สบาบใจใช่เลย

เรามาถูกทางแล้ว

         เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2549 ดร.สุวัฒน์ เงินฉ่ำ และนักวิจัย KM  ส่วนกลางของโครงการได้มาเยี่ยมเยียนถามข่าวความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรด้วยการจัดการความรู้ ของ สพท.นม.1 และโรงเรียนบุญวัฒนา เทศบาล 4 (เพาะชำ)  สุขานารีและอัสสัมชัญนครราชสีมา 

          ทีมแกนนำนักจัดการความรู้ทยอยเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมด้วยสีหน้าและแววตาที่มีแต่ความกังวล  แล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราก็ผลัดกันเล่าว่า "ทำอะไรไปบ้างแล้ว มีผลเป็นอย่างไร"  หากประเด็นใดไม่ชัดเจน ดร.สุวัฒน์และคณะก็ได้ซักถามเพิ่มเติมพร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะ

         การเยี่ยมเยียนครั้งนี้ทำให้พวกเราชัดเจนในเรื่อง KM  สรุปได้ว่าทำอะไรก็ได้เป็นงานปกตินี่แหละ  แต่ต้องให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  ดึงประสบการณ์มาร่วมกันพัฒนา  และเป็นไปตามธรรมชาติ

         ขอขอบคุณดร.สุวัฒน์ และคณะที่มาเยี่ยนเยียนพวกเรา  ซึ่งทำให้พวกเราเดินออกจากที่ประชุมด้วยความสุขที่รู้ว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว

[ชัยวุฒิ สินธุวงศานนท์]

ผมพวกเราก็กังวลใจกันมากเลยนะ เพราะไม่ทราบงานที่ดำเนินไปเป็นไปได้หรือไม่ และทำไปแล้วใช่หรือไม่ แต่เมื่อทราบว่าเป็นงานปกติ แต่ขอให้เพิ่มกิจกรรมที่สำคัญอีกกิจกรรมหนึ่งนั้นคือ กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้เราได้ประชุมกันและได้นำข้อคิดเห็นในการทำงานมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สามารถทำให้งานที่เป็นปกติมีการพัฒนางานมากขึ้น ซึ่งก็เป็นการใช้ธรรมะในการพัฒนางาน ก็คือ อิทธิบาทสี่ และ อปริหายธรรม การประชุมกันเนืองนิตย์ จะช่วยหาการทำงานมีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพที่สุด ขอขอบคุณครับที่ได้ร่วมงานนี้

[วัฒนา ก้อนเชื้อรัตน์]

พี่น้องส่งเสริมกันดีนะคะ