Happy Ba....ถอดบันทึก 4 บล็อกเกอร์ (3)


  การถอดบทเรียนจากบันทึกของหลายๆท่าน ทำให้ผู้เขียนมีความรู้สึกเข้าถึงบล็อกเกอร์มากยิ่งขึ้น ได้เห็นความสว่างใสในตัวอักษร ที่ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งส่องประกายออกมา จนแลเห็นคุณค่าในบันทึกนั้นๆ และแอบเก็บความสุขเอาไว้ในดวงใจ ก่อนจะแปลออกมาเป็นสื่อความหมายบันทึกเหล่านั้น ตามแบบฉบับของตน

   9. วันนี้มาเริ่มถอดบันทึกของบล็อกเกอร์ท่านหนึ่ง ที่สามารถเขียนบันทึกได้หลากหลาย และมีแง่มุมมองที่พิเศษมาก ลองตามไปอ่านบันทึกของเธอกันนะคะ เรื่อง ดอกหญ้า ของคุณชลัญธร http://www.gotoknow.org/posts/506985

     ถ้าจะเอาดอกหญ้ากลางทุงกว้าง มาเปรียบกับดอกไม้ในแจกันกันแล้ว รับรองว่าดอกหญ้าทั้งท้องทุ่ง ก็รวบรวมสีสรร และความงดงามมาเทียบกับดอกไม้ในแจกันไม่ได้ ดอกหญ้าไม่ได้มีกลีบที่นุ่มนวล ซ้อนสลับงามตา ดอกหญ้าจะมีแค่สีพื้นๆ ที่มองแล้วดารดาษเป็นพรืดไปเท่านั้น ถ้าแทนใจได้ ดอกหญ้าคงน้อยเนื้อต่ำใจมากมาย มองเห็นความสูงต่ำระดับชั้น ที่มีดอกหญ้าเป็นชั้นต่ำสุดเสมอ หากจะได้ขึ้นแจกัน ดอกหญ้าก็คงทำให้แจกันสวยหมองลงไปอีก เช่นนี้ ดอกหญ้าก็ควรอยู่ติดดินเป็นที่เหมาะสมแล้ว

   แต่ใครจะเข้าใจว่าดอกไม้สวยในแจกันนั้น ช่างอ่อนแอ มีความสดชื่นอยู่ได้กับน้ำที่เขาเติมลงไปในแจกัน เขาหลงลืมเมื่อใด ก็เหี่ยวเฉาโรยรา บางครั้งดอกไม้สวยเหล่านี้ ต้องถูกหมู่แมลงมาคอยกัดกิน ย่ำยี ให้หมดสวยได้ภายในพริบตา จึงเป็นเหมือนเป้านิ่ง ที่รอการโจมตี หนีไม่พ้น

 ผิดกับดอกหญ้าผู้ทรหด ในวันที่แห้งแล้ง ก็ปรับตัวปรับใจ ให้มีชีวิตรอดไปได้ แม้ใครจะถากถาง แต่หญ้าก็พร้อมจะกลับคืนมาใหม่ เพียงแค่สายฝนที่ลงมา หญ้ายังเป็นประโยชน์คลุมดิน อุ้มน้ำได้สารพัด เช่นนี้ ดอกหญ้าจึงน่าภาคภูมิใจ เสียยิ่งกว่าการได้ขึ้นแจกันเป็นไหนๆ

 ผู้เขียนอ่านบันทึกของคุณชลัญธร ได้ใจความมาแบบนี้ และเมื่ออ่านจบ ก็นึกอยากจะเป็นดอกหญ้า อยากแข็งแกร่งทรหด พอใจกับดอกที่ไร้สีสัน เพราะจะได้ไม่ต้องถูกตัดไปเสียบแจกันชั่วคราว แล้วเขาก็ปล่อยให้เฉาตาย เมื่อหมดงาม ขอบคุณบันทึกดอกหญ้า ของคุณชลัญธร ที่ช่วยขจัดความรู้สึกตกต่ำให้กับดอกหญ้าทั่วแผ่นดินค่ะ

.........................................................................................

10. ไปพบกับบันทึกสำคัญของเจ้าของ ชื่อ ความรักของพ่อ ของคุณTuknarak  ที่

http://www.gotoknow.org/posts/511126

 ใครหลายคนอาจมีความทรงจำที่เกี่ยวกับคุณพ่ออย่างลางเลือน จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่สำหรับคุณTuknarak ความทรงจำเรื่องพ่อของเธอแจ่มชัดมากค่ะ เธอเล่าถึงพ่อให้เราฟัง เหมือนเด็กน้อยที่ปลื้มใจกับการได้ของขวัญที่มีค่าสูงสุดในชีวิต

 " พ่อ เป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกตั้งแต่ได้เกิดมา ท่านดูแล เอาใจใส่ และทำหน้าที่ของผู้ที่เรียกตนเองว่าพ่อได้อย่างดีเยี่ยม พ่อจบแค่ ป.4 แต่ความรู้ของท่านยิ่งกว่านักปรัชญา "

 คุณพ่อของคุณTuknarak เป็นชาวนา เป็นช่างไม้ เป็นช่างตัดผม(ให้ลูก) เป็นช่างเย็บเสื้อผ้า (ตัดเสื้อผ้าให้ลูก)" พ่อเป็นช่างไม่ได้เรียนสารพัด แต่ไม่ว่าอุปกรณ์เครื่องใช้อะไรที่บ้านจะชำรุด พ่อซ่อมได้เสมอ "

  พ่อเป็นนักคิด นักลงมือทำ การกระทำของพ่อดังกว่าเสียง เพราะมันสามารถสะท้อนเป็นภาพออกมา จนลูกๆทำตามได้ทุกอย่าง พ่อใจเย็นไม่เคยทะเลาะกับคนครอบครัวแม้สักครั้งเดียว เวลาแห่งความสุขที่พ่อเอ่ยปากว่านี่แหละสวรรค์ คือการได้เห็นสมาชิกในครอบครัวนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน ก่อนนอนพ่อยังมีนิทานคุณธรรม มาเล่าให้ลูกฟัง และหลับฝันดี และตื่นขึ้นมาเป็นคนดีของสังคมประเทศชาติต่อไป

    คุณTuknarak เล่าเรื่องพ่อราวกับฉายภาพยนตร์ยอดฮิตให้เราชม  จนอยากชมอีก อยากให้นำมาฉายอีก ประทับใจและบังเกิดความอบอุ่นเสมือนได้เข้าไปอยู่กับครอบครัวของเธอด้วย ขอบคุณที่แบ่งปันความสุขที่ไม่ขาดหายของคุณTuknarak มากๆนะคะ

.........................................................................................................................................

11. บทนิยามของคนแก่ ของพี่ นาง นงนาท ยกเลขหนึ่งให้พี่สำหรับบันทึกนี้นะคะ

http://www.gotoknow.org/posts/236896

   มองภาพพี่ใหญ่ นงนาท ครั้งใด นึกรัก อยากกอดทุกที พอได้มีโอกาสถอดความสุขจากบันทึกนี้ จึงได้รู้เคล็ดลับของคุณพี่ใหญ่ของเรา โอ้ความแก่ที่น่ายินดีค่ะ

  คนแก่ เป็นคำแสลงใจ ที่ไม่อยากให้ใครมาลงความเห็นโดยไม่ขออนุญาต แต่ความจริงแล้วมันคือธรรมชาติ หรือทรัพย์ทางกายที่เราต้องได้มา และไม่มีใครอยากแย่งชิง ความแก่ที่เราเห็นในกระจกเงา สามารถสะกดใจเราให้หยุดพิจารณาตนเองได้ ลองประเมินตนเองว่ามีความแก่อยู่ในแดนบวก คือ แก่ใจดี มีเมตตา แข็งแรง กระฉับกระเฉง มีกิเลสที่บางเบา จนจะสลายกลายเป็นใฝ่บุญกุศลไป หรือเรากำลังเห็นคนแก่ในกระจกในแดนลบ ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ เพียงเห็นความอึดอัด แววตาที่ฉายความโลภ โกรธ หลงอยู่เต็มเปี่ยม ดังนี้ เราจะเกิดความรู้สึกและตัดสืนใจได้เอง ว่าจะก้าวเดินบนทางชีวิตที่เหลือไปในแดนไหน

  สำหรับความแก่ ที่พี่ใหญ่บอกว่าได้เดินทางก้าวล่วงมาระยะหนึ่งแล้ว แต่พี่กลับมีพลังใจที่ออกเดินนอกเส้นทางโดยสิ้นเชิง เพราะทุกวันนี้ พี่ใหญ่ เป็นทั้งนักสังคมสงเคราะห์ ทำงานมูลนิธิทรัพย์สินส่วนพระองค์ เป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พี่พร้อมที่จะออกไปบำเพ็ญประโยชน์ในสังคม และที่พิเศษยิ่งคือ พี่ใหญ่ทำงานเหล่านี้ทุกวัน โดยไม่รับค่าตอบแทน ทำให้เกิดอิสระภาพทางใจ และเบิกบานอยู่เสมอ ขอแสดงความนับถือในความเป็นผู้ให้ด้วยใจจริง

   หนูอ่านบันทึกของพี่จบแล้ว กลับไปมองรูปพี่อีกครั้ง ที่มีตั้งแต่วัยต่างๆจนถึงปัจจุบัน อยากบอกว่า พี่มีดวงตาที่อ่อนโยน ใจดี เสมอมา และประทับใจหนูมากค่ะ

    ขอเก็บความสุขมาเล่าให้ทุกๆท่านฟังอย่างย่อ โดยหวังว่าเมื่อได้อ่านฉบับเต็ม ทุกท่านก็คงมีความสุขเหมือนผู้เขียนเช่นกัน

ขอบคุณพี่นาง นงนาท เป็นอย่างยิ่งค่ะ

.....................................................................................................

12. บันทึกที่ 12 เป็นบันทึกปิดท้ายสำหรับวันนี้ ชือ่ ไข่ป่ามอาหารยามหนาว ที่

http://www.gotoknow.org/posts/319368

โอ้ จะไม่ให้เลือกบันทึกนี้ได้อย่างไร ก็ผู้เขียนไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ไข่ป่าม? แต่ต้องขอบคุณคุณKrutoom ที่บรรยายจนเข้าใจ สามารถทำตามได้อย่างสบายๆ

เครื่องปรุง  ไข่ไก่  3  ฟอง  ซ๊อสแม็กกี้  ซีอิ้วขาว  พริกไทยป่น  ต้นหอมซอย พริกหยวกแดง (ถ้าชอบอะไรก็ใส่ไป เช่น ปูอัดไส้กรอก)

วิธีทำ  เตรียมกระทงใบตอง ฉีกใบตองกว้าง 3 นิ้ว ยาวตามความยาวใบตอง นำมาตัดปลายแหลม (ทำรวบรัดก็พับใบตองได้ 2 ชั้นเลยค่ะ) ซ้อนกัน 2 ชั้น เอาด้านเขียวออก นำมาพับมุมให้เป็นกระทงตั้งได้ ใช้แม็กเย็บแทนไม้กลัด(สมัยใหม่)

   ลักษณธของการทำไข่ป่ามให้สุกนั้น ให้นำเครื่องปรุงทั้งหมด ใส่ในกระทงใบตอง ที่กลัดเป็นรูปเรือน้อยๆ นำไปปิ้งไฟจนสุก คุณครูตูมบอกว่า เป็นอาหารหน้าหนาว เพราะขณะปิ้งก็จะได้รับไออุ่นจากไฟ ทำให้คลายหนาวไปด้วย การได้กินอาหารร้อนๆด้วย ก็คงทำให้ฤดูหนาวนั้น อบอุ่นขึ้นมาทันที

    ชอบการสืบสานการทำอาหารพื้นบ้านของคุณครูค่ะ ชวนเด็กหัดทำด้วย แต่ค้างคาใจอยู่นิดหนึ่ง ป่าม แปลว่าอะไรหนอ จึงไปค้นหามาพบว่า

ป่ามเป็นภาษาพื้นเมืองภาคเหนือแปลว่า ปิ้ง ค่ะ

ขอบคุณบันทึกไข่ป่ามนะคะคุณKrutoom.






หมายเลขบันทึก: 539469เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 00:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2013 09:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

ถอดบทเรียนได้ตรงมากค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่รุ่ง 


ถอดได้เก่งมากๆค่ะ อ่านแล้วเพลินได้ความรู้เพิ่ม สุดยอดจริงๆ พี่สาวฉัน 

เยี่ยมเลยค่ะพี่รุ่ง

อ่านแบบสรุปเข้าใจง่าย เห็นภาพเลย

มีความสุขไปด้วย

เยี่ยมยอดค่ะ ซึ้งด้วยค่ะ

ขอบคุณพี่รุ่งค่ะถอดบทเรียนได้แบบนำไปใช้ได้เลยค่ะ

ชื่นชม ชมชื่นตามเพลินเลยค่ะ

พี่ศิลาบอกว่าคุณรุ่งได้ชื่นชอบมีความสุขกับบันทึกการทำไข่ป่ามยามหนาวของน้องก้านตอง  ขอบคุณที่เพิ่มเติมความหมาย " ป่าม" ค่ะ ปิ้งที่มีภาชนะรองรับอีกครั้งก่อนโดยไม่ถูกเปลวไฟค่ะ 


ยินดีที่เห็นประโยชน์จากประสบการณ์ของพี่ใหญ่ค่ะ....ขอบคุณสำหรับบทเรียนแห่งความสุขจากน้องๆ blogger ทุกคนด้วยค่ะ


สวัสดีค่ะคุณkunrapee

 ช่วยยืนยันอย่างนี้

ค่อยมั่นใจหน่อยค่ะ

ถ้าผิดเพี้ยนไปจากวัตถุประสงค์ของเจ้าของบันทึก

โปรดทักท้วงได้นะคะ

 ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณpa_daeng

  ติดตามอ่านตลอดเลยนะคะ

บันทึกของทุกคนมีความพิเศษเฉพาะตัว

อ่านกันไม่เบื่อ

ช่วงนี้ขอถอดบทเรียนอย่างเดียวเลยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณกระติก~natachoei ที่ ~natadee

  ขอบคุณค่ะ

ต้นเรื่องเขาเขียนเนื้อหาสาระไว้ดี

พี่แค่ถอดบันทึกออกมาค่ะ

มีความสุขกับการอ่านนะคะ

สวัสดีค่ะคุณSila Phu-Chaya

  หลายๆบันทึกอ่านไปแล้ว

แต่มาอ่านวันนี้อีกกลับทำให้ลึกซึ้งไปกว่าเดิม

กิจกรรมนี้ช่วยพัฒนาทักษะการอ่านเอาเรื่องอย่างมากเลยค่ะ

ขอบคุรมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณชลัญธร

 บันทึกคุณชลัญธรเยี่ยมเลยค่ะ

เขียนได้ใจความมาก

เข้าใจง่ายและมีความหมาย

เปรียบเทียบจนอยากเป็นดอกหญ้าเสียมากกว่าค่ะ

สวัสดีค่ะคุณTawandin

ตามเชียร์อย่างนี้

บล็อกเกอร์ทั้งหลายคงชื่นใจเช่นกันค่ะ

ขอบคุณมาก

สวัสดีค่ะคุณkrutoom

 แค่เห็นกระทงเรือน้อยอยู่บนกระทะก็นึกถึงกลิ่นหอมๆของไข่ป่ามไปด้วย

อร่อยมาเลยใข่ไหมคะ

สวัสดีค่ะคุณนาง นงนาท สนธิสุวรรณ

 บันทึกง่ายๆแต่อ่านเพลินของพี่ใหญ่

ใครๆก็ชอบ

ประสบการณ์สำคัญแต่ที่สำคัญกว่าคือการนำมาแบ่งปัน

มีความสุขทุกช่งชีวิตนะคะพี่ใหญ่ที่ไม่แก่เลย

สวัสดีค่ะคุณTuknarak

  เรื่องความรักของพ่อประทับใจมาก

และชื่นชมครอบครัวที่ค้นหาความสุขร่วมกันได้ตลอดไป

ค่ะแต่ละบันทึกให้สิ่งดีๆ ประทับใจ ฯลฯ อ่านแล้วได้ความสุขนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท