ท้องฟ้าเริ่มหม่น ๆ มืด ๆ มัว ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าที่มัว ๆ มืด ๆ มาจากควันรถที่วิ่งไปมาหรือเพราะราตรีกาลเริ่มขยับเขยี่ยนเข้ามาเยือน เวิงฟ้าเวิงว้างไร้นกบิน นี่คือท้องฟ้าใน กทม. ฝนที่โปรยลงมาช่วงบ่าย ๆ พอที่จะทำให้ท้องถนนชื้นแฉะ สาวเท้าทอดยาวออกจากซอยเล็ก ๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงถนนใหญ่ใช้สายตาสังเกตสองข้างทางไม่มีหญ้าแม้แต่ต้นเดียว ให้นึกถึงต้นหญ้าที่เขียว ๆ ชอุ่ม ชุ่ม ๆ นุ่ม ๆ เท้า เมื่อยามสายฝนโปรยลงมาเกาะบนยอดหญ้า เม็ดใส ๆ บริสุทธิ์ดูงามตายิ่งนัก...ท้องทุ่งนาบ้านเรา
เดินวนกลับมาในซอยเดิมอีกครั้ง แมนชั่นหลังใหญ่ ใหม่ ๆ สูง ๆตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เมื่อแหงนมองขึ้นไปที่ระเบียงของแต่ละห้องสายตาพอได้ซึมซับความเขียวขจีจากใบไม้ต้นเล็ก ๆ ที่เจ้าของห้องบรรจงปลูกไว้ในกระถางพอจะทำให้ใจได้ยิ้มอย่างสดชื่นบ้าง ความยิ่งใหญ่และความเพรียบพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกของแมนชั่นย่อมสะท้อนและบ่งบอกถึงความเพรียบพร้อมของผู้อยู่อาศัยด้วยทุกอย่างดูงามสง่าในสายตาตนและคนรอบข้าง จึงทำให้เกิดความทนงในความพร้อมที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิต จนหลงลืมตัว หลงลืมแม้กระทั่งลมหายใจแห่งตน ขณะที่หัวใจยังเต้นเร้าระรัวเพียงเพราะถูกยั่วยุด้วยอารมณ์ที่ตนสร้างขึ้นเอง
บอกตัวเองว่าขอนิ่ง และสงบ พักกายพักใจ ให้หายเหนื่อยปลดระวางความว้าวุ่นแห่งความทนงในตัวตน ทบทวนนั่งมองความเป็นไปแห่งชีวิต จึงได้รู้สึกและสำนึกตัว ว่าแท้ที่จริงในความทนงที่คิดว่าตนเหนือและต้องชนะทุกครั้งไป แต่กลับพ่ายแพ้แก่ลมหายใจแห่งตน ชั่วไม่กี่อึดใจกับการยึดตนเป็นศูนย์กลางกลับพบความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เมื่อมวยวัดขึ้นชกกับมวยสากลแต่หาใช่สมัครเล่น พบการสอนมวยที่มีชั้นเชิงเหนือกว่าจึงพ่ายแพ้น๊อคแค่ยกแรก
เมื่อลดความทนงแห่งตนลง ด้วยการใช้ใจนั่งตรองดู ที่แท้ด้วยอารมณ์แห่งความโกรธ ความระแวง ทำให้ใจหวั่นไหว ไร้สติ ไม่สามารถค้นพบแม้กระทั่งลมหายใจแห่งตน ความต้องการแห่งใจ หากเปรียบชีวิตคือความรัก และเปรียบความรักดั่งลมหายใจ หากคำว่า "เรา" คือ หนึ่งเดียว เธอหายใจเข้าฉันจะหายใจออก หากแค่เธอหายใจออกฉันก็จะหายใจเข้า เมื่อนั้นชีวิตเราจะคงอยู่และความรักจะคงเดิม หากแค่เราต่างทนงตน ไม่ยอมหายใจให้สอดคล้องต้องกันเมื่อนั้นย่อมเกิดความขัดแย้งแห่งชีวิต ความเป็นเราย่อมหมดและเหือดหายไป
จึงกลับมาเตือนตน เพื่อลดความทนง...และบอกชีวิตด้วยลมหายใจแห่งรัก ก่อนที่จะหลงลืมตนว่า "ชีวิต" คือ "ลมหายใจ" คือ "รัก" ขอบคุณที่ลมหายใจแห่งเราช่วยสอนให้รู้จักชีวิต...ชีวิตจึงได้รู้จักคุณค่าแห่งคำว่า "เรา"
ลดอัตตา ความเป็นตัวตนลงไป ความรักบางครั้งก็ไม่ต้องเหตุผลครับ
ให้กำลังใจอาจารย์ Vij ครับ
.......
ชอบการบรรยายในบันทึกที่เข้าไปสะกิดถึงหัวใจครับ
หากเมื่อใดที่เรา...นิ่ง...
จะทำให้เรามองเห็นความเป็นไป...แห่งลมหายใจ...
นิ่ง...และนิ่ง...
เท่านั้น....และคือ ตนเรา...ที่พึงทำต่อการ...
ทบทวน..."ลมหายใจ"...แห่งชีวิต
ทุกลมหายใจของเรา มันมีค่ากับคนอีกหลาย ๆ คน
ขอบคุณ "น้องจตุพร" สำหรับกำลังใจที่ให้กัน และคำชมที่ชมกันมาหนอย ๆ (นิดหน่อย)
ขอบคุณ "Dr.Ka-Poom" กับการนิ่ง...ทบทวนตน...สัมผัสเห็นลมหายใจ...แห่งตน
ขอบใจ "น้องนิวคนสวย" กับลมหายใจแห่งความเป็นคน เพื่อคนหลายคน
ขอบคุณ คุณ "ขจิต" ที่แวะเวียนมาให้กำลังใจและนำลมหายใจแห่งความคิดถึงมากฝาก ฝากกลับไปเช่นกันค่ะสำหรับลมหายใจที่ว่านั้น ตกลง "ทนง" ไหนค่ะ นายทนง นามสกุล ก่อนหลงลืมตน ใช่คนเดียวกันนะคะ (ยิ้ม ยิ้ม)
ขอบคุณคุณพี่ "ชายขอบ" ค่ะ ก็ยังนึกขำตัวเองอยู่เหมือนกันเมื่อวันเวลาผ่านเลยไป
ส่วนมากแล้วคนที่คิดว่าซ้อมมามาก ซ้อมมาดี มักจะประมาทให้กับตัวเอง และประมาทฝีมือฝ่ายตรงข้ามเสมอ เพราะคิดว่าตัวเองเก่งเหนือใคร หารู้ไม่ว่าเวลาขึ้นชกนอกสังเวียนเป็นเช่นไร ส่วนใหญ่จะพลาดตรงนี้แหละค่ะ "ทนงตน" เกินไป
สวัสดีคะ ชอบเรื่องของพี่จังเลยคะ ขออนุญาตแชร์นะคะ