ติดใจเฝ้าใฝ่หา
เวลานั้นก็คือเวลาที่จัดสรรไว้ออกกำลังกายค่ะ
ตั้งแต่จัดสรรเวลาให้คงที่ ในการออกกำลังกายแต่ละวัน เช่นตอนเช้าก็ประมาณ 6 โมง ถ้าเป็นตอนเย็นก็ประมาณ 5-6 เย็น ..พอถึงเวลานั้นๆ ก็จะเกิดอาการอยู่ไม่สุขไม่อยากทำอย่างอื่น ต้องไปเดินๆๆ พอให้ได้ครึ่งชั่วโมง หรือหนึ่งชั่วโมง แล้วกลับมาอาบน้ำสบายใจ จากนั้นถึงจะกลับมาทำงานต่อได้
เลยพบว่าเทคนิคกำหนดเวลาในแต่ละวันเพื่อการออกกำลังกายนี่ได้ผลดีค่ะ วันแรกๆ อาจจะอิดออดต่อรองกับตัวเอง ต้องใจแข็งเข้าไว้ พยายามทำ พอสักพัก จะเกิดอาการติดใจเฝ้าใฝ่หา อยากไปออกกำลังกายในเวลานั้นๆ เองเลยค่ะ...
ความเห็น (6)
ขอแสดงความชื่นชมที่คุณหาเวลาออกกำลังกายให้กับตนเองเจอและลงตัว...
เป็นสิ่งที่ดีมาก...เป็นของขวัญให้กับตนเองที่ดีเยี่ยมคือการได้ออกกำลังกายครับ...
ซึ่งผมสนับสนุนทุก ๆ คนด้วยความชื่นชมยิ่ง...สำหรับการมีเวลาออกกำลังกายครับ...ฮา ๆ เอิก ๆ
- ในบันทึกก่อนๆ ของดิฉันนั้น ระบุว่า ดิฉันเป็นคนนอนดึก และตื่นสาย ประมาณ 7.30 น.
- การตื่นสาย ทำให้ดิฉันพลาดสิ่งที่มีคุณค่าของชีวิตจิตใจไปหลายอย่าง
- เช่น มีพระมาบิณฑบาต อากาศสดชื่นยามเช้า ความสวยงามของแสงแรกแห่งวัน และการออกกำลังกายค่ะ
- คงต้องจัดสรรเวลาให้ลงตัว และไม่ผัดวันประกันรุ่งอีกค่ะ
- ขอบคุณบันทึกดีๆ ค่ะ
อาจารย์จันทรัตน์
อาจารย์เป็นแบบอย่างของผู้มีสุขภาพดีครับ
ทั้งกาย และ จิต ครับ
คิดว่า น่าจะมีโอกาสเจออาจารย์วิ่งจ๊อกกิ้งที่ หอประชุม มช. หรือ อาจารย์มีสถานที่ออกกำลังกายที่ไหนครับ
ผมมองว่า ปั่นจักรยานก็ดีนะครับ แต่เชียงใหม่หาพื้นที่ปั่นยากมากครับ หากไม่ใช่ชานเมืองนอกๆออกไป
อาจารย์เขียนบันทึกเกี่ยวกับการออกกำลังกายของอาจารย์บ่อยๆครับ จะได้ร่วมเรียนรู้ด้วย
ดิฉันกำหนดเวลา 5.45 ทำให้ออกกำลังได้ทุกวันมาประมาณ10ปีค่ะ
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมน้องๆที่สถาบัน
เรียนท่านอาจารย์ umi ค่ะ
- ลองยืดหยุ่นกับตารางตัวเองแล้วก็พบว่า มักจะอดใจอ่อนผลัดวันประกันพรุ่งไม่ได้ พอมาควบคุมด้วยเวลาก็เลยพบว่า ดีเหมือนกันค่ะ
เรียนคุณ bright lily
- ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจในการบันทึก ..เรื่องออกกำลังกายนี่ประสบการณ์ตัวเองคือเริ่มแต่น้อย..เริ่มแล้วเก็บความรู้สึกดีๆของวันนั้นไว้ เป็นกำลังใจวันรุ่งขึ้นค่ะ
เรียนคุณจตุพร
- ขอบคุณค่ะที่ชม ส่วนมากไปเดินในสวนสมุนไพรคณะเภสัชฯค่ะ ซึ่งต้องขอบคุณคณะเภสัชไว้ ณ ที่นี้ ที่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าเดิน...สวนสุขภาพก็เดินค่ะ แต่ถ้าเย็นๆ มีคนวิ่งมากมักจะตาลายกับภาพเคลื่อนไหว..บางทีก็เลี่ยงไปเดินที่หอประชุมฯ ยกเว้นวันที่มีจัดงาน รถจะเยอะ เดินไปสูดควันรถไป..ก็เลยเลี่ยงเข้าไปในสวนสมุนไพรแทนค่ะ....ข้อสังเกตในปีนี้คือ คนหนุ่มสาวออกกำลังกายโดยการวิ่งกันมากขึ้น..จำเริญใจในการเห็นค่ะ
- บ้านนอกของเชียงใหม่..เดินตามถนนยากอยู่บ้างเพราะไม่มีทางเท้าค่ะ...ต้องคอยยืนหลบให้รถผ่านหรือหยุดรอถ้ามีรถจอดชิดข้างทางค่ะ..กลายเป็นเดินๆหยุดๆ ค่ะ แต่ข้อดีคือ มีกิจกรรมออกกำลังกาย แอโรบิคฟรีทุกเย็น ทุกหมู่บ้านค่ะ...บางหมู่บ้านก็มีฟิตเนสเซนเตอร์ ดูแลโดย อบต ค่ะ
เรียนท่าน ผอ ออ อัจฉรา ค่ะ
- ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม เข้าไปอ่านหลายๆบันทึกของสถาบันแล้ว สรุปด้วยตัวเองว่า ต้องเป็น wellness workplace ที่ดูแลบุคลากรแบบ holistic แน่ๆ เพราะทุกบันทึกเปร่งแสงความสุขออกมาสม่ำเสมอค่ะ
