บันทึกการไปทัศนศึกษาประเทศพม่า : พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี(พระตาหวาน)

มิงกะลาบา ค่ะ

๓  พฤษภาคม  ๒๕๕๖ ตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุกเวลา ๐๕.๐๐ น. อาบน้ำแต่งตัวลงไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ขนมปังและกาแฟ เท่านี้ก็อิ่มแล้ว จากนั้นนั่งรอเวลารถมารับระหว่างรอก็นั่งอ่านข่าวสารบ้านเมืองของไทย จากอินเทอร์เน็ต  ๐๙.๑๐ น. ออกจากโรงแรมที่พักไปชม ช้างเผือก ที่เป็นช้างคู่บ้านคู่เมืองของพม่า มีสีขาวเผือกตลอดทั้งตัว มีลักษณะทั้ง ๙ ประการ ตรงตามตำราโบราณ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบันจำนวน ๓ ตัว รวมเงินซื้ออ้อยให้ช้างกิน 

                    

ออกจากการดูช้างไปนมัสการ พระลาภมุนี พระพุทธรูปหยกขาว ซึ่งเป็นพระรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า สีขาวสะอาดและไม่มีตำหนิ สูง ๓๗ ฟุต กว้าง ๒๔ ฟุต หนัก ๖๐๐ ตัน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์ และศรีลังกายกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาท ซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปด้วย 

                                             

จากนั้นไปชม เจดีย์กาบาเอ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงกลมมีความสูง เท่ากับ เส้นผ่าศูนย์กลาง ของเจดีย์ คือ ๓๔ เมตร โดยนาย อูนุ นายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า เป็นผู้สร้างเจดีย์แห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ชำระพระไตรปิฎกครั้งที่ ๖ในช่วงระหว่างปี ๒๔๙๗ – ๒๔๙๙ และเพื่อให้บังเกิดสันติสุขแก่โลก

                                 

เที่ยงรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร อาหารวันนี้มีเมนูเด่น  สลัดกุ้งมังกร  เป็ดปักกิ่ง  ส่วนเป็ดปักกิ่งเวลกินต้องใช้แผ่นแป้งรอง  ราดน้ำจิ้ม ถึงจะกินได้อร่อย  นอกจากนี้ยังมีอาหารอีกหลายอย่าง รวมทั้งหมด ๘ อย่าง

                 

อิ่มแล้วกลับขึ้นรถไปชม พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี  ซึ่งเป็นพระที่มีตาสวยงามที่สุดในประเทศพม่า(เขาเรียกพระตาหวาน)  ชมพระบาทที่มีภาพมงคล ๑๐๘ ประการและพระบาทซ้อนกันซึ่งแตกต่างกับศิลปะของไทย มีขนาดความยาว ๕๕ ฟุต ความสูง ๑๖ฟุต 

                      

ไหว้พระแล้วยังมีเวลาทุกคนอยากจะไปตลาดสก๊อตเพื่อซื้อหยกอีก  ใช้เวลาที่ตลาดถึง ๑๔.๓๐ น.  ออกจากตลาดกลับโรงแรมที่พักเพื่อพักผ่อน  เตรียมไปรับประทานอาหารเย็น  ประมาณ ๑๖.๐๐ น. ทุกคนขึ้นรถไปร้านอาหารไทย ซึ่งมีกับข้าวเป็นน้ำพริกกุ้งสด  แกงเลียง  แกงป่า ไก่ทอด เป็นต้น  อิ่มแล้วกลับโรงแรมเพื่อเตรียมจัดกระเป๋าพร้อมเดินทางกลับพรุ่งนี้  แต่มีอุบัติเหตุคุณครูสุพิศ  มีอาการปวดท้อง  อาเจียน และถ่ายท้อง ตั้งแต่ก่อนอาหารเย็น ทนไม่ไหว ๒ ทุ่ม มัคคุเทศก์ไทย คุณเช ติดต่อหมอจากโรงพยาบาลเอกชนมาดูอาการ  คุณหมอมาพร้อมคุณพยาบาลน้อย(พยาบาลผู้ช่วย พม่าเรียกพยาบาลน้อย  เอกลักษณ์นุ่งผ้าซิ่นสีแดง  สวมเสื้อขาว) คุณหมอตรวจอาการ  ฉีดยา และสั่งยาให้กิน  คุณครูจึงหลับไป  ค่าหมอ ๒,๗๐๐ บาท นี่คือบริการที่ประทับใจของคุณหมอที่มารักษาถึงที่  ราครไม่แพงเลย  คืนนี้กว่าจะได้อาบน้ำนอนเป็นเวลาหนึ่งนาฬิกาของวันใหม่แล้ว  ขอนอนก่อน......มิงกะลาบา ค่ะ

                                          มีต่อ..........พรุ่งนี้ไปสิเรียมค่ะ