ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้ากรุงลังกา โปรดให้เศรษฐีชาวลังกาให้มาช่วยเหลือในการสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ เศรษฐีทั้งสอง ชื่อ พลิติ และ พลินุ่ย ภายหลังได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทั้งสองเดินทางมาไม่ทันพระมหาธาตุเจดีย์สร้างเสร็จแล้ว จึงสร้างวิหารนี้แทน
ในระหว่างการสร้างบุตรชายทั้งสองของเศรษฐี ชื่อ เจ้ามุด กับ เจ้าหมู เกิดวิวาทฆ่ากันตายทั้งคู่ จากเรื่องชนไก่ ฝ่ายบิดาเศร้าเสียใจอาลัยลูกจึงสร้างสิ่งที่เป็นอนุสรณ์ นำอัฐิมาตำเคล้ากับปูนปั้นเป็นรูปพุทธประวัติ ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จออกบรรพชา หรือ เสด็จออกมหาภิเนษกรณ์ อันเป็นที่มาของวิหารนี้ปั้นเป็นรูปปั้น พระสิทธัตถะ นางพิมพา พระราหุล นายฉันนะ ตลอดจนรูปม้า เทวดา มาร พรหม นอกจากนี้ยังเชื่อว่า เศรษฐีทั้งสองได้ปั้นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ พระโมคคัลาน์ และพระสารีบุตร ที่ผนังตรงข้างบันไดด้วย
ทางผนังด้านขวาของบันไดนอก เป็นอัฐิเจ้าหมู เป็นรูปนางพิมพากำลังกกพระราหุลให้เสวยนมอยู่ในห้องบรรทม ข้างล่างเป็นรูปของพวกสนมชาววัง ถัดมาเป็นรูปพระเจ้าสิทธัตถะกำลังเสด็จหนีออกผนวช และรูปตอนทรงม้า มีพระพรหมกางฉัตรให้ มีเทวดาตามขบวนเสด็จ รองรับเท้าม้า และปิดปากม้าไม่ให้ส่งเสียงร้อง ส่วนนายฉันนะยึดเกาะหางม้า ตอนสุดท้ายเป็นรูปพญามารเข้าขัดขวาง
ทางด้านซ้ายเป็นอัฐิเจ้ามุด ก็ทำแบบเดียวกัน
รูปปูนปั้นเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช
หากวันไหนที่เข้ามานมัสการองค์พระธาตุอย่าลืมแวะไปนมัสการ วิหารพระทรงม้า และนำผ้าขึ้นห่มพระธาตุเจดีย์ ถวายเป็นพุทธบูชาด้วยนะค่ะ อย่าลืมแวะชมศิลปะปูนปั้นอันงดงามด้วยนะค่ะ
พึ่งท่องเที่ยวมาอ่านครับ...
เป็นการบรรยายเห็นภาพนะครับ...ได้เห็นความมีใจศรัทธาของคนสมัยก่อนได้เป็นอย่างดีนะครับ...
ขอบคุณครับ...
อาจารย์ umi
อาจารย์เที่ยวสนุกไหมค่ะ หัวไทรเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
อยากให้คนที่เข้าไปนมัสการได้ทราบถึงความเป็นมานะคะ
รูปปูนปั้น เจ้าชายสิทธัตถะออกผนวช
หากไปเมืองนครศรีฯ จะหาโอกาสไปนมัสการ ครับ