การดักปลาโจนทำอย่างไร
ชาวบ้านดงน้อย หมู่ที่ 5,12 และ 16 ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม ได้รับการสนับสนุนโครงการชลประทานขนาดเล็ก เป็นฝ่ายน้ำล้นกั้นลำน้ำเมา เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งในปี 2548 ช่วงต้นฤดูฝนมีปลากระโจนเพื่อที่จะขึ้นไปหน้าฝายจำนวนมาก จึงได้คิดทำ "อู่ดักปลาเต้นดาง" โดยใช้ไม้ตีเป็นกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 1.50 x 5 เมตร เย็บด้วยตาข่ายเขียว ปล่อยให้ตาข่ายเขียวหย่อนลงครึ่งวงกลม ลักษณะคล้ายอู่ ทำขาไขว้ ทางด้านกว้างทั้งสองข้าง ต่ำจากกรอบสี่เหลี่ยม 30 เซนติเมตร ผูกเชือกทั้งสี่มุมปล่อยหย่อนลงหลังฝาย บริเวณปลายน้ำตกด้านล่างให้เอียงตามการไหลทิ้งตัวของน้ำ โดยให้กรอบไม้สี่เหลี่ยมสูงจากน้ำที่กำลังตก 20 เซนติเมตร ซึ่งจะเป็นบริเวณที่ปลากระโจนตกลงในตาข่ายหรืออู่พอดี แนวคิดดังกล่าวได้ดัดแปลงมากจากการเห็นคนงานสร้างฝายใช้ตาข่ายพรางแสงสีดำ ดักปลากระโจนเพื่อเป็นอาหาร
การดักปลาโจนสามารถดักได้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม - มกราคม ซึ่งมีน้ำไหลแรงที่ฝายน้ำล้น ในปี 2548 ชาวบ้านผลัดกันดักปลาโจนจากฝายน้ำล้นล้ำน้ำเมา ซึ่งมีประตูน้ำ จำนวน 8 ช่อง สามารถทำอู่ดักปลาโจนได้ 8 อู่ รวมทั้งปีแต่ละอู่จะจับปลาได้ จำนวน 300 - 400 กิโลกรัม รวมปริมาณปลาทั้งหมด ประมาณ 2,400 - 3,200 กิโลกรัม ชนิดปลาที่ดักได้
ปลาหนัง ได้แก่ ปลาค้าว ซึ่งเคยจับได้ตัวละ 12 กิโลกรัม ปลาเซือม ปลาปีกไก่ ปลาเข็ม เป็นต้น ปลาเกล็ด ได้แก่ ปลาชะโด ปลาสร้อย ปลากเก้ง ปลาปาก ปลาสูด ปลาเวียนไฟ เป็นต้น และในปี 2549 ได้มีการประมูลเพื่อทำอู่ดักปลา โดยนายกาวล นวลลมลี สมาชิก อบต. หมู่ที่ 16 และเครือญาติ รวม 4 ครอบครัว สามารถประมูลได้ในราคา 8,200 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้จะเป็นกองทุนสำหรับพัฒนาบ้านดงน้อยทั้ง 3 หมู่ และตั้งแต่เดือน เมษายน - ตุลาคม ปี 2549 สามรถจับปลาโจนหรือชาวบ้านเรียก "ปลาเต้นดาง" ได้ประมาณ 800 กิโลกรัม และขายได้เป็นเงินประมาณ 20,000 บาท ซึ่งถือว่ามีความคุ้มค่า
เทคนิคสำคัญในการดักปลาโจน
1. ปลามักจะกระโจนในเวลากลางวันที่มีแสงแดดจัดตั้งแต่เช้าถึงเย็น และมักกระโจนมากในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่น้ำมีสีแดงเริ่มล้นจากฝายน้ำล้น และเดือนตุลาคม ช่วงปลายฝนแดดจัดและอากาศเริ่มเย็น วันไหนฟ้ามืดครึ้มไม่มีแสงแดด ปลาจะไม่กระโจน ซึ่งบางวันจับปลาได้ไม่กี่ตัว วันไหนแสงแดดจัด ปลากระโจนมากสามารถจับปลาได้ถึง 100 กิโลกรัม เวลากลางคืนปลาจะไม่กระโจนจะกระโจนเฉพาะปลาชะโด
2. อู่ดักปลา โดยเฉพาะกรอบสี่เหลี่ยมต้องไม่โดนน้ำที่ไหลลงมา ในช่วงน้ำขึ้นต้องคอยระวังไม่ให้น้ำพัดถูกกรอบไม้หรือตกลงไปในอู่เพราะจะทำให้อู่พังเสียหาย ซึ่งในช่วงกลางคืนที่ไม่ได้เฝ้าอู่ ต้องยกอู่เผื่อสูงไว้
3. การจับปลาที่กระโจนเข้าอู่แล้ว จับปลาโดยยกอู่ขึ้นสักเล็กน้อยใช้สวิงทำจากตาข่ายเขียว ต่อด้ามไม้ไผ่ช้อนปลาในอู่ขึ้นมา
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
สำหรับรายละเอียดเทคนิคการดักปลาโจนหรือปลาเต้นดาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้ใหญ่สมศักดิ์ นนทจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านดงน้อย หมู่ที่ 5 หรือนายกาวล นวลลมลี สมาชิก อบต. (ผู้ให้ข้อมูลและผู้ประมูลดักปลาโจน) หมู่ที่ 16 บ้านดงน้อย ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
ขอบพระคุณมากครับที่นำมาบันทึกแบ่งปัน เดี๋ยวนี้หาดูได้ยากมากครับการจับปลาด้วยวิธีนี้
ปลาโจน จะโดดเวลามีลมหนาวด้วยครับ