เมื่อครั้งผมบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาสิ่งหนึ่งที่ได้ทำคือการร้องทำนองแหล่ทางภาคกลางครับ...ผมฝึกร้องแหล่ส่วนมากอยู่ในโบสถ์...โดยปิดประตูหน้าต่างของโบสถ์...ฮา ๆ เอิก ๆ ขำตัวเอง...ความลับนี้พึ่งจะเปิดเผยที่นี้...
งานประเพณีทำบุญเทศน์มหาชาติ เป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย มักจัดในช่วงเข้าพรรษาประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี ถือเป็นประเพณีของชาวพุทธที่นิยมปฏิบัติกันทั่วทุกภาคในประเทศไทย การเทศน์มหาชาติเป็นการเล่าเรื่องในชาดกต่างๆด้วยทำนองแหล่ ซึ่งชาวไทยเชื่อกันว่า การได้ฟังเทศน์มหาชาติจบในวันเดียวมีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ทำให้ผู้นั้นเสวยสุขในสวรรค์หรือทันยุคพระศรีอาริยเมตไตรย
ต้นเหตุของเรื่องการเทศน์มหาชาติมาจากครั้งที่พระพุทธเจ้าพร้อมพระสาวกประมาณสองหมื่นรูปเดินทางกลับไปเมืองกบิลพัสดุ์ แล้วได้ประทับอยู่ที่วัดนิโครธาราม ในวันนี้เองได้เกิดฝนโบกขรพรรษตกประจักษ์แก่สายตาทุกคน บรรดาญาติจึงตรัสถามพระองค์ในเรื่องนี้พระพุทธเจ้าจึงยกเรื่องมหาเวสสันดรมาตรัสอธิบายดังปรากฎเป็นหลักฐานในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามีหนึ่งพันพระคาถา มีทั้งหมด 13 กัณฑ์ ในแต่ละกัณฑ์ มีทำนองไม่ซ้ำกันเลย และมีครบทั้งเก้ารสซึ่งเป็นอรรถรสทางภาษา ประกอบด้วย
1. กัณฑ์ทศพร เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระอินทร์ให้พร 10 ประการแก่นางผุสดี เพื่อจุติลงมาเกิดเป็นพระราชมารดาของพระเวสสันดร
2.กัณฑ์หิมพานต์ เป็นเรื่องพระเวสสันดรพระราชทานช้างเผือกแก่หมู่พราหมณ์ที่มาทูลขอ ทำให้ชาวเมืองของพระองค์ไม่พอใจจึงเนรเทศให้พระองค์ไปอยู่ ณ เขาวงกต
3. กัณฑ์ทานกัณฑ์ เป็นเรื่องพระเวสสันดรให้ทานม้าและราชรถแก่หมู่พราหมณ์ที่ตามมาทูลขออยู่นอกเมืองเชตุดร
4. กัณฑ์วนปเวส เป็นเรื่องสี่กษัตริย์ต้องเดินดงไปสู่เขาวงกต เพื่อบำเพ็ญพรตเป็นฤๅษี
5. กัณฑ์ชูชก เป็นเรื่องของเฒ่าชราตาชูชกพานางอมิตดาเมียสาวอายุยังน้อย ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนที่รับฝากเงินทองไว้แล้วยักยอกเอาไปใช้จนหมดเมื่อตาชูชกมาทวงคืนจึงไม่มี เลยยกลูกสาวให้แทน
6. กัณฑ์จุลพน เป็นเรื่องท่านชูชกยกมือชูกลักพริกขิงเพื่อโกหกนายพรานเจต
บุตรว่าเป็นกล่องใส่พระราชสาสน์ของพระเจ้ากรุงสญชัยเมืองเชตุดร
ยังมีต่อนะครับ...
เพื่อความเย็นตาเย็นใจ...ครับ.
อีกภาพหนึ่งที่มองแล้วเย็นใจ...
รออ่านต่อค่ะ
ท่าน อาจารย์ umi คะ
สงสัยมานานอยู่เรื่องหนึ่ง ขออนุญาตถามได้ไหมคะ ..คือสงสัยว่า ถ้าพระพุทธเจ้าไม่ประสูติที่เนปาล จะใช้เวลาตรัสรู้นานกว่าที่พระองค์ทรงตรัสรู้หรือไม่..ข้อที่หนึ่งค่ะ
เรื่องที่สงสัยมีมูลจูงใจว่า การอยู่ในประเทศที่มี 4 ฤดู นั้นการเข้าใจเรื่องของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป โดยเทียบเคียงกับธรรมชาติมันเห็นชัดน่ะค่ะ ที่จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสี เห็นหิมะขาวโพลน เห็นต้นอ่อนผลิเมือ่ได้รับอากาศอุ่น...คือจะสังเกตว่า คนต่างชาติจากประเทศตะวันตกที่หนาวเย็นจะเข้าใจธรรมะที่พระองค์สอนได้ชัดและเร็วกว่าน่ะค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
สวัสดีครับ คุณปารินุช
ผมไม่แน่ใจว่าทางเหนือเวลามีงานเทศน์มหาชาติ...ใช้เทศน์ทำนองเป็นภาษาถิ่นหรือไม่ครับ...
ขอบคุณครับ
จาก...umi
สวัสดีครับ คุณจันทรรัตน์
สำหรับคำถามของคุณเป็นคำถามที่ดีมากในมุมมองของผมการที่สิทธัตถะกุมารถือกำเนิดที่ สวนลุมพินีวันนั้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น...ฮา ๆ เอิก ๆ
แสดงว่ามีเวลาแน่นอนในการประสูติของพระองค์และต้องไปประสูติตรงนั้น เวลานั้นกับพระราชบิดาและพระราชมารดาพระองค์นั้นด้วย
กรณีชาวตะวันตกเข้าใจธรรมะนั้นผมเห็นด้วยกับคุณในการมองเห็นธรรมชาติแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เขาจึงเข้าใจความเป็นไตรลักษณ์...ครับ
ขอบคุณครับ
จาก...umi
สวัสดีครับ คุณขจิต ฝอยทอง
ผมสบายดี...มีเงินใช้พอสมควร...ไม่ต้องรบกวนยืมเงินเพื่อน ๆใช้...จิตใจร่มเย็นอยู่ในร่มธรรมครับ ฮา ๆ เอิก ๆ
แล้วคุณละครับ...สบายดีอยู่หรือเปล่า...
ขอบคุณครับ
จาก...umi
สวัสดีครับ คุณ nutim
อ้อ...เป็นกัณฑ์กุมาร ครับ เป็นกัณฑ์ที่ 8 ส่วนมากที่เล่นลีลา...ใช้ทำนองแหล่นอก ของกัณฑ์นี้ที่ผมเคยรู้จักพระนักเทศน์คือ พระอาจารย์มานพ กันตะสีโลท่านเป็นชาวสุพรรณ ฯครับ
อดีตเคยอยู่ด้วยกันที่วัดบางเสาธง เขตบางกอกน้อย
กทม. ขณะผมเป็นพระเด็ก ๆและท่านเป็นพระผู้ใหญ่
ตอนนี้ท่านย้ายมาอยู่วัดโพธิ์...ท่าเตียน กทม. และยังรับงานเทศน์มหาชาติกัณฑ์นี้และกัณฑ์อื่น ๆอยู่ครับ
เวลาฟังเทศน์มหาชาติ...บรรดาโยมญาติ...ร้องให้จริงครับ...เหมือนอย่างที่คุณกล่าวถึง...
ขอบคุณครับ
จาก...umi
ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูล