บทเรียนจากวันที่น้ำไม่ไหล


 


ระหว่างไฟดับ กับ น้ำไม่ไหล ให้เลือกคุณเลือกสิ่งไหน ?

สำหรับฉันขอเลือก ให้ไฟดับค่ะ

เพราะว่าไม่มีไฟฟ้า เพียงเดือดร้อน เพราะไม่สะดวกสบาย

แต่น้ำไม่ไหล ไม่มีน้ำใช้เนี่ย... มันคุกคามต่อการดำรงชีวิตเลยทีเดียว


.............

 


เมื่อคืนเวรดึก  ที่โรงพยาบาลน้ำไม่ไหลทั้งเวร

ทางประปาเขาแจ้งมา 2-3 วันแล้วว่า จะปิดน้ำตั้งแต่ สี่ทุ่ม จนถึงตีสี่

แต่พอเอาเข้าจริงๆ... หกโมงเช้าแล้ว น้ำก็ยังไม่ไหล

กว่าน้ำจะมา..เกือบเก้าโมงค่ะ  -__-'

เช้าวันนั้นเวรดึก จะเช็ดตัวคนไข้ก็ทำไม่ได้ จะล้างเครื่องไม้เครื่องมือเตรียมส่ง CSSD ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำ  เช้าๆคนจะเข้าห้องน้ำก็ไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำล้าง น้ำราด  แต่ถึงแม้จะสำรองน้ำใส่ถังไว้ มันก็ไม่พอใช้อยู่ดี สำหรับวอร์ดที่มีคนไข้ โดยเฉพาะวอร์ดพิเศษซึ่งมีญาติมาอยู่ด้วย

แต่คนไข้และญาติยังดีหน่อย.. เพราะตลอกคืนนั้นนอนหลับ

แต่พยาบาลตลอดเจ้าหน้าที่อื่น ที่มาเข้าเวร อยู่เวรทำงานตลอดทั้งคืนนั้น

ทรมานสุดๆเลยค่ะ  T_T

จะกินอะไรก็ไม่กล้ากิน กลัวถ่ายหนัก แม้แต่น้ำก็ไม่กล้ากิน กลัวปัสสาวะบ่อย  แต่ถึงแม้จะไม่กินน้ำเลย แต่โดยปกติ..ไตจะขับน้ำลงมายังกระเพาะปัสสาวะ โดยเฉพาะอย่างน้อย 30 ซีซีต่อชั่วโมง (หมายถึงอาจจะมากกว่านั้น) ถ้าคำนวณว่า เราปัสสาวะตอนอาบน้ำก่อนขึ้นเวร ดังนั้นปัสสาวะล่าสุดคือห้าทุ่ม

จากห้าทุ่มมาถึงแปดโมงเช้า... เก้าชั่วโมงเชียวนะพี่น้องขา  bladder งี้ full เชียวล่ะตอนนั่งส่งเวร ให้กับเวรเช้า แล้วตอนเริ่มงาน..เข้าไปเจาะเลือด ฉีดยาแจกยา ตรวจดูซักถามอาการคนไข้ ช่วงหกโมงเป็นต้นไปนั้น เดินไป เจ็บท้องน้อยไป.. มันทรมานแค่ไหน รู้ไหมคะผู้บริหารเจ้าขา (ฮือ)

 

จึงคิดว่า.. ช่วงเวลาแห่งชีวิตของคน คือช่วงเช้า 6-7 โมงเช้านะ  ถ้าหากมีการเตรียมการได้ เป็นงานแบบ Elective ไม่ใช่ Emergency คิดว่าควรที่จะหลีกเลี่ยงช่วงเวลานี้  เพราะปิดน้ำซ่อมท่อทุกที ต้องเลยเวลาที่แจ้งไว้เสียทุกที  ดังนั้นหากเอาเหตุการณ์ปิดน้ำหลายๆครั้งมา review ก็จะพบเห็นสิ่งที่เหมือนๆกันคือ ซ่อม Late ทุกครั้ง  ปัญหานี้น่าจะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้แล้ว  เพื่อนำเอาปัญหาที่รู้ว่ามันน่าจะเกิด มาคิดหาทางรับมือแก้ไข เสียก่อนที่มันจะเกิดปัญหา

ดังนั้นอดคิดไม่ได้ว่า การปิดน้ำซ่อมให้เร็วขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงชีวิตตอนรุ่งอรุณจะดีกว่าไหม ?

เหตุการณ์น้ำไม่ไหลเมื่อคืนนี้ ยังได้บทเรียนมาอีกเรื่อง..  คือขณะที่เจ้าหน้าที่ในวอร์ดกำลังหน้าดำหน้าเขียว เพราะปวดอั้นเต็มที่  ก็มีนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งเดินเข้าห้องน้ำ ชะรอยปวดมากอั้นไม่อยู่ รึเมื่อเช้าตื่นเร็วเพราะต้องรีบมาดูคนไข้ จึงไม่ทำปล่อยหนักที่ห้องพัก

เขาไม่รู้ว่าน้ำไม่ไหล เราก็กำลังวุ่นๆจึงบอกไม่ทัน ปรากฏว่าถ่ายเสร็จกดน้ำ จึงค่อยพบว่าน้ำไม่ไหลค่ะพี่น้อง  ผลก็คือ..หน้าแตกนะ  ต้องปิดฝาชักโครกไว้ เพราะไม่มีน้ำราด

เราจึงได้บทเรียนจากความผิดพลาดของคนอื่นนะ  นั่นก็คือ.. เวลาจะเข้าห้องน้ำทุกครั้ง ต้องสำรวจดูก่อนว่า มีอะไรสำหรับชำระหรือเปล่า 

น้ำ..

ทิชชู่ ... 

มีไหม ??

จากนั้น..อย่าลืมกดชักโครกดูด้วย ว่าชักโครกไหลไหม ?

ไม่งั้น...เตรียมการรับมือไว้ไม่ดี มีหวังได้ขายหน้า หรือโดนคนทำความสะอาด บ่น สาปแช่ง ตามหลังอย่างแน่นอน

^___________________^

 

หมายเลขบันทึก: 54723เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2006 23:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

หนูต้องโต้วาทีนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท