อาทิตย์ที่แล้วไปฟังบรรยายโดย Prof. Michael Bliss เรื่อง
"Osler to Cushing , Medical Exellence and Humanism".
Prof. Bliss บรรยาย 1 ชม. เต็ม ใช้ powerpoint แต่ไม่มีใครหลับเลย
อ. เล่าประวัติชีวิตของคุณหมอคนสำคัญทั้งสองเหมือนเล่านิทาน ประกอบกับslideรูปขาวดำถ่ายเมื่อราวๆปี 1800 ปลายๆ 1900 ต้นๆ หลายสิบรูป มีตลกแทรกเป็นระยะ
ไม่ใช่สิ มันเหมือนอารมณ์ ดูข่าวบันเทิงซะด้วยซ้ำ สนุกที่ได้ฟังจริงๆ
ในใจคิดว่า คนเรานี่มันสนใจเรื่องของชาวบ้านจริงๆนะเนี่ยะ
แต่ถ้าเราเอานิสัย อยากรู้อยากเห็น ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ มาทำให้เป็นประโยชน์ซะก็ไม่เลวเลยทีเดียว
สอนเรื่องมนุษยธรรมโดยใช้ประวัติชีวิตของ role model มาสื่อ ได้ผลดีทีเดียว
โดยสรุปคือคุณหมอ Cushing เนี่ยะ เก่งมากๆในการผ่าตัดสมอง มีทักษะและพรสวรรค์ในการใช้มือจริงๆ เพราะวาดรูปก็เก่ง ท่านวาดรูปใส่ในตำราสอนการผ่าตัดเองทุกรูป แต่สิ่งที่ทำให้คุณหมอเป็นหมอที่ดังมากแทบจะที่สุดในอเมริกาก็คือ "ครู" .... คือ คุณหมอ Osler นั่นเอง
Osler สอนเรื่องความเป็นหมอที่มากไปกว่า การรักษาทางคลินิก สอนเรื่องการสร้างสมดุลระหว่าง medical exellence and humanism
(สังเกตว่าวันนี้อ. ใช้คำว่า humanism ไม่ใช่ ethics ซึ่งเราว่าเหมาะสมมาก)
คำถาม: ถ้าเราจะกลับมาสอน นร. ไทย เรา
เราจะให้ใครเป็น role model ดี?
Osler : His most famous work, 'The Principles and Practice of Medicine' quickly became a bible to students and clinicians alike.
Cushingที่มาของ Cushing disease, เจ้าพ่อ Neurosurgean etc
เพิ่งมาเห็น อ่านละเอียด ต้องขอบคุณมาก
คำถาม: ถ้าเราจะกลับมาสอน นร. ไทย เรา
เราจะให้ใครเป็น role model ดี?
สมเด็จพระราชบิดา,Professorที่ศิริราชหลายท่าน ฯลฯ
ถ้าใกล้ ๆ G2K..อ.วิจารณ์ พานิช
Cardiomed..อ.ธาดา ยิบอินซอย
Hematomed..อ.ประเวศ วะสี
But in Dentistry...แหะ แหะ..ต้องลองถามท่านผู้รู้ ;P
นั่นหน่ะสิคะ : P