1น7-10-49
วันนี้ดิฉันเตรียมตัวมานำเสนอและต้อนรับกลุ่ม สส.และผู้บริหารจากประเทศปาปัวนิวกินีที่มาดูงานโดยผ่าทางUNAIDS หลังจากรวบรวมและปรับslideแล้วก็ให้หนูเล็กหน้าห้องตัดต่อให้
ช่วงสายๆมอมมาหาและแจ้งว่าจะต้องนำเสนองานให้KMกรมที่มาติดตามงาน ดิฉันจำเป็นต้องนำ13แบบฟอร์มที่เราส่งให้กรมเพื่อประเมินมาทำความเข้าใจและรวบรวม slide เก่าๆที่เคยใช้งานมารวมและนำเสนอโดยสิ่งที่นำเสนอและสิ่งที่ส่งให้กรมถึงจะเป็นคนละเรื่องแต่ดิฉันก็พยายามพูดให้เป็นเรื่องเดียวกันจนได้ค่ะ
หมอแก้วสามารถจับได้ว่าสิ่งที่เขียนไม่ได้ทำแต่สิ่งที่ทำไม่ได้เขียนแต่สรุปแล้ว่างานทางKMทางบำราศน่าจะทำได้ดีกว่าหน่วยอื่นๆ (มอมแจ้งให้ทราบ)
ดิฉันได้แจ้งให้ผู้ประเมินทราบว่า เราไม่ทราบว่าต้องทำการประเมินด้วย13แบบฟอร์มของสำนักเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ทำให้เรามาเร่งทำทีหลัง การนำเสนออาจจะไม่เชื่อมโยงกับงานที่ทำจริงๆ
คุณหมอศิริวรรณโทรมาด้วยความภาคภูมิใจในคำชมค่ะ ดิฉันคิดเองนะคะว่าถ้าเขียนด้วยทำด้วยคงเป็นตัวอย่างของกรมครแน่ๆ. (พยายามสร้างกำลังใจให้ตัวเองและทีมงานค่ะ แต่ความจริงหนูเล็กสอนว่าไม่ให้ชมตังเอง)
อยากได้ความเห็น เรื่องการทำ KM ของภาคราชการแล้วไปโยงกับการตรวจประเมินแบบผลงานแบบดั้งเดิม
มีความเห็นว่าคนทำแผนก็เดิมๆ คนปฏิบัติงานก็เดิมๆ การประเมินก็แบบเดิมๆ เลยทำให้ไม่แน่ใข่ว่าท้ายที่สุด จะได้ระบบ KM แบบดั้งเดิมหรือไม่
ไม่ได้อยู่ส่วนราชการที่ต้องให้จัดทำแผนโดยระบบ KM อย่างหน่วยราชการอื่นๆ แต่มีโอกาสได้สัมผัสและได้ได้ประสบการณ์จากการไปดูภาคราชการเขาทำแผนปฏิบัติงานกัน
ยังสยองขวัญแทน CKO & KF
ความจริงเป็นคนที่ศรัทธาวิธีการนี้มาก เพราะ ทำงานมาก็ใช้ ระบบนี้กับตนเองกับกลุ่ม/ทีม ที่สนใจเรื่องที่เหมือนกัน การทำงานเกาะกลุ่ม ทำกันมายาวนานถึง 30 กว่าปี ทุกวันนี้ ก็ยังเกาะกลุ่มสร้างและพัฒนางาน พัฒนาตัวเอง กันจนทุกวันนี้
ดิฉันทำKM ตามวิธีเดิมแล้วเอาวิธีใหม่มาเติมให้เต็มค่ะ คงไม่ต้องตามใจฝรั่งแต่ต้องทำงานให้สำเร็จโดยดูว่ากระแสขณะนี้ใช้อะไรเป็นเครื่องมือ ศึกษาและเลือกมาใช้งานโดยมีหลักว่างานได้ผล (ประเมินผ่านด้วย คงไข้และลูกค้าพอใจด้วย) และคนทำงาน องค์กรต้องพอใจด้วยค่ะ
ขอบคุณที่มา ลปรรค่ะ