น้อมนำ ๙ พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช รัชกาลที่ ๙
เพื่อเป็นแสงสว่าง เป็นหนทางแห่งการดำเนินชีวิต พระบรมราโชวาทที่เกี่ยวเนื่องกับหลักคิดในการดำเนินชีวิตที่ทรงพระราชทานต่อ คนไทย เป็นเครื่องเตือนใจ เป็นหนทางแห่งชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืน
๙๑. สุขภาพจิตสำคัญกว่าสุขภาพกาย เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม
"....สุขภาพจิตสำคัญกว่าสุขภาพกายด้วยซ้ำ เพราะว่าคนไทยที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แต่จิตใจฟั่นเฟือน ไม่ได้เรื่องนั้น ถ้าทำอะไรก็ยุ่งกันได้ กายแข็งแรงก็จะไม่เป็นประโยชน์ต่อตนเองหรือสังคมอย่างใด ส่วนคนที่สุขภาพกายไม่สู้จะแข็งแรง แต่สุขภาพจิตดี หมายความว่า จิตใจดี รู้จักจิตใจของตัว และรู้จักปฏิบัติให้ถูกต้องย่อมเป็นประโยชน์ต่อตนเองมาก และเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้มาก ในที่สุดสุขภาพจิตที่ดีก็อาจจะพามาซึ่งสุขภาพทางกายที่ดีได้...."
๙๒.จะปักใจเชื่ออะไรต้องใช้สติ และค้นคว้าไตร่ตรอง ให้แน่ใจว่าเป็นความจริง
"....โลกปัจจุปันเต็มไปด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ ฉะนั้นก่อนที่จะปักใจเชื่ออะไรลงไป ควรพิจารณาดูเหตุผลให้ถ่องแท้เสียก่อน แม้แต่สมเด็จพระส้มมาสัมพุทธเจ้ายังทรงแนะนำให้ใช้สติและปัญญาศึกษาค้นคว้าและไตร่ตรองให้แน่ว่า คำสั่งสอนนั้นเป็นความจริงที่เชื่อได้หรือไม่ ไม่ใช่สักแต่ว่าเชื่อเพราะว่ามีผู้รู้บัญญัติไว้....."
๙๓. ไม่ควรเหยียดหยามคนรุ่นเก่า เพราะคนรุ่นเก่าจึงเกิดคนรุ่นใหม่
"....การที่คนสมัยใหม่บอกว่าคนสมัยเก่ามีความรู้น้อยก็อาจเป็นจริง แล้วคนสมัยใหม่ดูถูกหรือเหยียดหยามคนสมัยเก่าก็มีสิทธิ์ แต่ถ้าพูดตามความจริงแล้ว สิทธิ์ที่จะเหยียดหยามคนรุ่นเก่าไม่ควรจะมี ด้วยเหตุว่าคนรุ่นเก่านี้เองทำให้คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาได้...."
๙๔. การศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญยิ่งของมนุษย์
"....การศึกษาเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญยิ่งของมนุษย์ คนเราเมื่อเกิดมาก็ได้รับการสั่งสอนจากบิดามารดา อันเป็นความรู้เบื้องต้น เมื่อเจริญเติบโตขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของครูบาอาจารย์สั่งสอนให้ได้รับวิชาความรู้สูง และอบรมจิตใจให้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรม เพื่อจะได้เป็นพลเมืองดีของชาติสืบต่อไป....."
๙๕. ศึกษาเพื่อให้เกิด" ความฉลาดรู้" แล้วนำไปใช้ประโยชน์ได้
"....ต้องศึกษาเพื่อให้เกิดความฉลาดรู้คือ รู้แล้วสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆโดยไม่เป็นพิษเป็นโทษ การศึกษาเพื่อความฉลาดรู้มีข้อปฏิบัติที่น่าจะยึดเป็นหลักอย่างน้อยสองประการ
ประการแรก เมื่อจะศึกษาสิ่งใดเรื่องใดให้รู้จริง ควรจะศึกษาให้ตลอด ครบถ้วนทุกแง่มุม ไม่ใช่เรียนรู้แต่เพียงบางส่วนบางตอน หรือเพ่งเล็งเฉพาะแต่เพียงบางแง่บางมุม
อีกประการหนึ่ง ซึ่งจะต้องปฏิบัติประกอบพร้อมกันไปด้วยเสมอคือ ต้องพิจารณาศึกษาเรื่องนั้นๆด้วยความคิดจิตใจที่ตั้งมั่นเป็นปรกติและเที่ยงตรงเป็นกลาง....."
๙๖. เรียนรู้ และนำมาพิจารณาให้แจ่มชัด จากนั้นฝึกฝนจนชำนาญ จึงนำไปใช้ให้สำเร็จผลได้
"....การเรียนรู้ทุกอย่างนั้น จะต้องเรียนรู้ตามความรู้ของผู้อื่นก่อนเป็นเบื้องต้น เมื่อรู้แล้วจึงนำมาพิจารณาให้เห็นแจ่มแจ้งละเอียดลงไปอีกชั้นหนึ่ง ให้ถึงเนื้อหาสาระ อันจะอ้างอิงอาศัยหลักฐานได้ มิให้เป็นการเรียนรู้อย่างเลื่อนลอย แต่เมื่อถึงขั้นที่สองนี้แล้วก็ยังถือว่าจะนำมาใช้การให้ได้ผลแน่นอนจริงๆไม่ได้ยังจำเป็นต้องนำความรู้นั้นมาปฏิบัติฝึกฝนอีกให้เกิดผลประจักษ์แจ้ง และเกิดควา่มคล่องแคล่วชำนาญขึ้นพร้อมกันไปด้วย จึงจะนำไปใช้ปฏิบัติให้สำเร็จผลได้ไม่ขัดข้อง....."
๙๗. พึงศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้ความรู้ ความคิด และความฉลาด
"....การศึกษาเพิ่มเติมที่แต่ละคนกระทำนั้น กล่าวได้ว่ามีอยู่สองทาง
ทางหนึ่งคือ ศึกษาค้นคว้าจากตำรับตำรา และวิเคราะห์วิจัยตามระบบและวิธีการที่ปฏิบัติกันในมหาวิทยาลัย
อีกทางหนึ่งคือ สดับตรับฟัง สังเกต จดจำจากการกระทำคำพูดของบุคคล รวมทั้งเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่ได้ประสบผ่าน แม้แต่อุปสรรคความผิดพลาดของตนเองก็อาจนำมาคิดพิจารณาให้เป็นบทเรียนที่ทำให้เกิดความรู้ ความคิด ความฉลาด ได้ทั้งสิ้น...."
๙๘. มีความรู้สูงแล้ว ต้องมีความละอายต่อบาป
"...หากบุคคลใดมีความรู้สูง แต่ขาดหิริโอตัปปะ คือ
ไม่มีความละอายต่อบาป นำความรู้นั้นไปใช้ในทางมิชอบ ก็จะำทำให้สังคมเดือดร้อน...."
๙๙. เผยแพร่ความรู้ความสามารถให้ผู้อื่นคือการสร้างบารมี
"....ผู้ใดมีความรู้ใด ก็ควรจะแพร่ออกไปให้คนอื่นทราบ เพราะว่าการเผยแพร่ความรู้ความสามารถไปให้ผู้อื่นนั้นไม่ได้เสียประโยชน์ใดๆ เพราะว่าความรู้ และความดีเมื่อเผยแพร่ออกไปยิ่งทวีคูณขึ้น ไม่ได้หมดไปจากตัว ยิ่งทำดียิ่งทำให้คนอื่นมีความรู้ ความรู้ของเราก็ไม่หมดลงไป ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น อันนี้เรียกว่า การสร้างบารมี....."
้* ขอบคุณ ๙ พระบรมราโชวาทจากหนังสือ ๑๐๘ มงคล พระบรมราโชวาท โดย สำนักพิมพ์อมรินทร์ ร่วมกับ 7 -ELEVEN และฺ BOOK SMILE รายได้ส่วนหนึ่งทูลเกล้าถวายโดยเสด็จพระราชกุศลในกิจการของโรงเรียนวังไกลกังวล
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
วันพุธที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ส ๒๕๕๖
ไม่มีความเห็น