AARสอนพระนวกะที่ระยอง


เอาบุญมาฝากแก่กัลยาณมิตรทุกท่านด้วยค่ะ

บ่ายนี้เพิ่งเดินทางไปลปรร.ตามคำเชิญของพระอาจารย์มหาวีระชัยที่อำเภอวังจันทร์ จ.ระยองได้รับความสนใจไถ่ถามจากพระคุณเจ้าพระนวกะที่มาเข้ารับการอบรมปริวาสกรรมทั้งหลายประมาณ20กว่ารูปค่อนข้างดีมีความตั้งใจฟังและสอบถามเพิ่มเติม รวมถึงตอนท้ายหลังจากเลิกบรรยายแล้วยังได้มีโอกาสฟังธรรมให้ข้อคิดและสติจากพระอาจารย์วีระชัยและพระอาจารย์ศุภชัยอีกช่วงใหญ่ๆ(เพราะมีฝนตกหนักส่งท้ายให้พวกเรา)

ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมการบรรยาย:รู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจอยู่บ้างทั้งในด้านที่เกี่ยวข้องกับการบรรยายและการเดินทางซึ่งไม่รู้เลยว่าจะอยู่ที่ไหนอย่างไร..จะไปถูกหรือไม่.ดิฉันเพิ่งรู้ว่าระยองนี้กว้างใหญ่และมีสวนยางเหมือนทางใต้...โชคดีที่มีกัลยาณมิตรที่ดีมากอย่างMoomiและสินชัยที่มีน้ำใจดีช่วยเหลือขับรถพาไปส่งอย่างขลุกขลักถึงยังที่วัดแถมยังร่วมกันทำบุญซื้อข้าวซื้อของมาทำบุญถวายให้กับทางวัดอีกด้วย ซึ่งก็ขออนุโมทนามายังสองหนุ่มสาวคู่นี้ด้วยใจจริง

ระหว่างการบรรยาย ดิฉันเริ่มต้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นแกมประหม่า เพราะเรามีความคิดว่าพระท่านมีความรู้ทางธรรมมากหรือลึกซึ้งกว่าเราแต่เมื่อได้เริ่มบรรยายไปตามเนื้อหาที่ศึกษาและพอจะมีประสบการณ์เกี่ยวข้องมาบ้างก็เลยเริ่มมั่นใจมากขึ้น...ในใจมีโครงเรื่องหลักก็คืออยากให้พระนวกะที่ส่วนใหญ่จะลาสิกขาเมื่อรับกฐินเสร็จแล้วอย่างน้อยได้มีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องของโรคเอดส์และการมีสติไม่ประมาทหรือท้อแท้หากเกิดจะต้องมาเผชิญหน้ากับมันรวมถึงแถมเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ4Cประคองชีวิตคู่ซึ่งพระนวกะทั้งหลายท่านก็ให้ความเป็นกันเองและร่วมถามร่วมตอบจนไม่รู้สึกว่าเป็นการบรรยายที่เคร่งเครียดแต่อย่างใด

หลังการบรรยายที่สำคัญจากการกะเวลาที่พอดีพอดีทำให้เลิกบรรยายก่อนฝนจะตกลงมาทำให้ทั้งเราและพระคุณเจ้าทั้งหลายไม่ต้องรีบวิ่งหนีฝน...แต่ถึงกระนั้นก็ต้องหยุดพักรอที่วัดให้ฝนหยุดไปอยู่เกือบชั่วโมงแต่เราก็โชคดีที่ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารย์...จากการพูดคุยกับพระอาจารย์ทั้งสองท่านทำให้ฉันมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นอย่างเช่นการตั้งสติที่จะใช้ความรู้ที่ได้อ่านได้ฟังจากพระคุณเจ้าทั้งหลายนำมาใช้อยู่เสมอๆในชีวิตจริงทั้งในด้านส่วนตัวและการทำงานซึ่งพระอาจารย์แนะให้เรามองอุปสรรคหรือปัญหาเหมือนเครื่องเพิ่มสมรรถนะทางจิตยิ่งเจอโจทย์ยากๆแสดงว่าเราโชคดีมากขึ้น ฉันชอบตัวอย่างการเปรียบเทียบของพระอาจารย์วีระชัยที่ว่าสวรรค์หรือนรกมันอยู่ที่จิตมากกว่าที่วัตถุดังเช่นรถยนต์เป็นพาหนะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่เราแต่หากใจเราไม่มีความสุขหรือขาดสมดุลถึงจะนั่งอยู่ในรถเบ๊นซ์ก็อาจมีความสุขสู้คนที่นั่งรถซาเล้งไม่ได้...ส่วนพระอาจารย์ศุภชัยท่านสอนให้ฉันเข้าใจในเรื่องของข้อดีในคราวเคราะห์โดยพระอาจารย์ท่านได้เล่าถึงเคสผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ท่านได้ไปเยี่ยมมีอยู่รายหนึ่งที่ผู้ป่วยไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้มากนักแต่ผู้ป่วยกลับดูไม่ค่อยทุกข์กระวนกระวายมากนักจนเป็นที่แปลกใจเมื่อสอบถามประวัติก็พบว่าสมัยก่อนผู้ป่วยเองเป็นคนขับรถและเคยมีอุบัติเหตุรุนแรงสองสามครั้งด้วยกันซึ่งแต่ละครั้งผู้ป่วยต้องนอนไม่ค่อยกระดุกกระดิกที่เตียงนานเป็นเดือนๆทำให้เขาเกิดการเรียนรู้ที่จะรักษาใจและอารมณ์เมื่อตอนนี้ก็ต้องมานอนเตียงนานอีกหนซึ่งจะว่าผู้ป่วยรายนี้โชคร้ายก็ได้ที่ต้องมาเจ็บป่วยหนักและต้องนอนอยู่ที่เตียงแต่ความที่เขามีสติและปัญญาทางธรรมที่มากพอจนทำให้เขาสามารถมองเห็นข้อดีหรือด้านดีในการเจอคราวเคราะห์ของตนเองได้จนทำให้ทุเลาทุกข์เกี่ยวกับเจ็บป่วยของตนเองลงได้ในระดับหนึ่ง..

อื่นๆที่เกินความคาดหมาย:นอกเหนือไปจากการเดินทางครั้งนี้จะเป็นเหมือนการเปิดโอกาสให้ฉันได้ทำความดีหรือทำบุญจากการให้ความรู้และถวายทานแด่พระสงฆ์แล้ว... ฉันยังได้รับความช่วยเหลือที่ดียิ่งจากกัลยาณมิตรที่น่ารักเช่นMoomi,สินชัยและครอบครัวของเขา(พ่อ+แม่)ที่อนูเคราะห์และให้ความดูแลรวมถึงความรู้เกี่ยวกับพืชสวนของจังหวัดระยองอีกด้วย...ฉันได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งว่าบางทีกิจกรรมที่ดีหลายๆกิจกรรมกว่าจะสำเร็จหรือสมบูรณ์ได้จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากคนมากมายหลายคน...การได้เดินทางมาสอนพระของฉันวันนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยหากไม่ได้มีความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากกัลยาณมิตรหลายคนซึ่งฉันก็ขอขอบคุณและเอาบุญและกุศลที่เพิ่งได้กระทำมานั้นฝากมาให้กับทุกท่านด้วยค่ะ

หมายเลขบันทึก: 54855เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2006 22:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท