ชื่อ blog นั้นสำคัญไฉน


ทั้งที่ก็รับรู้อยู่ว่าชื่ออะไรไม่สำคัญแต่กระนั้นมันก็ยังมารบกวนเหมือนมีตำแหน่งอะไรครอบอยู่ซักอย่างพาลเกี่ยวพัน เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องที่เขียนซะทุกทีไป

ดิฉันตัดสินใจ เปลี่ยนชื่อ blog จากเดิมชื่อ "เลขานุการผู้ประสานงานเครือข่าย UKM" ที่ใช้มาหนึ่งตั้งแต่เปิดครั้งแรกซึ่งในวันเปิดครั้งแรกนั้นตั้งใจจะเขียนเรื่องเครือข่ายการจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัยเป็นหลัก แล้วมันมีปัญหาอะไรกับชื่อเดิม..ทุกครั้งที่ดิฉันตั้งท่าเขียน มันมีอะไรบางอย่างมาบอกว่าให้เขียนเกี่ยวกับเครือข่ายคือติดอยู่กับชื่อซะทุกทีไปทั้งที่ก็รับรู้อยู่ว่าชื่ออะไรไม่สำคัญแต่กระนั้นมันก็ยังมารบกวนพาลเกี่ยวพัน เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องที่เขียนซะทุกทีไป บางทีคิดว่าชื่ออาจเป็นการกันการอ่านของสมาชิกซะด้วยซ้ำไปเพราะค่อนข้างจำกัดวง  ดิฉันจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Blog "งานพัฒนาบุคลากร" (หวังว่าคงไม่หนัไปกว่าเดิม) มันจะได้ทำให้ดิฉันลดอาการเกร็งในการสื่อสารเรื่องราวเนื้องานที่ทำทุกวันของตัวเอง อันที่จริงแล้วดิฉัน เปิดไว้ 3 blog ด้วยกัน คือ งานพัฒนาบุคลากรเขียนเกี่ยวกับเครือข่ายการจัดการความรู้และงานพัฒนาบุคลากรที่ดิฉันทำ เก็บได้จากการทำงาน สะท้อนมุมมองต่อการทำงานในบางมุมบวกอารมณ์ความรู้สึก และ เมื่อเป็นแม่ เล่าเรื่องเด็กๆ ถ่ายทอดสิ่งที่ดิฉันได้จากการเป็นแม่ลูกสองที่ต้องดูแลในมุมมองของแม่อย่างดิฉันส่วนใหญ่มักเขียนใน blog งานพัฒนาบุคลากร blog อื่นๆ เรื่องจะมาตามแรงบันดาลใจ  เลือกทัศนาตามใจชอบนะคะ ขอพลังแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จงสถิตย์อยู่กับทุกท่านตลอดไป(ประโยคนี้ขอยืมคุณปภังกรมาค่ะ)

หมายเลขบันทึก: 54169เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2006 12:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม 2012 18:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

แม้จะยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อบล็อก ก็รับรู้ว่าคุณเมตตาสื่อสารจากตัวตนจริงๆได้แล้วค่ะในบันทึกช่วงหลังๆ ต่างจาก 2-3 บันทึกแรกๆที่ดูเป็นทางการมากๆ 

ชอบชื่อบล็อกชื่อใหม่นี้ค่ะ ชวนติดตามดีนะคะ  

ขอบคุณ คุณโอ๋ค่ะ ยินดีที่รู้ว่าเรามีพัฒนาการขึ้นจากเดิม พัฒนาการการเขียนเนี่ยคุณเมตตา สังเกตเห็นว่ามันมีปัจจัยผันแปรตาม ความตั้งใจ หากตั้งใจมากจะเขียนได้ไม่ค่อยดี คุณโอ๋ว่าจริงมั๊ยคะ  มันต้องอิสระจากความตั้งใจด้วยเหมือนกัน แบบว่าเขียนเพราะต้องเขียนกับเขียนเพราะควรเขียน เนี่ยมันต่างกันมากค่ะ
  • ตอนเริ่มเขียนครั้งแรกผมสนใจการตั้งชื่อ Blog แต่ตอนหลังไม่ค่อยสนใจ
  • สนใจผู้เป็นเจ้าของ blog มากกว่า
  • เขียนบ่อยเข้า ผู้เขียนจะเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เหมือนอ.หมอวิจารณ์พูดถึงการปลอกหัวหอมครับ
คุณบอย พี่มองว่ามันมีมุมที่ต่างนะคะ พี่จะติดตามจากลักษณะงาน และรวมใน planet ที่ลักษณะงานใกล้ๆ กันมารวมไว้ใน planet เดียวกัน  สำหรับการติดตามอ่านตามชื่อเจ้าของ blog เนี่ย ก็มีบ้างไม่มากเท่าแบบแรก คือไม่ว่าเธอจะเขียนเรื่องอะไรก็ขอติดตามอ่านทุกชาติ ทุกชาติไป เช่นของคุณบอยเป็นต้น  ฝากคิดถึงน้องโอ มาทางนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ขอขอบคุณอาจารย์เมตตา...                         

  • ขอขอบคุณข้อคิดจากอาจารย์ และท่านผู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทุกท่าน...

เรื่องชื่อบล็อกนี่... ถ้าสั้นหน่อยน่าจะดีครับ >

  • สังเกตจากชื่อการค้า (brand name) ที่ใช้ในไทยมักจะตั้งชื่อไม่เกิน 3 พยางค์ เนื่องจากคนไทยชอบคำสั้นๆ + โดนใจ + จำง่าย

ตัวอย่างเช่น โคคาโคล่า > พอมาไทยจำยาก คนไทยมักจะเรียก "โคล่า" > ต่อมาบริษัทเขาเปลี่ยนชื่อเป็น "โค้ก" ให้คนไทยจำง่าย

  • ที่ยกโคล่ามาเป็นตัวอย่าง > ไม่ได้สนับสนุนให้กินน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลสูง มีกรดฟอสฟอรัสที่ทำให้สูญเสียแคลเซียม(เวลาขับออกทางไต)

ถ้าคนเขียนบล็อกมีบุญ เก่ง หรือเป็นครูบาอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ ลูกหาเข้ามาชมมากๆ > จะตั้งชื่ออะไรก็คงดีไปหมด...

  • อย่างไรก็ตาม... การตั้งชื่อ > ท่านว่า มีชัยไปแทบจะครึ่งหนึ่งก็ว่าได้...

แวะมาหลังมื้อกลางวันคะ...พี่จิ๊บ...

สิ่งสำคัญ...คือ ตัวตนเราที่ถ่ายทอดออกมา..

ไม่ว่าจะเป็น ชื่ออะไร...กะปุ๋มก็ติดตามอ่านเช่นเดิมคะ

(*^__^*)

กะปุ๋ม

 

  • ไม่ได้เปลี่ยนแค่ชื่อนะเนี่ย
  • รูปก็เปลี่ยนด้วย
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท