Know how to drive in USA


USA drive

This is from Dr.Mongkon, thaimd.net

 

 

SURVIVAL GUIDE :: USA OPINION: รู้ไว้ใช่ว่า ก่อนมาขับรถในอเมริกา
ผู้บันทึก Mongkon เมื่อ พุธ, 11 ตุลาคม 2006 (13:12:39)
ในสหรัฐอเมริกา เรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องปรับตัวอย่างมากเรื่องหนึ่งคือการขับรถ การขับรถที่นี่เป็นเรื่องสนุกมากพอๆกับ ความเข้มงวดของระบบ ผมได้รวบรวม trick สำหรับการเตรียมตัวมาขับรถที่เมืองลุงแซมนี้ จะได้ขับได้อย่างปลอดภัยและเพลิดเพลินกับการขับรถเที่ยวนะครับ... Wink

ในสหรัฐอเมริกา เรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องปรับตัวอย่างมากเรื่องหนึ่งคือการขับรถ อเมริกาเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการขับขี่อย่างมาก ในขณะเดียวกันอเมริกาก็เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับการขับรถเที่ยวเป็นอย่างมากเช่นกันเนื่องจากระบบการจราจรที่ดี โครงสร้างพื้นฐานเช่นถนน ป้ายจราจร รวมถึง ความเคร่งครัดและเข้มงวดของตำรวจ ดังนั้นจะพบว่าคนไทยหลายๆคนที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมักมีประสบการณ์ได้รับใบสั่งจากตำรวจจราจร ผมก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนไทยอีกหลายๆคนที่นี่ ทั้งที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้และที่มีโอกาสสูงที่จะได้ลิ้มรสประสบการณ์ดังกล่าวในอนาคตอันใกล้ จะได้เตรียมตัวไว้ก่อนนะครับ

กฎหมายที่นี่ เน้นเรื่องความปลอดภัยครับ เพราะฉะนั้นเรื่องบางอย่างต้องฝึกทำให้เป็นนิสัย อย่างเช่นคาด safety belt ที่ front seat (โดนปรับ 143 $), มีกระป๋องเบียร์ หรือขวดเหล้าเปิดอยู่ในรถ โดนจับ ปรับ 263 $, เด็กอายุต่ำกว่า 17 ต้องคาด safety belt ไม่ว่าจะนั่งที่ไหนในรถก็ตาม, เด็กต่ำกว่า 15 ถ้าไม่คาด belt คนขับถูกจับแทน เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่อง alcohol ที่นี่เกณฑ์ต่ำมาก (ระดับ alcohol ในเลือด เกินกว่า 0.08% โดนจับ) ดื่ม 2 แก้วก็เกินแล้วครับ

ส่วนใหญ่คนไทยที่นี่ที่เคยถูกตำรวจทางหลวงจับมักเป็นเรื่อง speed ใบสั่งเรียกว่า speed ticket จากประสบการณ์และการสอบถามผู้รู้ มี trick บางอย่างที่ควรทำในการขับรถที่นี่เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา ดังนี้


- ก่อนเดินทางมาที่นี่ ให้ไปสมัครใบขับขี่ระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ใบขับขี่ inter แล้วนำติดตัวมาด้วย เอกสารที่ต้องใช้ในการทำก็คือรูป (กี่นิ้วจำไม่ได้แล้ว), บัตรประชาชน, ใบขับขี่ปกติ, และเงิน (ถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 800-1000 บาท) ไปทำที่กรมการขนส่งทางบกแถวถนนวิภาวดี ขั้นตอนสะดวกมาก ยื่นเอกสารแล้วรอรับเลย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เท่านั้น แต่คุ้มมาก (เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ว่าทำไมถึงคุ้ม) ใบขับขี่ inter นี้มีอายุ 1 ปีเท่านั้น ถ้าจะทำใหม่ต้องบินกลับมาเมืองไทย (ไม่คุ้ม) ดังนั้นถ้าต้องอยู่ที่อเมริกาเกิน 1 ปี ควรทำใบขับขี่ของอเมริการ่วมด้วย

- อันที่จริงใบขับขี่ของอเมริกา มีประโยชน์มาก ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ทำครับ โดยเฉพาะถ้าจะขับรถ เพราะ แทบทุกรัฐใช้ใบขับขี่เป็น ID card ดังนั้นเราก็ไม่ต้องพก Passport ติดตัวอีกต่อไป แม้แต่การบิน domestic ในประเทศอเมริกาก็ใช้แค่ใบขับขี่เท่านั้น ยกเว้นต้องบินออกนอกประเทศเท่านั้น นอกจากนั้น ใบขับขี่ยังใช้ประกอบการซื้อรถ และยังใช้ในการทำประกันรถอีกด้วย

- เวลาขับรถที่นี่ speed limit เป็นเรื่องสำคัญมาก มีหลักในการขับง่ายๆสำหรับพวกตีนหนักทั้งหลาย คือให้ขับได้ไม่เกิน 10 mph over speed limit เช่น ถ้าวิ่งบน freeway speed limit 65 mph(miles per hour) ขับจริงก็อาจวิ่งได้ถึง 75 mph (กลางวัน) ส่วนกลางคืนให้ลด speed ลงไป 5 mph ถ้าขับได้ตามนี้ ส่วนใหญ่ (ย้ำว่าส่วนใหญ่นะครับ) จะไม่โดนจับ

- แนะนำให้เก็บใบขับขี่ inter ไว้ในรถ เมื่อถูกตำรวจเรียก ให้ show ใบขับขี่ inter แล้วแกล้งทำหน้าซื่อที่สุดในชีวิต บอกคุณตำรวจไปว่า ไอเพิ่งมาจากเมืองไทย ไม่รู้กฏ ถ้าแสดงได้แนบเนียน คุณตำรวจแกจะให้ใบเตือน (reminder) ไม่ต้องถูกบันทึกประวัติ ไม่ต้องถูกขึ้นศาล และไม่ต้องถูกปรับ (อย่างต่ำเกือบ 200 เหรียญ) อันนี้มีคนไทยที่รอดมาแล้วด้วยวิธีนี้แล้วรอดชีวิตมาเล่าประสบการณ์ได้ ข้อสำคัญ ห้ามแสดงใบขับขี่อเมริกาเด็ดขาด เพราะจะถูกใบสั่งแน่นอน ล้านเปอร์เซนต์ การถูกจับบนถนนที่นี่ ไม่มีการเบ่ง ไม่มีการต่อรอง ไม่มีการแนบแบงค์แดง แบงค์ม่วงไว้หลังใบขับขี่ ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณไม่ควรถูกจับ รู้สึกว่าไม่ผิด ก็โน่นละครับ ไปแก้ตัวกันที่ศาลต่อหน้าลูกขุน

- เมื่อมีรถแล้ว รู้สึกว่าชอบขับเร็วเป็นชีวิตจิตใจ และคิดว่าต้องโดนจับแน่ แนะนำให้หาซื้อเครื่อง radar detector ติดไว้ประจำในรถ มีตั้งแต่ราคา สี่ห้าสิบเหรียญ ถึงสี่ห้าร้อยเหรียญ ขึ้นกับคุณภาพและความไว หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เช่น CompUSA หรือซื้อทาง online เช่น Amazon


Radar detector เป็นอุปกรณ์ตรวจจับเครื่องตรวจความเร็วของตำรวจ ซึ่งปัจจุบัน เครื่องตรวจความเร็วของตำรวจมีการใช้อุปกรณ์หลายประเภทส่งสัญญาณต่างกัน เช่น X, X2, Kappa, infrared, Lidar ดังนั้นถ้าจะซื้อก็ควรซื้อเครื่องที่ตรวจสัญญาณได้หลายประเภท แต่พวกนี้มีข้อเสียคือ มี false alarm บ่อย เช่น ผ่านประตูอัตโนมัติ(สัญญาณอินฟราเรด)ก็จะ alarm, ขับรถผ่านโรงเรียนก็อาจจะ alarm

ข้อสำคัญของการใช้ radar detector คือต้องรู้ว่าในบางรัฐของอเมริกา การใช้ radar detector ถือว่าผิดกฏหมาย เท่าที่รู้ขณะนี้มีอยู่ 2 รัฐคือ เวอร์จิเนีย และ ดีซี นอกจากนั้นในแคนาดาก็ถือว่าผิดกฏหมาย ในพื้นที่เหล่านี้ ตำรวจจะมีอุปกรณ์เรียกว่า detector detector (คงแปลเป็นไทยว่า เครื่องตรวจจับเครื่องตรวจจับความเร็ว) ถ้าพบว่าเรามีเครื่องดังกล่าวและเปิดใช้อยู่ ก็โดนจับครับ ฉะนั้นถ้าขับรถเข้าไปในสองรัฐนี้ก็ให้ปิดเครื่องครับ

ยังไม่เคยได้ยินว่ามีเครื่อง detector detector detector (เครื่องตรวจจับ เครื่องตรวจจับเครื่องตรวจจับความเร็วของตำรวจ...โอ๊ย งง) คิดว่าคนประดิษฐ์คงกำลังงงว่าตกลงจะตรวจอะไรกันแน่...
Tricks ต่างๆเหล่านี้ได้มาจากผู้รู้หลายๆท่าน และจากประสบการณ์ตรง ถ้าใครรู้อะไรดีๆก็เขียนมาเพิ่มเติมกันได้นะครับ จะได้เป็นวิทยาทาน คราวหน้าจะเล่าประสบการณ์การถูก speed ticket ให้ฟังนะครับ วันนี้พอหอมปากหอมคอแค่นี้ก่อน...ขอตัวไปซิ่งก่อนนะคร้าบบ... Wink
คำสำคัญ (Tags): #usa#drive
หมายเลขบันทึก: 54395เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2006 08:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2012 17:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท