาง อี-เมล์

คอลัมน์ : ฉลามเขียว : ถอนใบขับขี่
Source - บ้านเมือง (Th)
Wednesday, October 25, 2006  09:09
 
          กรุงเทพ--25 ต.ค.--บ้านเมือง
 
          ดีใจมากที่คณะรัฐมนตรีเอาจริงเอาจัง ในเรื่องที่จะให้คนไทยกินเหล้าน้อยลง
          ล่าสุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้นำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุม ครม.เมื่อวันอังคาร จะหาทางลดการตายของคนไทยในวันเทศกาลหยุดยาวต่างๆ
          เหล้ามีแต่พิษร้าย 
          โดยเฉพาะการตายของพี่น้องเราในช่วงหยุดยาวสูงจนน่าใจหาย ช่วงวันสงกรานต์ ตายมากกว่าสงครามอิรัก ซึ่งเหตุหลักก็คือกินเหล้าแล้วขับรถ
          เมื่อท่านนายกรัฐมนตรีจะเอาจริง หารือ ครม.เพื่อกำหนดมาตรการแล้ว ผมได้ศึกษาเหตุแห่งการตายมาพอสมควร ขอเสนอว่า จะต้องจัดการคนกินเหล้าไม่ให้ได้ขับรถทุกชนิด
          ผมขอเสนอว่า คนที่เมาแล้วขับให้รัฐถอนใบอนุญาตขับขี่ขั้นเด็ดขาด ถอนตลอดชีวิต ไม่ต้องให้ขับรถอีก
          ผมเชื่อว่าถ้ารัฐเอาจริง ถอนจริง จะมีคนกลัวมาตรการนี้มาก
          โดยหากคนขับรถรายใดเจอด่านตรวจ และให้เป่าอุปกรณ์แล้วมีแอลกอฮอล์เกินมาตรฐาน ให้ตำรวจทำเรื่องฟ้องศาล ให้ศาลออกคำสั่งถอนใบอนุญาตขับขี่ตลอดชีวิต
          ขณะเดียวกันก็ต้องมีกฎหมายอีกข้อ กำหนดว่าหากตำรวจรายใดกลั่นแกล้งให้ติดคุก 1 ปี ถอนใบอนุญาตตำรวจ และหากรายใดเจอคนเมาแล้วไม่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้ตำรวจติดคุก 1 ปี และถอนใบอนุญาตเป็นตำรวจ
          ส่วนมาตรการระยะยาวผมขอเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงอุตสาหกรรมผลิตเครื่องมือมาติดที่รถทั้งมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ทุกชนิด  หากเครื่องมือนี้ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากคนที่กำลังจะขับรถ แม้แค่นิดเดียว  ก็ให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด ให้รอจนกว่าแอลกอฮอล์จะหมดกลิ่น
          ส่วนข้อเสนอของ หมอสุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสส.ที่จะเอาเงินจากการเพิ่มภาษีเหล้าอีก 2% ราวๆ 2,000 ล้านบาท มาใช้ในกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมระยะยาว ผมก็ขอหนุนเต็มที่ โดยเฉพาะ
          กองทุนพัฒนาสื่อเพื่อเยาวชน
          ผมอยากให้รัฐบาลจัดเงินทุนให้พวกนักจัดรายการทีวี  แนวเพื่อเด็กและเยาวชน แบบให้เปล่า  ให้ฟรีๆ และเยอะๆ แล้วรัฐจัดเวลาช่วงไพร์ไทม์ให้ทุกวันด้วย โดยช่วงหลังข่าวดีที่สุด
          พวกละครน้ำเน่าที่ตะโกนใส่กันแว้ดๆ รวมทั้งพวกข่าวดาราที่เน้นอยู่แค่ คนโน้นกิ๊กคนนี้ คนนี้เลิกคนโน้น แล้วปฏิเสธว่าไม่จริง ซึ่งไร้สาระ และไร้ประโยชน์ต่อสังคมมาก จะได้หายไปจากจอทีวีเสียที
          ท่านนายกฯ กล้าตอแยกับพวกมาเฟียทีวีไหมครับ--จบ--

        อ่านแล้วทำให้คิดต่อว่า     ตอนมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา     ผมรู้สึกว่าการเมืองเน้นที่ผลประโยชน์ของกลุ่มนักการเมืองในรัฐบาล หรือใกล้ชิดรัฐบาล     เวลานี้เรามีรัฐบาลจากการแต่งตั้ง     การเมืองมีภาพต่างออกไป    เป็นการต่อสู้เพื่อสร้าง "โครงสร้างพื้นฐาน" ของบ้านเมือง เพื่อลดปัญหาหนักๆ ในสังคม  ที่บั่นทอนความเข้มแข็งของสังคมลงทีละน้อย แบบเราไม่รู้ตัว      ดังเรื่องกบในน้ำเย็นบนเตาไฟ แม้น้ำจะอุ่นขึ้น และร้อนขึ้น กบก็ไม่รู้สึก จนในที่สุดกบก็สุกตายโดยไม่รู้ตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย

        ผมอยากให้รัฐบาลนี้ สามารถสร้างโครงสร้างดีๆ ไว้ให้แก่สังคม    เหมือนกรณีที่รัฐบาลท่านอดีตนายกฯ อานันท์ สร้างไว้เมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว       ผมฝันว่า ต่อไปการเมืองไทยจะมีลักษณะการเมืองที่เน้นโครงสร้างเพื่อความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงระยะยาวมากขึ้น     ไม่เป็นการเมืองแบบหลอกลวงเห็นแก่ตัว และโกงกิน อย่างที่ดำเนินไปในช่วงฝันร้าย ๕ ปี

วิจารณ์ พานิช
๒๖ ตค. ๔๙
              

หมายเลขบันทึก: 55796เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2006 09:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจว่า 5 ปีที่ผ่านมานั้นเป็นฝันร้ายนะครับ เพราะเขาเหล่านั้นยังฝันหวานถึงเงินประชานิยมที่เขารอรับอยู่ รอให้นักการเมืองเอามาแจกกัน โดยไม่คิดว่าจะเป็นความทุกข์ในอนาคต หากมีคนเข้าใจเรื่องความหลอกลวงฝันร้ายที่ผ่านมามากขึ้นๆ ก็คงดีกว่านี้ ผมคิดเช่นนี้ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท