สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๑ ใน ๕ ของพม่า
บ่ายวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖ รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วกลับขึ้นรถ มุ่งหน้าสู่เมืองย่างกุ้งไป เลือกซื้อสินค้าที่ “สก๊อตมาเก็ต” หรือ ตลาดโบโจ๊ก ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของพม่า รวบรวมความหลากหลายของสินค้า อาทิ อัญมณี ทับทิม ไพลิน หยก ไข่มุก งานไม้สัก ไม้หอมแกะสลัก งาช้างแกะสลัก ผ้าโสร่ง และ ผ้าต่างๆ ส่งตรงจากเกาหลีและญี่ปุ่น ภาพเขียนสีน้ำ และสีน้ำมันอันงดงามในราคาถูก คุณครูทุกคนมุ่งตรงไปที่ร้านหยก หยกที่ดีที่สุดต้องที่พม่า ราคาหยกขึ้นอยู่กับเกรด ไม่มีของปลอมแน่นอนเพราะหยกที่นี่มีอยู่มากมาย ยืนร้านใกล้ ๆ กัน ยังซื้อได้ราคาไม่เท่ากัน ทั้ง ๆ ที่สินค้าเหมือนกัน จึงมีศัพท์ใหม่เกิดขึ้น "คนละเกรด" ความสุขทางใจ
ได้ของฝากกันถ้วนหน้าทุกคนแล้ว เข้าสู่ที่พัก กรีนฮิลล์โฮเต็ล (Green Hill Hotel) เป็นโรงแรมระดับสามดาวครึ่ง ทุกคนได้ห้องพัก พักห้อง ๓๐๑ กับน้องสาว ห้องพักสะดวกสบาย เก็บสัมภาระแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะร้อนและเหนียวตัว เช็ดตัวรีบ ๆ ต้องไปนมัสการมหาเจดีย์ชเวดากอง
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ของโลกอายุ ๒,๕๐๐ ปี ยอดบนสุดของเจดีย์ประดับด้วยทองคำแท้ห่อหุ้มหนัก ๒๓ ตัน เพชร พลอยเม็ดใหญ่ และอัญมณีต่า งๆ บนยอดพระเจดีย์ ประดับด้วยทับทิมขนาดเท่าไข่ไก่ ส่วนบนยอดสุดประดับด้วยเพชรที่ประเมินค่าไม่ได้ ภายในประดิษฐานเส้นเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และบริโภคเจดีย์ (เครื่องใช้) ของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้ง ๓ พระองค์
ทางเข้าพระเจดีย์ชเวดากองมีทั้ง ๔ ทิศ แต่ทางเข้าใหญ่คือทางทิศใต้ซึ่งมีสิงห์นั่งสองตัวสูง ๓๐ เมตรเฝ้าทางเข้าอยู่ เมื่อเข้าไปถึงต้อถอดรองเท้า น้องเรย์ ก็จะนำไปขึ้นลิฟต์แก้วซึ่งจะขึ้นถึงลานใหญ่ของพระเจดีย์เลย ขณะที่ประชาชนต้องขึ้นบันไดเลื่อนไกลหน่อย เมื่อขึ้นไปถึงลาน จะต้องซื้อพวงมาลัย ๒ พวง ประกอบด้วยดอกมะลิและดอกมหาหงส์ หลังจาก นั้นก็เดินพาไปดู สัตว์ประจำวันเกิดของพม่า เมื่อได้รับคำแนะนำแล้ว ไปที่ลานอธิษฐาน ถวายพวงมาลัย ๑ พวง ที่ลานอธิษฐานซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และเท่าที่ทราบก็เคยมีคนใหญ่คนโตของไทยไปตั้งจิตอธิษฐานจนประสบความสำเร็จมา หลายท่านแล้ว ให้อธิษฐานตามแต่ใจตนเองของแต่ละคน
พวงมาลัยอีก ๑ พวงนำไปสักการะสัตว์ประจำวันเกิด สัตว์สัญลักษณ์ประจำวันเกิด ตั้งอยู่รอบ ๆ ลานเป็นคู่ ๆ ด้วย โดยเชื่อกันว่าการสรงน้ำพระพุทธรูปและสัตว์เหล่านี้ จะสร้างความบริสุทธิ์และความสุขความเจริญแก่ผู้สรงน้ำ สัตว์ประจำวันเกิดมีดังนี้
วันอาทิตย์ – ครุฑ อยู่ที่ทิศตะวันออกเฉียง เหนือของลานเจดีย์
วันจันทร์ – เสือ อยู่ทิศตะวันออก
วันอังคาร – สิงห์ อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้
วันพุธ (เช้า) – ช้างงา อยู่ทิศใต้
วันพุธ(กลางคืน) – ช้างไม่มีงา อยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
วันพฤหัสบดี – หนู อยู่ทิศตะวันตก
วันศุกร์ – หนูตะเภา (บางคนเชื่อว่าเป็น กระต่ายหูสั้น) อยู่ทิศเหนือ
วันเสาร์ – พญานาค อยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้
โดยจะรดน้ำด้วยขันเล็ก ๆ ที่มีจัดเตรียมไว้ให้ตามขั้นตอน ตัวเองเป็นคนเกิดวันอังคาร สัตว์ประจำวันเกิดคือสิงห์ ช่างบังเอิญเป็นคนเกิดราศรีสิงห์ตามตำราไทยอีกด้วย ขั้นที่ ๑ ตักน้ำ ๑ ขัน ล้างพวงมาลัย ๑ พวงที่มีอยู่ ขั้นที่ ๒ นำพวงมาลัยแขวนที่พระอินทร์ และตักน้ำรด ๓ ขัน ขั้นที่ ๓ ตักน้ำรดพระอินทร์อีก ๓ ขัน จากนั้นขั้นที่ ๔ รดที่สัญลักษณ์สิงห์ ๓ ขัน ขั้นที่ ๕ อธิษฐานและขอพร
จากนั้นเดินเวียนอีก ๓ รอบ แต่เดินไม่ไหว เหนื่อยจึงนั่งรอ ณ จุดนัดหมาย เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหาร แบบบุฟเฟ่ต์ นานาชาติ และให้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองแบบพม่าพร้อมชมการแสดงนาฏศิลป์ของพม่าอันงดงามชดช้อย ณ ภัตตาคารลอยน้ำการะเวก บนทะเลสาบหลวง ภัตตาคารนี้สร้างในปีที่ ๒๕๑๓ เลียนแบบเรือกัญญาหัวเรือเป็นรูปนกการะเวก สัตว์ในวรรณคดีป่าหิมพานต์ เราสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของพระมหาเจดีย์ชเวดากองได้งดงามน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เลือกที่จะกินอะไรอุ่น ๆ จึงกินก๋วยเตี๋ยวน้ำของไทย
เมื่อทุกคนอิ่มแล้ว ต่างก็เหนื่อยล้า กลับโรงแรมที่โรงแรมนี้มี wifi แต่ไม่ค่อยดีเน็ตหลุดถี่มาก จึงไม่สนใจแล้วอาบน้ำอุ่น ๆ นอน เพื่อพรุ่งนี้จะได้มีแรงเที่ยวต่อ ......มิงกะลาบา ค่ะ
ไปไหว้พระกันต่อ พรุ่งนี้ไปไหว้พระตาหวานกันจ้ะ
ไม่มีความเห็น