๙ ต.ค.๔๙ เป็นงานภาคสนามตามปกติที่ผมปฏิบัติอยู่ทุกวัน และต้องเดินทางอยู่เรื่อย ๆ ไม่ค่อยได้นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้เลยช่วงหลัง ๆ นี้ พบว่าการห่างหายไปนานทำให้หนืดในการบันทึกอยู่เหมือนกันครับ ได้ตระเวนเยี่ยม Blog ของท่านสมาชิก GotoKnow
หลายท่าน ยังไงวันนี้ถึงแม้นจะเหนื่อยล้าก็ต้องบันทึกเสียบ้างแล้ว
วันที่ ๑๙ ต.ค.๔๙ ได้มีโอกาสนำกระบวนการ Km ทดลองใช้เพื่อการเรียนรู้และฝึกตนเองและทีมงาน คือคณะกรรมการศูนย์บริการ
และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล สมาชิกสภาอบต. และน้องนักวิชาการเกษตร ของ อบต.ช้างซ้าย ครูในโรงเรียนเจ้าของสถานที่ที่ผมขอใช้บริเวณใต้อาคารจัดกิจกรรม ได้สังเกตุการจัดกระบวนการของผม
ซึ่งดูท่านให้ความสนใจมากเลย การดำเนินการ ก็เพื่อต้องการให้เกษตรกรได้เรียนรู้ศึกษา วิเคราะห์ตนเองและภาพรวมของสังคมกิจกรรมอาชีพการปลูกมันเทศว่าความเป็นจริงอยู่อย่างไร ผมได้เชิญหลายฝ่ายเข้ามาร่วมเพื่อต้องการที่จะขยายกระบวนการ Km ไปสู่เพื่อนร่วมงานหลาย ๆ หน่วยงานโดยปฏิบัติกันจริง ๆ แล้วค่อยบอกกันทีหลัง ผมได้ดำเนินการตามกระบวนการที่ร่างไว้ทันที
แรกเริ่ม ได้ขอความร่วมมือจากคณะกรรมการศูนย์บริการ ฯ คนที่เคยผ่านกระบวนการจัดทำแผนชุมชนมาแล้วมาฝึกการทำหน้าที่คุณอำนวย และนักวิชาการเกษตร อบต.ฝึกเป็นคุณลิขิต โดยหารือกันก่อนดำเนินการว่า เป้าหมายเราต้องการอะไร ก็คือต้องการให้เกษตรกร "ผลิตมันเทศที่ปลอดภัยจากสารพิษ"
ซึ่งถ้าจะไปบอกหรือห้ามเขาโดยตรงคงเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ
ก็ต้องค่อย ๆ ให้เรียนรู้และเห็นข้อมูลประจักษ์ด้วยตนเอง เราจึงค่อยสอดแทรกสิ่งที่ต้องการลงไป
กิจกรรมแรก ผมเรียกว่า "คลายกังวล " เนื่องจากพบว่าการจัดประชุม อบรมเกษตรกรในพื้นที่ใกล้บ้าน เขาไม่หลุดพ้นจากภารกิจ
ประจำวันที่มีอยู่ และยิ่งประชุมอยู่ใกล้บ้านแล้วเขายิ่งอยากทำภารกิจนั้น ซึ่งเป็นการสร้างความกังวลอย่างหนึ่งที่ได้ใจมายาก ไม่เต็มที่ในการทำกิจกรรมร่วม วิธีการที่ทำคือแจกกระดาษ ขนาด 1/4 ของกระดาษ เอ 4 ให้เขียนชื่อ นามสกุล แล้วตั้งคำถามว่า "ตอนออกจากบ้านนั้นท่านคิดกังวลอยู่กี่เรื่องอะไรบ้าง " ให้เขียนลงไป และบอกความกังวลของเราเอง(ทีมวิทยากร) เขียนนำว่ากังวลเรื่องใด แล้วนำกระดาษนั้นไปวางในตะกร้า แล้วพูดชักนำเข้าสู่กระบวนการโดยไร้กังวลให้นำความกังวลเหล่านั้นที่ต้องทำ ไปฝากไว้ในตะกร้าก่อน หลังจากนั้นเขาคือบุคคลตามที่เรามุ่งหวังที่ไร้ความกังวลแล้ว
เริ่มชี้แจงทำความเข้าใจ ที่มาทำกิจกรรม พร้อมทั้งบอกเป้าหมายที่ต้องการ คือการปลูกมันเทศที่ปลอดภัยจากสารพิษ
กิจกรรมแบ่งกลุ่ม แบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่ม ๆ ละ ๒๐-๒๕ ให้คณะกรรมการบริหารศูนย์บริการ ฯ ทำหน้าที่เป็นคุณอำนวยทั้ง ๓ กลุ่ม ขั้นตอนนี้ไม่ซับซ้อนอะไรมากเพราะให้แบ่งไปตามหมู่บ้านที่มาร่วม จำนวน ๓ หมู่บ้าน
ส่วนคุณลิขิตกลุ่มแรกให้นักวิชาการเกษตรของ อบต. กลุ่มสอง ครูสอนโรงเรียนเอกชน ที่เป็นสมาชิกกลุ่มปลูกมันเทศช่วยเป็นคุณลิขิต และอีกกลุ่มเลือกจากสมาชิกในกลุ่มที่มีความสามารถและเคยมีประสบการณ์บันทึกรายงานการประชุม
ทีมวิทยากรได้ตกลงกันว่า ในการที่จะได้มาซึ่งโจทย์ที่เราต้องการที่ต้องการจำเป็นต้องใช้กรรมวิธี โดยจะต้องคอยตั้งคำถาม เพื่อสกัดมูลเหตุปัจจัยที่โน้มนำให้เกษตรกรใช้สารเคมีในการปลูกมันเทศของเกษตรกรออกมา แต่จะไม่ไปสอบถามเขาโดยตรง แต่โดยวิธีการให้เกษตรกรศึกษาต้นทุนการปลูกมันเทศตั้งแต่เริ่มต้น (ตั้งแต่เริ่มคิดจะปลูก) จนถึงขายผลผลิตว่าได้ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง โดยใช้กระบวนการ " เรื่องเล่าเร้าพลัง "
ให้ทุกคนในกลุ่มช่วยกันเล่า พลัดเปลี่ยนกันเล่าซึ่งก็สนุกดี ผมนั้นคอยวิ่งไปมาระหว่าง ๓ กลุ่ม เพื่อสังเกตุพฤติกรรมทั้งของทีมวิทยากร(คุณอำนวยมือใหม่ ,คุณลิขิตมือใหม่) คุณกิจ (เกษตรกร) รวมถึงโจทย์ที่ต้องการเห็นแล้วเริ่มปรากฎให้เห็นในกระดาษบนป้ายผลที่ออกมาต้นทุนของการใช้ ปุ๋ยเคมี และ สารเคมีสูงพอสมควร และเป็นสารเคมีชนิดใดบ้าง ซึ่งทำให้ทราบได้ทันทีว่า อยู่ในระดับปริมาณที่เป็นอันตรายหรือไม่ และได้รู้ข้อมูลเพิ่มขึ้นอีกมากจากเดิมที่รู้อยู่แล้วนั้น
เมื่อผ่านกระบวนการครั้งนี้ทำให้รู้ว่าข้อมูลที่เคยมีอยู่นั้นล้าสมัยไปมากแล้ว เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง ที่ดึงให้เกษตรกรต้องใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมี ซึ้งครั้งนี้ได้ทราบโจทย์ว่าจะต้องให้เกษตรกรได้เรียนรู้อะไรต่อไป เพื่อให้ลด ละ เลิก การใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมี ไปสู่เป้าหมายการปลูกมันเทศที่ปลอดภัยจากสารพิษ
กระบวนการครั้งนี้ ได้ทำให้ผมทราบว่า เป้าหมายที่วางไว้นั้นเป็นเป้าหมายใหญ่เสียแล้ว คือกลายเป็นแม่ปลาตะเพียน เพราะผมพบลูกปลาตะเพียนอีกมากมายที่ว่ายวนเวียนอยู่เต็มไปหมด ทำให้ค้นพบโจทย์ที่ผมคิดว่าจะต้องแปรรูปแบบเป็นเป้าหมายย่อยในการ"จัดการความรู้ เรื่องการปลูกมันเทศ" เรื่องเดียว จากเป้าหมายใหญ่เพื่อ จัดกระบวนการเรียนรู้กันต่อไป เพื่อไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ เกษตรกรที่เป็นคุณกิจ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติขั้นตอนต่าง ๆ ในการผลิตมันเทศเพื่อเป็นสินค้าที่ปลอดภัยและสร้างรายได้ของเขาต่อไป
เรียน คุณสิงห์ป่าสัก
ช่วงนี้ต้องทำงานให้ทันกับเวลาที่มี เพราะเวลามีเท่าเดิมแต่งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
เมื่อเช้าพยายามเข้า GotoKnow หลายรอบแต่เข้าไม่ได้ เพิ่งได้ตอนนี้ครับ
ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเยี่ยม