ปลัด ยธ.หนุนห้ามโฆษณาเหล้า 24 ชม. แนะออก กม.คุมเข้มบริโภคน้ำเมา <table border="0" cellspacing="0" cellpadding="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="1" bgcolor="#cccccc"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellspacing="0" cellpadding="4"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">12 ตุลาคม 2549 14:54 น.</td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellspacing="0" cellpadding="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle"></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">นายจรัญ ภักดีธนาคุณ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม</td> </tr> </tbody></table>
“ปลัดยุติธรรม” หนุน สธ.ออกกฎหมายห้ามโฆษณาเหล้าตลอด 24 ชั่วโมง แนะวิธีทำให้ง่ายและเร็ว ให้ คคบ.กำหนดสินค้าสุรายาเมาเป็นสินค้าควบคุมฉลาก และให้คณะกรรมการด้านโฆษณาออกระเบียบห้ามโฆษณาทุกรูปแบบ พร้อมให้มีระบบการตรวจสอบและทบทวนเรื่องภาษีอากรสุราต่างประเทศด้วย เตรียมหารือออกกฎหมายคุมเข้มการบริโภคสุรา
วันนี้ (12 ต.ค.) นายจรัญ ภักดีธนากุล รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงมาตรการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงว่า ขอชื่นชมในความคิดนโยบายของรัฐบาล รัฐมนตรี และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพราะเป็นนโยบายที่ประเทศควรทำมานานแล้ว ควรทำก่อนบุหรี่ยาสูบเสียอีก เพราะพิษภัยของสุรามากกว่าบุหรี่ เหตุที่ในอดีตไม่สามารถทำได้เพราะปริมาณของเงินที่สะพัดในแวดวงอุตสาหกรรมเหล้า เบียร์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมหาศาล จึงเป็นโอกาสที่จะชักชวนประชาชนให้หันกลับมาทบทวนเกี่ยวกับการวางแนวทางวิถีชีวิตให้อยู่ในคุณภาพมาตรฐานที่ดีขึ้น คนที่ยังเพลิดเพลินมีความสุขกับสุราก็เป็นเสรีภาพที่ทำได้ แต่รัฐบาลจำเป็นต้องระมัดระวัง
นายจรัญ กล่าวด้วยว่า การใช้มาตรการห้ามโฆษณาเหล้า 24 ชั่วโมงเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ตนจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุขว่าน่าจะมีกฎหมายเฉพาะสำหรับบริหารจัดการการบริโภคสุราในทิศทางเดียวกันกับบุหรี่และยาสูบ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเห็นร่าง พ.ร.บ.ควบคุมสุรา ที่จัดทำโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แต่เนื่องจากไม่ใช่กฎหมายด้านกระบวนการยุติธรรม จึงต้องให้ สธ.เป็นเจ้าภาพ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมพร้อมให้ความร่วมมือกับร่างกฎหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ ควรจะมีระบบการตรวจสอบและทบทวนเรื่องภาษีอากร การนำเข้าสุราต่างประเทศ ให้เป็นระบบ ซึ่งจากข้อมูลที่เป็นคดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำคดีเรื่องบริษัทตัวแทนจำหน่ายบุหรี่ต่างประเทศมีการหลบเลี่ยงภาษี พบข้อมูลว่าในประเทศกลุ่มอาเซียน ประเทศไทยมีมาตรฐานการจัดเก็บภาษีเหล้าและบุหรี่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ทั้งที่สินค้าเหล่านี้มอมเมาประชาชน และเงินทองไหลออกนอกประเทศ จึงเห็นควรให้ทบทวนจัดเก็บภาษีเพิ่ม และปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อให้ผู้ที่มีรายได้น้อยเข้าไม่ถึง รวมทั้งยังลดจำนวนคนดื่มสุราลงด้วย
“ปัญหาสุราเป็นต้นเหตุใหญ่ของปัญหาและคดีอาชญากรรมในประเทศ เห็นได้ชัดจากคดีในชั้นศาล ปัจจัยใหญ่มาจากสุรา ทำให้ขาดสติ นอกจากนี้ อุบัติเหตุบนท้องถนน และอุบัติเหตุในโรงงานส่วนใหญ่เกิดจากสุราเป็นเหตุ และยังเป็นสาเหตุหลักของการแตกร้าวในครอบครัว ทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งปัญหาสุขภาพของประชาชนที่รัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณรักษาจำนวนมาก จึงเห็นว่าจำเป็นที่ต้องเสนอโทษและพิษภัยของสุรา ยาเมาให้เด็ก เยาวชน ประชาชนให้ทราบ แทนที่จะให้บริษัทโฆษณามอมเมาประชาชนและทำกำไร โดยบางประเทศมีการจำกัดการจำหน่ายและโฆษณาเผยแพร่สุรา แต่ประเทศไทยกลับตกเป็นเหยื่อ” นายจรัญ กล่าว
นายจรัญ ยังได้แนะนำการเร่งออกกฎหมายห้ามโฆษณาเหล้าตลอด 24 ชั่วโมงว่า วิธีที่จะทำให้ง่ายและเร็ว ทำได้โดยขอให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก กำหนดให้สินค้าสุรายาเมา ต้องเป็นสินค้าควบคุมด้านฉลาก และให้คณะกรรมการด้านโฆษณาออกระเบียบห้ามโฆษณาทุกรูปแบบ ก็จะเหมือนกับสินค้าบุหรี่ ยาสูบ ที่สามารถห้ามการโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา : http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9490000127308
โดย ผู้จัดการรายวัน | 11 ตุลาคม 2549 20:10 น. |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ | 11 ตุลาคม 2549 17:25 น. |
เห็นใบปิดประกาศที่ท่อนล่างเป็นโฆษณาเหล้าเทศ และท่อนบนมีข้อความว่า "การดื่มสุราผิดศีลข้อ 5" แล้วให้รู้สึกรันทด และเจ็บปวดเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง ดูเผินๆแล้ว เป็นคำเตือนที่ดี แต่.. ต่างชาติกำลังทำให้คนไทยเห็นดีเห็นงามกับการดื่ม เคยชิน และรู้สึกเฉยๆกับการผิดศีล ผลประโยชน์และเม็ดเงินมหาศาล คือที่มาของความชอบธรรมที่ไม่ถูกศีลธรรม
จะเป็นการดีเหลือเกิน หากจะมีการจัดการกับเรื่องเหล่านี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ขอขอบคุณในทุกๆความรับผิดชอบที่มีร่วมกันต่อสังคม