การอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์…รุ่นที่ ๑


สรุปแล้ว..การอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์ในครั้งนี้ ทั้งผู้เข้าร่วม และวิทยากร ได้รับสิ่งที่เกินคาดหวังกันถ้วนหน้า....ในขณะที่ผู้ประสานงาน สสส. แจ้งว่าได้บรรลุผลตามเป้าของการจัดอบรมครั้งนี้แล้วและจะจัดรุ่นที่ ๒ อีกประมาณเดือน ม.ค.๕๐


              วันที่ ๖ ต.ค. ๔๙ ดิฉันมีโอกาสเป็นวิทยากรอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์ ซึ่งจัดโดย สสส. .....เป็นวันที่ได้พบเห็นอะไรเกินคาดหลายอย่าง....จึงอยากนำมาเล่า
               เริ่มจากวันจันทร์ที่ ๒ ต.ค. ๔๙ ตอนบ่าย...คุณธวัชและคุณอ้อ แห่ง สคส. แจ้งว่าประเดี๋ยวจะมีคนจาก สสส. มาคุยเรื่องการอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์  ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสอันดีที่ดิฉันจะได้ฝึกเป็นวิทยากร เพราะเป็นกลุ่มเด็กนักศึกษาแพทย์ ปี ๓-๔ ประมาณ ๒๕ คน.....เพียงชั่วครู่....เจ้าหน้าที่ สสส. ๒ คน ก็มาถึง....เราคุยกันในห้องครัวของ สคส. เนื่องจากห้องประชุมมีคนใช้อยู่    รายละเอียดตอนนั้นเราเข้าใจว่า  เป็นการอบรมนักศึกษาคณะแพทย์ พยาบาล สาธารณสุข ที่มาจาก มหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่อยู่ในโครงการอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์ ซึ่งมีอยู่แล้ว  การอบรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็น รุ่นที่ ๑......เป็นการฝึกทักษะการเขียนในหลายๆ แบบ เพราะวันอบรมจะมี การเขียนแบบนักข่าว การเขียนแบบประเมินเพื่อถอดบทเรียน และการเรียนแบบการจัดการความรู้ของ สคส. .....ซึ่งคุณอ้อได้ถามย้ำว่าการอบรมครั้งนี้ไม่ใช่การเขียนแบบประเมินใช่หรือไม่ เนื่องจากในรายละเอียดโครงการที่นำมาให้นั้นเป็นรายละเอียดให้ฝึกการเขียนประเมินโครงการ  เพราะถ้าให้ฝึกเขียนประเมินโครงการนั้น สคส. เราไม่ถนัดในการเขียนแบบประเมิน....ซึ่งทาง สสส. ก็ตอบย้ำว่าไม่ใช่การเขียนแบบประเมิน และการอบรมครั้งนี้ก็เป็นแบบสบายๆ ไม่ต้องกังวลมากว่าจะเป็นทางการ...การอบรมครั้งนี้จะจัดขึ้นวันที่ ๖ ต.ค.๔๙ โดยช่วงเช้า เป็นการบรรยายมุมมองในการเขียนทั้ง ๓ แบบ เฉลี่ยแล้วบรรยายคนละ ๔๕ นาที และช่วงบ่ายเป็นการฝึกปฏิบัติการเขียนทั้ง ๓ แบบ เฉลี่ยแล้วการฝึกแต่ละแบบใช้เวลา ๑ ชั่วโมง..........ในรายละเอียดทาง สสส. จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง...........


       จากวันนั้นดิฉันก็คิดว่าจะบรรยายอย่างไรดีนะ...ซึ่งก็มีแนวคิดไว้คร่าวๆ แล้วแต่ยังไม่ได้เตรียมตัวในรายละเอียดเนื่องจากต้องใช้พลังในการเตรียมนำเสนอ หลักข้อ ๔ sfumato ของหนังสือ How to think like Leonardo Da Vinci ในวัน weekly meeting วันที่ ๔ ต.ค.๔๙ .......จึงได้เตรียมตัวสำหรับอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์อย่างจริงจังในตอนเย็นของวันที่ ๔ ต.ค.๔๙.....แล้วก็ซ้อมนำเสนอในเช้าวันที่ ๕ ต.ค.๔๙ ให้เหล่าเจ้าหน้าที่ประสานงาน สคส. ช่วยให้คำแนะนำและปรับแก้.........ดิฉันได้รับกำหนดการอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์จาก สสส. ในตอนบ่ายของวันที่ ๕ ต.ค.๔๙ เพราะ สสส. เพิ่งสรุปเสร็จ..........


               วันที่ ๖ ต.ค.๔๙  ถือเป็นวันฝึกเป็นวิทยากรของดิฉันโดยวันนี้มี คุณธวัช และ คุณพันธุ์บุณย์ ซึ่งเป็น KM Intern ของ สคส. มาด้วย......มีนักศึกษาเข้าร่วมจำนวน ๑๔ คน บรรยากาศในการอบรมเป็นทางการมากๆ...ตามกำหนดการอบรมครั้งนี้ ประธานต้องเปิดการอบรมเวลา ๐๙.๑๕ น. แต่เนื่องจากต้องเดินทางมาจาก สนามบินสุวรรณภูมิ จึงมาช้า...รอถึง ๐๙.๔๕ น. ประธานก็ยังมาไม่ถึง....ผู้จัดการอบรมของ สสส. จึงเกริ่นนำและให้ดิฉันเริ่มบรรยายเลยโดยมีคุณธวัช ช่วยเสริม.....ประธานมาเปิดงานก่อนการนำเสนอในหัวข้อที่ ๒ คือ การประเมินกิจกรรมจากประสบการณ์ถอดบทเรียน..และทุกอย่างก็ดำเนินไปตามกำหนดการของช่วงเช้า.........พักกลางวันเวลา ๑๒.๒๐ น.


              ข้อสังเกตที่ได้ในช่วงเช้านี้คือ คุณจินตนา และคุณพัชรพิมพา เป็นพยาบาลวิชาชีพ จากจังหวัดน่าน  ซึ่งเป็นคนนำเสนอในหัวข้อ “มุมมองการประเมินกิจกรรมจากประสบการณ์ถอดบทเรียน” นั้นแท้จริงแล้วตั้งใจจะมาเป็นผู้เข้าร่วมอบรมการเขียนแบบนักข่าว....แต่ทั้ง 2 ท่าน ก็มีความสามารถมากนะคะที่นำเสนอได้คล่องโดยมีทั้ง power point และแบบฝึกหัดมาให้ที่ประชุมลองทำด้วย (เป็นการเตรียมตัวสดๆ ร้อนๆ ก่อนนำเสนอเลยนะคะ....แต่ทั้ง 2 ท่าน ก็ยังไม่แน่ใจว่าที่ให้นำเสนอนั้นเป็นไปตามที่ผู้จัดต้องการหรือไม่) .....
             ก่อนการฝึกปฏิบัติช่วงบ่าย...ดิฉันได้สอบถามกับผู้ประสานงาน สสส. ว่าในช่วงบ่ายกำหนดการยังเหมือนเดิมหรือไม่  เพราะผู้เข้าร่วมมีเพียง ๑๔ คน...ก็ได้รับคำตอบว่าให้แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม เพราะมีการฝึกปฏิบัติเพียง ๒ แบบ  คือ การเขียนแบบ KM แนว สคส. และ การประเมินกิจกรรมจากการถอดบทเรียน...........จากนั้นดิฉันก็ได้พูดคุยกับคุณจินตนาและคุณพัชรพิมพา ว่ารูปแบบการฝึกปฏิบัติตอนบ่ายของทั้ง 2 ท่านเป็นอย่างไรจะได้เรียนรู้ไว้........ได้รับคำตอบว่า.. “อ้าว! จะให้ช่วยฝึกปฏิบัติด้วยเหรอ..แล้วของ สคส. เตรียมมาอย่างไรบ้าง ผู้ประสานงานไม่ได้บอกอะไรเลย”......??       สุดท้ายจึงได้หารือกับท่านประธานเปิดงานซึ่งเป็นผู้คิดโครงการนี้...และทำให้ความกระจ่างว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการค้นหานักประเมินรุ่นเยาว์ เพื่อเข้าร่วมโครงการกับ สสส. ดังนั้นตอนบ่ายนี้จึงอยากให้นักศึกษาที่เข้าร่วมอบรมสะท้อนความรู้สึกที่ได้ฟังการบรรยายจากช่วงเช้าว่ามีแผนหรือแนวคิดที่อยากจะไปทำโครงการอะไรต่อเรื่อง สุขภาพ  และมีความตั้งใจจริงที่จะทำงานด้านสุขภาพเพื่อสังคมจริงหรือไม่....จะได้ให้เข้าร่วมโครงการเป็นนักประเมินรุ่นเยาว์ เพื่อสร้างเครือข่ายนักประเมิน สุขภาพ ที่ฝังตัวอยู่ในสังคมอย่างแนบเนียน...............


             เรา 3 คน (ดิฉัน คุณจินตนา และคุณพัชรพิมพา)  ก็เลยปรับแผนให้นักศึกษาตอบคำถาม 5 ข้อ (เป็นคำถามคล้ายกับ AAR)  คือ 1. สิ่งที่ทำให้เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้  2. คาดหวังอะไรจากการอบรมในครั้งนี้  3.ได้เรียนรู้อะไรจากการอบรมในครั้งนี้ และตรงตามคาดหวังหรือไม่  4. หลังจากการอบรมในครั้งนี้แล้วจะทำอะไรต่อไป  5. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ    โดยแบ่งกลุ่มนักศึกษาออกเป็น ๓ กลุ่ม ย่อย เพื่อเป็นการสะท้อนความรู้สึกในกลุ่มย่อยก่อน  จากนั้นให้สะท้อนความรู้สึกในกลุ่มใหญ่


             ข้อสังเกตที่ได้จากกิจกรรมในช่วงบ่ายคือ 
           ๑. นักศึกษาที่เข้าร่วมอบรมวันนี้ไม่ใช่นักศึกษาที่อยู่ในโครงการอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์  แต่เป็นนักศึกษาที่ได้ทุนทำโครงการจาก สสส., เป็นนักศึกษาที่กำลังจะเริ่มขอทุกจาก สสส. และนักศึกษาที่ครูสั่งให้มา
        ๒. นักศึกษาที่เข้าอบรมเข้าใจว่าการอบรมครั้งนี้เป็นการอบรมเพื่อฝึกการเขียนโครงการและประเมินโครงการของ สสส.
  

           สรุปแล้ว..การอบรมนักลิขิตรุ่นเยาว์ในครั้งนี้ ทั้งผู้เข้าร่วม และวิทยากร  ได้รับสิ่งที่เกินคาดหวังกันถ้วนหน้า....ในขณะที่ผู้ประสานงาน สสส. แจ้งว่าได้บรรลุผลตามเป้าของการจัดอบรมครั้งนี้แล้วและจะจัดรุ่นที่ ๒ อีกประมาณเดือน ม.ค.๕๐ ........

หมายเลขบันทึก: 53639เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2006 08:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะคุณ uraiman  (เราเคยเจอกันที่ สคส. ค่ะ จำได้มั้ยคะ)

  • บันทึกนี้ช่วยตอกย้ำความเชื่อของเราว่า "การทำกิจกรรมกับนิสิต-นักศึกษา"  มักจะได้อะไรเกินความคาดหวังค่ะ
  • ที่ มน. เคยจัด KM Workshop สำหรับผู้นำนิสิตรุ่นที่ 1 (ราวเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา) เราจึงได้ความรู้สึกแบบนี้แต่น่าจะเป็นคนละมุมกับที่คุณ uraiman  ได้รับ
  • ท่านอาจารย์วิบูลย์ได้ถ่ายทอดไว้ใน <บันทึก> นี้ค่ะเผื่อเราจะได้ ลปรร. ร่วมกันนะคะ

สวัดดีคะคุณ ตูน

      ยังจำได้ค่ะ....และได้รับกระเป๋า มน. ที่ส่งมาให้ สคส. แล้วนะคะ...ขอบคุณมากเลยคะ.....

      ยอมรับคะว่า...การทำกิจกรรมกับเด็กนักศึกษาแล้วเราได้เห็น "พลังบริสุทธิ์" อย่างที่ ท่านอาจารย์วิบูลย์ได้กล่าวไว้จริงๆ ....และมีมุมมองบางอย่างดีกว่าผู้ใหญ่บางคนด้วยซ้ำนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท