ผมได้พยายามร้อยเรียงเรื่องของการบริหารองค์การยุคใหม่ที่ต้องตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการโดยต้องพยายามเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่เหมาะสมในการทำงาน
ผมได้รับเชิญไปบรรยายในเรื่องการดำเนินงานหรือการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์
ของเขตตรวจราชการที่
2
ให้แก่ทีมงานตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ
5
จังหวัดในเขต เมื่อวันที่
6 และ
13 ตุลาคมที่ผ่านมาที่โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก
ด้วยความเชื่อมั่นของผู้เชิญว่าผมน่าจะพูดได้
พอรับคำเชิญมาแล้วก็เครียดอยู่เหมือนกันว่าจะพูดให้ผู้เข้าประชุมรู้เรื่องได้แค่ไหนในเวลา
4 ชั่วโมง
ผมใช้เวลาเตรียมรายละเอียดหรือ
Cause
outlineอยู่ประมาณเกือบเดือน
ต้องมานั่งวิเคราะห์ว่าเนื้อหาควรจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
ถือเป็นงานบรรยายที่หนักอีกงานหนึ่งสำหรับผู้บรรยายที่ไม่ได้เป็นมืออาชีพอย่างผม
ยิ่งถ้าบรรยายวิชาการแล้วยิ่งไม่ค่อยถนัด
แต่ถ้าเล่าประสบการณ์ที่ทำแล้วจะถนัดกว่า
ในที่สุดก็เลยตัดสินใจทำเนื้อหาตามแนวทางที่เราทำจริงในโรงพยาบาลบ้านตาก
เพื่อให้เราพูดได้ง่ายขึ้น
ไม่เกร็งหรือวิตกกังวลมากโดยได้กำหนดเนื้อหาออกเป็น
5 ส่วน คือการบริหารองค์การ
การบริหารแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ การวางแผนกลยุทธ์
Balance scorecard
และสรุปประเด็นในการนำไปใช้
พอได้หัวข้อหลักแล้วก็ใส่รายละเอียดหัวข้อย่อยลงไปได้ง่ายขึ้น
- การบริหารองค์การ :
รูปแบบองค์กร,องค์กรคุณภาพ, ความอยู่รอด,วุฒิภาวะ,การบริหารองค์กรสู่ความเป็นเลิศ
- การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ :
การบริหาร, ผู้บริหาร,
ความคิดสร้างสรรค์,แนวคิดRBM
- การวางแผนกลยุทธ์ : ความหมาย, ทิศทางกลยุทธ์,การวิเคราะห์สถานการณ์,
การสร้างกลยุทธ์,
การนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ,
การประเมินติดตามทบทวนกลยุทธ์
-
Balance scorecard : แนวคิดBSC,กำหนดทิศทางองค์กร,
การทำแผนที่กลยุทธ์,การทำผังกลยุทธ์ย่อย,การกำหนดตัวชี้วัด,
การจัดทำงบประมาณแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์
- สรุปและซักถาม :
การบูรณาการวางแผนงานสู่ผลสัมฤทธิ์,
การบูรณาการเครื่องมือคุณภาพ,บทสรุปของการทำงาน,หลักการนำเครื่องมือลงไปปฏิบัติ,
แนวทางการนำเครื่องมือไปใช้,คำถามคำตอบ
ในการบรรยายผมได้พยายามร้อยเรียงเรื่องของการบริหารองค์การยุคใหม่ที่ต้องตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการโดยต้องพยายามเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่เหมาะสมในการทำงานเพื่อให้องค์กรสามารถอยู่รอดได้ด้วยการมีคุณภาพ
ประสิทธิภาพและประหยัด ให้ดีกว่า เร็วกว่า ถูกกว่า
แล้วเข้าสู่เรื่องของการบริหารแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์
ซึ่งก็คือการปลูกพืชต้องหวังผล นั่นเอง
แล้วจะได้ผลดีต้องมีการวางแผนกลยุทธ์โดยการตั้งทิศทางกลยุทธ์อย่างเหมาะสม
วิเคราะห์องค์กรอย่างครบถ้วน
สร้างกลยุทธ์อย่างเหมาะสมแล้วนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติด้วยBalance
scorecard
ลงท้ายด้วยการทบทวนประเมินกลยุทธ์จากตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์
พอถึงวันบรรยายจริงก็ไม่ได้มีอุปสรรคอะไรก็สามารถลื่นไหลไปได้ดีในเวลาที่กำหนดไว้
ไม่เหนื่อยเท่าไหร่นัก สังเกตคนฟังแล้วก็ดูจะหลับไม่น่าจะเกิน
5 คน ก็พอไหว
พอบรรยายเสร็จก็นัดเพือนๆที่เคยเรียนปริญญาโทนิด้าด้วยกันเจอกันแล้วท่านอัยการราเชนทร์ก็พาไปทานข้างที่โรงแรมพิษณุโลกธานี(ไม่ได้รีบกลับเพราะต้องรอทีมงานของโรงพยาบาล
5
คนที่เดินทางกลับจากการไปเป็นพี่เลี้ยงหรือไปทำ
Peer
Assistเรื่อง
HAให้กับทางโรงพยาบาลบ้านลาด จ.เพชรบุรี
ซึ่งเดินทางโดยเครื่องบินมาลงที่สนามบินพิษณุโลกเวลา
1 ทุ่ม ผมบรรยายเสร็จบ่าย
3 โมง
ก็เลยรอกลับพร้อมกัน จะได้ใช้รถคันเดียว ประหยัดน้ำมันไปด้วย ประมาณ
2 ทุ่มครึ่งก็เดินทางกลับตาก
ขณะนั่งรถไปได้ครึ่งทางคุณหมอปัญญา
เพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันสมัยอยู่โรงพยาบาลแม่พริก
ปัจจุบันอยู่สสจ.พิษณุโลก โทรมาเล่าให้ฟังว่าทีมที่ไปอบรมจาก
สสจ.พิษณุโลก ชมว่าบรรยายเข้าใจดี
ก็เลยคลายกังวลไปได้ว่าคนฟังเขาคงไม่เสียเวลาเปล่าที่มาฟังเราพูด
4 ชั่วโมง
ทำให้การบรรยายในรอบที่สองลดความวิตกกังวลไปได้เยอะเลย