คราวที่แล้วฝากให้ไปคิดกันเกี่ยวกับปัญหาเรื่อง “ขยะ” และแนวทางการแก้ไข โดยนำ แนวคิดไคเซ็น (Kaizen) หรือการปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น มาใช้กัน หลายคนอาจบอกว่าไม่เห็นมีอะไรหรือคิดว่าไม่เห็นเป็นปัญหา แต่สิ่งที่ดิฉันมองเห็นก็คือ หนึ่ง การสิ้นเปลืองของถุงพลาสติกสำหรับรองขยะ ไม่ว่าจะขนาดของขยะที่ทำให้เปลืองพื้นที่ หรือการนำขยะเปียกไปใส่รวมกับขยะแห้ง จึงทำให้ต้องนำไปทิ้งเร็วกว่าปกติ ทั้งๆ ที่ถุงขยะยังไม่เต็มเลย
สอง การส่งกลิ่นเหม็นของขยะ เมื่อเราเปิดถังขยะแต่ละครั้ง กลิ่นที่โชยออกมามันชวนให้เวียนศีรษะจนอยากหนีให้ไกลๆ เสียทุกครั้งไป
สำหรับปัญหาข้อที่หนึ่ง การจะให้แยกถังขยะในบ้าน ก็ดูจะเป็นการเปลืองพื้นที่ แถมไม่ถูกจริตกับการรักความสะดวกสบายของเราๆ ท่านๆ ลองเปลี่ยนมาใช้ถังขยะแบบที่มี 2 ช่องสิคะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป สำหรับใช้แยกขยะเปียกและแห้งในถังเดียวกัน แถมอีกนิดด้วยการทำช่องใส่ขยะให้มีขนาดเล็ก เพื่อฝึกนิสัยของคนในบ้านให้ย่อขนาดของขยะก่อนทิ้ง ทำให้ถังขยะมีที่ว่างเหลือมากขึ้น
ส่วนปัญหาข้อที่สอง เคยเห็นบางที่ใช้ Sanitory Bin หรือถังขยะเพื่อสุขอนามัย เป็นถังขยะที่ทำฝา 2 ชั้น โดยด้านในเป็นช่องสำหรับใส่ขยะเมื่อเปิดขึ้นมา และเมื่อปิดฝาถังลง ขยะจึงจะตกเข้าไปในถัง เป็นการดักกลิ่นและช่วยกันไม่ให้เห็นขยะภายใน แถมยังอาจเสริมด้วยกลิ่นหอมที่ฝา เมื่อเปิดขึ้นมาจะช่วยกลบกลิ่นเหม็นที่อาจลอยขึ้นมาได้ เหมาะมากสำหรับการนำไปใช้ในห้องน้ำ
ไอเดียเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวไม่ยากเลยใช่หรือเปล่าคะ เริ่มจากการปรับปรุงสิ่งต่างๆ รอบตัวก่อน ต่อไปก็จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้นค่ะ
อย่าลืมว่าคนไทยเป็นชนชาติที่ชาญฉลาดและเก่งฉกาจในเรื่องพลิกแพลง ฉะนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทำไม่ได้แต่อยู่ที่ยังไม่เริ่มทำต่างหาก ในอนาคต หากสามารถฝังรากแนวคิดนี้ให้แก่ลูกหลานได้ นอกจากประเทศชาติ ประชาชนจะพัฒนายิ่งขึ้นไปแล้ว เราคงสามารถก้าวสู่ผู้นำโลกได้อย่างมั่นคง
ตามมาอ่านบทความเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องขยะครับ น่าสนใจมาก