...ปริม ทัดบุปผา.. อาจารย์ ดร.ปริม หรือ คุณปริม ของหลายๆคน เป็นอีกท่านหนึ่งที่ผู้เขียนต้องใช้คำว่าขออนุญาตถอดบทเรียนบันทึกของท่าน "ด้วยความนอบน้อม"เหมือนคำลงท้ายทุกๆบันทึกของท่าน...
บันทึกที่คุณปริมเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นของขวัญสำหรับวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา มีว่า...
"เด็กชายคนหนึ่งมีเพื่อนบ้านเป็นชายแก่ที่คุยกันถูกคอ วันหนึ่งเขาคุยกันเรื่อง The Present (คำว่า The Present มีสองความหมายคือของขวัญและปัจจุบันขณะ) ชายแก่บอกเด็กชายว่า "ที่ใครๆ เรียกกันว่า The Present ก็เพราะมันเป็นของขวัญที่เราจะได้รับ และเราจะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด เพราะเมื่อเราได้รับของขวัญชิ้นนี้เราจะมีความสุข ..."
"ชายแก่ชอบมองเด็กชายเล่นในแถบบ้าน เด็กชายยิ้มแย้มอย่างมีความสุขเวลาเล่นและดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจอะไรนอกจากการเล่นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า..."
"เด็กชายได้รับของขวัญหลายต่อหลายชิ้นเช่นรถจักรยานเป็นของขวัญวันเกิด หรือของขวัญทุกวันคริสต์มาส แต่เด็กชายก็รู้ดีว่าความสุขที่ได้รับจากของขวัญเหล่านั้นไม่ยั่งยืน แล้ว The Present ที่ชายแก่พูดมันคืออะไร ...เขาเก็บความสงสัยไว้เรื่อยมา"
และข้อความต่อไปนี้คือสิ่งที่ชายหนุ่มพยายามตามหา
...The Present คือสิ่งที่จะทำให้เขาร่ำรวยใช่หรือเปล่า...
... ขณะทำงานเขาก็พร่ำคิดว่าจะมีงานที่อื่นอีกไหมที่จะทำให้เขามีความสุขยิ่งกว่า...
... หรือไม่ก็คิดในสิ่งที่เขาจะทำเมื่อกลับถึงบ้าน...
... เขาเหม่อลอยในที่ประชุมบ่อยๆ...
... แม้ในยามทานอาหารเขาก็ไม่อาจรู้รสชาติของอาหารได้ ...
ในเรื่องเล่าของคุณปริมบอกว่า ชายหนุ่มกลับไปหาชายแก่หลายต่อหลายครั้ง เพื่อถามถึงความหมายของคำว่า Present...
....................
ผู้เขียนขอจบเรื่องเล่าของคุณปริมเพียงเท่านี้ เรามาช่วยตามหาคำว่าPresent ไปพร้อมๆกับชายหนุ่มคนนี้กันเถอะ บางทีคุณอาจจะตีความหมายของคำๆนี้ได้หลายมุมมองที่แตกต่างกันไป....
ในบันทึกแห่งปัจจุบันขณะนี้ :The Present....ของขวัญแห่งปัจจุบันกาล http://www.gotoknow.org/posts/514414
...............................
อีกบันทึกหนึ่งของคุณปริมที่ผู้เขียนจะกล่าวถึงคือ "ณ...ทุ่งหญ้ากลางหน้าหนาว" http://www.gotoknow.org/posts/510510
คุณปริมนำเรื่องเล่านี้มาให้ผู้อ่านเมื่ออ่านจบแล้ว รุ้สึกหนาวเหน็บจนแทบจะอ่านไม่จบ....
" ในยามที่อากาศยังหนาวเย็นในต้นเดือนฤดูใบไม้ผลิของเดือนมีนาคม สำหรับครอบครัวของเรานั่นคือการใช้เวลาที่มีความสุขร่วมกัน ...
...ในขณะที่กำลังยืนเข้าคิวสั่งอาหาร ฉันเริ่มสังเกตว่าคนอื่นๆ เริ่มถอยร่นไป ...
เมื่อหันไปฉันจึงได้กลิ่นตัวที่ค่อนข้างแรงของชายพเนจรสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังฉัน เมื่อฉันมองไปที่ชายตัวเตี้ยคนที่อยู่ถัดจากฉัน เขายิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ...
...ดวงตาสีฟ้าอันสวยงามเปล่งปลั่งไปด้วยแสงของพระเจ้าที่กำลังรอการตอบรับ เขากล่าวทักทายฉันในขณะที่นิ้วมือยังถูเหรียญในมือไปมา...
...ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังชายคนนั้นปัดมือไปมาสะเปะสะปะ ฉันจึงสังเกตได้ว่าชายคนนั้นมีสุขภาพจิตไม่สมบูรณ์และชายตาสีฟ้าคือที่พึ่งของเขา ...
...ฉันกลั้นน้ำตาเมื่อเห็นสภาพนั้น เมื่อพนักงานขายถามว่าเขาต้องการรับอะไร ชายคนนั้นตอบอย่างสุภาพว่า "กาแฟถ้วยเดียวครับน้อง" ...
...เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่เขามีเงินพอจ่ายได้ (หากต้องการนั่งในร้านที่อบอุ่น เขาต้องสั่งอะไรสักอย่างจึงจะนั่งในร้านได้ เขาเพียงอยากอยู่ในที่ที่อบอุ่น)...
อ่านมาถึงตรงนี้ผู้เขียนรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกที่คอและ เหมือนมีอะไรทำให้ตารู้สึกแสบๆ...
แต่คุณปริมยังเขียนต่อว่า...
"ฉันรู้สึกถึงแรงผลักดันภายในจนเกือบจะเอื้อมแขนไปโอบใหล่ชายตัวเตี้ยคนนั้นไว้ แต่ฉันก็รู้สึกถึงสายตาของผู้คนในร้านที่มองมา ฉันทำได้เพียงยิ้มและขอให้พนักงานสาวที่เค้าน์เตอร์จัดอาหารเช้าเพิ่มให้ฉันอีกสองชุด...
...ฉันถือถาดอาหารเดินไปยังโต๊ะที่ชายสองคนนั้นนั่งพัก วางอาหารไว้บนโต๊ะและเอื้อมมือไปจับมืออันเย็นเฉียบของชายตาสีฟ้า
...เขาเหลือบตาขึ้นมามองฉันด้วยน้ำตาพร้อมกล่าวว่า "ขอบคุณมาก"
... ฉันลูบมือเขาเบาๆ และกล่าวว่า
"ฉันไม่ได้ทำเพื่อคุณหรอกนะ พระเจ้าอยู่ที่นี่และสั่งให้ฉันมาให้กำลังใจและความหวังกับคุณ"
งดงามมากจนผู้เขียนขอหยุดไว้เพียงเท่านี้ก่อน หากจะเล่าต่ออาจจะใช้เวลามากเกินไปสำหรับเรื่องที่อ่านใกล้จะจบแล้วนี้
คงไม่สายเกินไปหรอก หากคุณจะย้อนกลับไปอ่านอีกครั้ง และอีกครั้ง....
.......................
ขอบคุณ คุณปริม ที่กัลยาณมิตรทุกท่านยังรออ่านบันทึกดีๆอยู่
ขอบคุณการถอดบทเรียนที่ทำให้ผุ้เขียนได้พบกับความสุขที่วิเศษ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้
......................
ในมืดค่ำที่อากาศเย็นสบายและมีความสุข
25 มิถุนายน 2556
พ.แจ่มจำรัส
ชอบอ่านเรื่องคุณปริมเหมือนกันค่ะ
อาจารย์ปริม เป็นนักเล่าเรื่องที่เข้าถึงใจคนครับ ;)...
คิดถึงคุณปริมค่ะ;)
ขอบคุณทุกดอกไม้กำลังใจและความเห็นครับ
แก้ว..อุบล ชอบอ่านเรื่องคุณปริมเหมือนกันค่ะ
Wasawat Deemarn อาจารย์ปริม เป็นนักเล่าเรื่องที่เข้าถึงใจคนครับ ;)...
น้อย น้ำพอง คิดถึงคุณปริมค่ะ;)
อาจารย์ปริม ครับ หลายคนคิดถึงและรอคอยอ่านบันทึกอยู่นะครับ...
ชอบอ่านเหมือนกันค่ะ ^__^
...มีความสุขที่ได้อ่านมาก...ขอบคุณค่ะ
คุณปริมน่ารัก และเขียนบันทึกน่ารัก ๆ น่าอ่านน่าติดตามจ้ะ
เป็นนักเขียนในด่วงใจค่ะ แต่พักหลังท่านคงยุ่งนะคะ
ไม่เห็นบันทึกใหม่ๆ นานแล้ว แต่เอ .หรือเราเองตกข่าว....ค่ะ
บันทึกที่กินใจยิ่งของคุณปริม
บันทึกที่เขียน(และปฏิบัติ)จากหัวใจที่...เปี่ยมไปด้วยความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข...
ถอดบทเรียน โดยคุณพิชัย ช่าง...เข้มข้น แต่กลมกล่อมละมุนไมซึ้งใจยิ่ง อ่านดีจริงๆค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ
หนูปริมจะเขียนบันทึก 2 ลักษณะ คือ 1) ข้อคิดจากเรื่องที่ได้อ่าน และ 2) ธรรมชาติรอบตัว ไอดินฯ ชอบอ่านทั้ง 2 ประเภท สำหรับประเภทหลัง ไอดินฯ ได้ขออนุญาตเธอนำภาพนกที่เธอถ่ายไปรวบรวมไว้เพื่ศึกษา