การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในโกทูโนว์ (3-75)


.... ผู้เขียนขอออกตัวไว้ก่อนว่าที่เขียนนี้เป็นการสังเกต “วิธีการ” ของบล็อกเกอร์ที่เขียนบันทึกแล้วมีคนอ่านมาก มีดอกไม้มาก และมีคนให้ข้อคิดเห็นมาก....

               

               จากความตั้งใจว่าจะเป็น “สมาชิกที่ดี” ในชุมชนออนไลน์ GotoKnow เพื่อเป็นการตอบแทนที่มีส่วนทำให้ผู้เขียนกล้าคิดกล้าเขียน ได้ฝึกทักษะการเขียน การแสดงความคิดเห็น และยังได้พบได้รู้จักกับกัลยาณมิตรหลายท่าน ทำให้ผู้เขียนพยายามเขียนบันทึกในทุกประเด็นที่ผู้ดูแลชุมชนเชิญชวน(ในเงื่อนไขของเวลาที่มี) ที่ผ่านมาก็เขียนได้ไม่มีปัญหา เพราะคิดอย่างไรก็เขียนอย่างนั้น (ก็เป็นความคิดเห็นนี่) และยังมีความสุขที่ได้คิดได้เขียนได้แสดงความเห็นอย่างเสรี จะมีคนอ่าน คนให้ดอกไม้มากน้อยแค่ไหน ก็น้อมใจรับแค่นั้น

                พอเห็นหัวข้อ “เคล็ดลับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้” แรกๆ อุทานว่า... แหม งานนี้ไม่ถนัด...(ฮาๆ)  เนื่องจากเป็นคนชอบเขียน แต่มีโลกส่วนตัวสูง คิดเห็นไม่ค่อยเหมือนคนอื่น บางทียังขัดแย้งแม้กับตัวเอง (อิอิ) และยังขี้ขลาดขี้อายมาก ไม่ค่อยกล้าไปคุยกับใครก่อน นอกจากมีคนมาคุยด้วยจนคุ้นเคยแล้ว จึงกล้าที่จะไปชวนคุย ให้ความเห็น และทักทาย  เลยสรุปและประเมินตัวเองว่า... เป็นคนชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แต่เป็นคนที่อยู่ใน ”ระบบปิด” คือ ต้องรู้จัก รู้สึกคุ้นเคยก่อนจึงจะกล้าเข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย แล้วอย่างนี้จะไปเขียนเรื่อง “เคล็ดลับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้” ได้อย่างไร แต่ไหนๆก็ตั้งใจจะเขียนแล้ว ต้องหาประเด็นเขียนจนได้ ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอออกตัวไว้ก่อนว่าที่เขียนนี้เป็นการสังเกต “วิธีการ” ของบล็อกเกอร์ที่เขียนบันทึกแล้วมีคนอ่านมาก มีดอกไม้มาก และมีคนให้ข้อคิดเห็นมากนะคะ พอสรุปได้ดังนี้ค่ะ


1. “เปิดใจ” คนที่เปิดใจยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นอย่างให้เกียรติและใช้คำสุภาพ แม้คิดต่างจากตนเอง ไม่เลือกว่าเป็นคนที่มีอาวุโสมากหรือน้อย มีความรู้ระดับไหน ก็ให้ความสำคัญกับความคิดเท่าเทียมกัน มักจะมีคนยินดีเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ข้อคิดเห็นดีๆ เสมอ


2. “เปิดปาก”  คนที่มักจะมีการตอบโต้/พูดคุยกับผู้ที่มาให้ความเห็นอย่างสม่ำเสมอและทันทีทันใด จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ที่มาอ่านยิ่งอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กว้างขวางยิ่งขึ้น


3. “เปิดหูเปิดตา”  การหมั่นไปทักทาย ให้ความเห็น ซักถาม และอ่านบันทึกของผู้อื่น รวมทั้งหมั่นให้ดอกไม้เป็นกำลังใจกับคนอื่นอย่างสม่ำเสมอจะมีคนมาทักทายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย  เพราะธรรมชาติของคน เมื่อมีคนให้ความสนใจ มาทักททาย ย่อมอยากตอบแทนด้วยการไปเยี่ยม ไปอ่าน ไปรู้จัก และไปพูดคุยกับคนนั้นๆ ดังคำพระที่ว่า "ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง"




4. "เปิดสมอง” ข้อนี้สำคัญ หากต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้/ต้องการให้มีคนอ่านมาก ต้องเขียนบันทึกที่มีคุณภาพ  เพราะบันทึกที่ดีมีสาระจากการกลั่นประสบการณ์จริง มีเนื้อหาที่ค้นคว้าอ้างอิงมาอย่างน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งมีบทวิเคราะห์สังเคราะห์ครบถ้วน แม้เจ้าของบันทึกจะไม่เปิดใจ เปิดปาก เปิดหูเปิดตากับผู้มาอ่านเลย ก็ยังคงมีคนเข้ามาอ่านและอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยอยู่ดี  เข้าทำนองของดีจริง ไม่ต้องโฆษณา ไม่ต้องทำการตลาดมาก คุณภาพเป็นตัวดึงดูดให้คนอยากมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เอง


5. “เปิดช่อง” ข้อนี้เป็น ความชอบ/ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนโดยตรง เนื่องจากเป็นคนสมาธิสั้น ไม่ชอบอ่านเรื่องที่ยาวๆ เกินไป ไม่ชอบตัวหนังสือติดเป็นพรืดโดยไม่มีเว้นวรรค ไม่มีช่องว่าง ไม่มีภาพ ดังนั้น การวาง Space ของตัวหนังสือ ภาพประกอบ และสีสันของตัวอักษรให้สบายตา น่าจะเป็นการเอื้อให้คนมาอ่านได้อย่างสุขสบายยิ่งขึ้น


6. “เปิดรับ” การยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล ไม่ควรคาดหวังว่าเมื่อเรามุ่งมั่น ทุ่มเทในการเขียน ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างมากแล้ว ทำไมจึงไม่มีคนมาอ่าน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้ดอกไม้น้อย ทั้งที่เราก็แสนจะตั้งอกตั้งใจนำเรื่องดีๆ มาเสนอเสียขนาดนี้ จนหลายท่านพาลหมดกำลังใจไม่อยากเขียนบันทึกไปเลยก็มี  ผู้เขียนเห็นว่าเราคงต้องยอมรับว่า มนุษย์ย่อมต่างจิตต่างใจต่างความคิดและต่างจริตนิสัยใจคอ ลางเนื้อชอบลางยา ยกตัวอย่างตัวผู้เขียนเอง ไม่ชอบอ่านเรื่องที่เขียนยาวๆ ไม่ชอบอ่านเนื้อหาเครียดๆ ใช้คำพูดแรงๆ นัยเสียดสีประชดประชัน (อ่านแล้วไม่สบายใจ ไม่รู้ว่าใคร) ด้วยความเชื่อส่วนตัวที่ว่า เราสามารถเลือกคำพูดดีๆ บวกๆ มาใช้แม้ในเรื่องที่แย่ๆ ก็ตามที เป็นต้น


            สรุปไว้แล้วมาอ่านทวนอีกครั้ง ต้องขออภัยที่เขียนยืดยาว เพราะไม่สามารถเขียนได้ย่นย่อกว่านี้ค่ะ พร้อมนี้ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่านได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างมีความสุขค่ะ


หมายเลขบันทึก: 533533เขียนเมื่อ 21 เมษายน 2013 21:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน 2013 08:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (74)

โอ้ !!!!  ช่างสังเกตอุปนิสัยชาว GTK  วิเคราะห้แยกแยะชัดเจน  

สังเคราะ์ห์ประเด็นเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนรู้ได้ตรงใจจริง ๆ ......เห็นด้วยมาก ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะ

ดีใจมีคนมาอ่านจนจบและให้ข้อคิดไว้...

ขอบคุณค่ะ  :)

เป็นบทวิเคราะห์ที่ "เยี่ยมมากๆ"  ค่ะ เพราะมีความครบถ้วน สมบูรณ์และตรงกับข้อเท็จจริง

เป็นแนวหนึ่งของการเขียนตามคำสำคัญ "แลกเปลี่ยนเรียนรู้" ที่อยากจะเห็น เคยคิดจะเขียนเองในแนวนี้ แต่เวลาและปัจจัยอำนวยความสะดวกไม่สนับสนุน เลยเลี่ยงไปเขียนแบบใช้เวลาสั้นๆ คือ สืบค้นบทความจากต่างประเทศที่คิดว่านำมาประยุกต์ใช้ได้ในสังคมไทยแล้วแปลถอดความค่ะ...ดีใจที่ "น้องหยั่งราก ฝากใบ" เขียนแทน เขียนได้ตรงใจ และลึกซึ้งสมบูรณ์กว่าที่พี่จะทำได้

อยากให้ทีมงาน GotoKnow ใส่ไว้ในกรอบบันทึกแนะนำ ให้กัลยาณมิตรได้อ่านมากๆ ค่ะ หรือว่าใส่ไว้แล้วคะ

พี่เองเขียนใน GotoKnow แบบไม่มุ่งจำนวนดอกไม้และคนอ่านเป็นหลักค่ะ แต่เขียนตามแรงบันดาลใจบ้าง และตามที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมบ้าง...แต่ก็ยอมรับว่า จำนวนดอกไม้และคนอ่านโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบันทึกที่มุ่งประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นส่วนหนึ่งของแรงจูงใจในการเขียนค่ะ

เยี่ยมค่ะ

เป็นอีกคนที่เขียนได้ไม่เก่งนัก

และเขียนได้ไม่ยาวค่ะ

ทั้งหมด อายตนะ 6 พี่ก็เปิดหมดแล้ว........ ครบชุดไม่รู้จะเปิดอันใดอีกเลี้ยวววว...... 555

ขอบคุณมากค่ะ เห็นด้วยทุกๆ ข้อนะคะ

แต่หากข้อ 1  ไม่มาก่อน ... ข้ออื่นๆ ก็ไม่มาค่ะ

เปิดใจในการเป็นผู้ให้............และเปิดใจในการเป็นผู้รับ ..........................

เปิดไป เปิดมา บ่อยๆ ก็เก็บเป็นผลึกความคิด นำไปต่อยอดได้มากมายค่ะ 

กล่อมเกลา ให้เรากลมเกลี้ยงยิ่งขึ้นค่ะ

ขอบคุณบันทึกที่เป็นตัวตนแท้ๆ ของคุณหยั่งราก ฝากดิน ..ที่เราติดตามกันมาแสนนาน และจะติดตามต่อไปนะคะ   Bright lily

วิเคราะได้ชัดเจน  เห็นกลุ่มคนในกทน.

สำหรับผม ยึดหลัก"ผลัดกันเขียน  เวียนกันอ่าน วานกันชม"   จะเกิดการพัฒนา ในคิด เขียน และแสดงความเห็น

มาชื่นชอบ..บทความนี้..เจ้าค่ะ..(ได้เคยเรียนรู้..ตอนเริ่ม หัดเขียนบล้อกใหม่ๆ..จาก..คุณคนไม่มีรากว่า..เขียนติดกันเป็นพืด..ไม่มีเว้นวรรค..ขั้นตอน..แอบหัวเราะชอบใจ..อ้ะะๆๆๆ)...ยายธี)

 สวัสดีค่ะ

            เห็นด้วยค่ะ  เปิดใจ  ให้ใจกว้างขึ้นจนมองเห็นโลกกว้างนะคะ

เป็นบันทึกหนึ่งที่ทำให้ผม  "กล้าที่จะเขียน" ต่อไป

กำลังใจ มันยิ่งใหญ่พอที่จะให้ชีวิตเดินต่อได้ ทีเดียวนะครับ....

เห็นด้วยครับ..ชอบบทความนี้มากๆ

ความเห็นตรงกับคุณ Bright lilly คะ :)
ลักษณะการเขียนแบบ 'ผู้ให้' เป็นเช่นนี้เอง
คือ ประสานร้อยเรียงสิ่งที่เห็นจากผู้อื่น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น 

ขออนุญาตส่งเป็นบันทึกแนะนำนะคะ 

เริ่มจากเปิดใจ...ก็เปิดอะไรทั้งหมดทั้งสิ้นออกมา...ชื่นชมมากครับ

3. “เปิดหูเปิดตา”  การหมั่นไปทักทาย ให้ความเห็น ซักถาม และอ่านบันทึกของผู้อื่น รวมทั้งหมั่นให้ดอกไม้เป็นกำลังใจกับคนอื่นอย่างสม่ำเสมอจะมีคนมาทักทายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย  เพราะธรรมชาติของคน เมื่อมีคนให้ความสนใจ มาทักททาย ย่อมอยากตอบแทนด้วยการไปเยี่ยม ไปอ่าน ไปรู้จัก และไปพูดคุยกับคนนั้นๆ ดังคำพระที่ว่า "ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง"

เห็นด้วยทุกข้อโดยเฉพาะข้อนี้ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยค่ะ

ขอบคุณพี่ ไอดิน-กลิ่นไม้ มากค่ะ

คำชื่นชมด้วยความเมตตาของพี่ทำให้น้องมีกำลังใจขึ้นมากค่ะ

ไม่คิดว่าบันทึกที่เขียนเร็วๆในเวลาจำกัด จะตรงใจและมีคนมาอ่านมากขนาดนี้

น้องเห็นจริงดังพี่ว่าค่ะ แม้เราจะไม่ได้มุ่งเน้นจำนวนคนอ่านและดอกไม้ แต่เมื่อเห็นจำนวนคนอ่านและดอกไม้ รวมทั้งคนมาให้ข้อคิดเห็น ก็ทำให้เรามีกำลังใจยิ่งขึ้นจริงๆ ค่ะ  :)

ดูเหมือนว่าผมจะ "เฉี่ยว" ครบทั้ง 6 ประเด็นเลยนะครับเนี่ย   555

สวัสดีค่ะคุณ Bonnie

ส่วนตัวรู้สึกว่า  การเขียนยาวง่ายกว่าการเขียนสั้นนะคะ เพราะเขีียนยาวนั้นไม่ต้องคิดไม่ต้องเลือกคำมาก แต่การเขียนสั้นต้องคัดสรรคำให้น้อยเพื่อสื่อ "เนื้อหา/ความหมาย" ให้ครบถ้วนครอบคลุมค่ะ   :)

ท่าน วิชญธรรม

บางทีการเปิดอายตนะทั้งหมด คงไม่ใช่ทางที่ปลอดภัยนักนะคะ

ที่เลือกประเด็นให้ "เปิด" ทั้งหมดที่ว่ามานั้น เนื่องจากพี่เป็นคน "ปิด" ไงคะ ดังนั้นควรเลือกแต่ละประเด็นไปใช้ให้เหมาะกับตัวเอง... จริงไหมคะ   :)

สวัสดีค่ะพี่ Bright Lily

ขอบคุณพี่สำหรับมิตรภาพดีๆ ที่ให้ต่อกันมาเสมอนะคะ 

ชอบดอกไม้สวยๆและเพลงเพราะๆ ในบันทึกพี่มากค่ะ

อีกประเด็นหนึ่งที่คิดได้ก็คือ  บันทึกที่มีจำนวนคนอ่านมากหรือได้รับดอกไม้มาก อาจไม่ได้หมายถึงการเป็นบันทึกที่ดีเด่นกว่าบันทึกที่มีคนอ่านและได้ดอกไม้น้อย  เพราะจำนวนคนอ่านและจำนวนดอกไม้นั้นขึ้นกับอีกหลายปัจจัย... จริงไหมคะ  ;)


สวัสดีค่ะท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei

เห็นด้วยอย่างที่สุดและเชื่อในวลีที่ว่า  "ผลัดกันเขียน เวียนกันอ่าน วานกันชม" ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ ยายธี

ไม่กล้าคอมเม้นท์ต่อแล้วค่ะ...ฮาๆๆๆๆๆๆๆ

คิดถึงคุณยายธีค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณ พ.แจ่มจำรัส

ส่วนตัวชอบบันทึกหลายบันทึกของคุณ พ.แจ่มจำรัส ค่ะ

กำลังใจก็คงต้องได้จากคนอื่นรอบตัวบ้าง และสร้างเอาเองบ้าง... จริงไหมคะ

ขอบคุณค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณ ณัฐพนธ์

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ  :)

-สวัสดีครับ

-ตามมาบอกว่า "เห็นด้วย"ครับ

-การบันทึกไม่ได้มุ่งหวังผลรางวัลใด ๆ เพียงแต่ได้ความทรงจำดี ๆ และแบ่งปันความสุขให้กับผู้อ่านครับ

-เกี่ยวกับการวิเคราะห์บทความต่าง ๆ สำหรับผมแล้วไม่ถนัดน่ะครับ

-ส่วนใหญ่จะบันทึก"เพราะฉันเห็น.... ฉันทำ...... ฉันชอบ..... ฉันจึงบันทึก" 

-ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณหมอ ป.

อ่านคอมเม้นท์คุณหมอแล้ว นั่งอมยิ้มอยู่นานเลยค่ะ

ไม่ค่อยบ้ายอเท่าไร... แต่ชอบตรงนี้มากค่ะ  

"ลักษณะการเขียนแบบ 'ผู้ให้' เป็นเช่นนี้เอง คือ ประสานร้อยเรียงสิ่งที่เห็นจากผู้อื่น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น " 

โดนใจมาก เพราะเป็นความประสงค์ของตัวเองจริงๆ ด้วยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ  :)

สวัสดีค่ะพี่หมอ ภูสุภา

น้องเองก็ยังทำข้อนี้ไม่ค่อยได้ค่ะ หลายครั้งก็ยังหวงแหนเวลาที่จะทำสิ่งตัวเองอยากทำจริงๆ มากกว่า

และยิ่งหากยังไม่ได้อ่านบันทึกใด ก็จะไม่ค่อยอยากให้ดอกไม้ เพราะเหมือนเราไม่จริงจังจริงใจและให้เกียรติเจ้าของบันทึกนั้นค่ะ   :)


หยั่งรากในใจ  ผลิใบสวยงามค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ อักขณิช

คงจริงดังที่ว่าค่ะ ไม่งั้นคุณ อักขณิชจะได้รับรางวัลสุดคะนึงหรือ?

ขอบคุณค่ะ  :)

สวัสดีค่ะ 

สำหรับตัวเองแล้วเขียนเรื่องไม่เก่ง เขียนตามโจทย์ไม่ได้ดีสักครั้ง 

แต่อยากเขียน ...ชอบเขียนได้แต่สั้น ๆ สาระ มิค่อยมี เช่นกัน อิอิ

โลกส่วนตัวเยอะไปนิด 

น้อยมากที่จะแสดงความเห็น 

สมองไม่ค่อยเปิดเรื่องมีสาระ

ขอบคุณนะคะ ;)

เป็นบันทึกที่งดงามเรียบง่ายได้ใจความจริงๆค่ะ เห็นตัวตนของคนเขียน และย้อนไปจนถึงความอบอุ่นจากต้นแบบดีๆอย่างคุณแม่ของน้อง หยั่งราก ฝากใบ สมควรเป็นบันทึกแนะนำจริงๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ...เป็นการสะท้อนความเป็นสังคมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อย่างมีความเป็นกัลยาณมิตรของ gotoknow...สัมผัสด้วยตาและใจอย่างมีความสุขค่ะ...


ขอบคุณคะ วิเคราะห์ได้ชัดเจนคะ เปิดใจ เปิดหูเปิดตา เปิดสมอง      และการยอมรับในข้อแตกต่าง ๆ ของแต่ละคน สมาชิกG2K ที่มีแนวการเขียน การบันทึก ที่หลากหลาย ขึ้นกับประสบการณ์ ของแต่ละท่าน ที่นำมาแลกเปลี่ยน  เรียนรู้ร่วมกัน ให้ได้ศึกษา อ่าน นำไปใช้ประโยชน์   

เป็นบทความที่เยี่ยมจริง ๆ ค่ะ  มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับท่าน 

จะพยายาม เปิดให้ครบ ที้ง 5 ข้อ  และ เปิดรับ ให้มากค่ะ

ไม่มีสักกะเปิด เพราะเป็นลักปิดลักเปิด ครับ ;)...

บันทึกเยี่ยมครับ ;)...

สวัสดีค่ะคุณ เพชรน้ำหนึ่ง

เช่นเดียวกันค่ะ ส่วนตัวมักจะบันทึกเรื่องที่คิดเห็น เรื่องงาน ประสบการณ์ที่ทำ ต่อมาก็เริ่มคัดกรองสิ่งที่จะบันทึกและนำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ ค่อยๆคัดเรื่องราวที่น่าจะเป็นประโยชน์ทั้ืงกับชีวิตตัวเอง การทำงาน และคนอื่นๆ ค่ะ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะเขียน จะบันทึกอย่างไร ประโยชน์ย่อมเกิดมากน้อยแตกต่างกันไปอยู่แล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ  :)

เห็นด้วยทุกข้อนะคะ หลายๆอย่างคงต้องนำปฏิบัติด้วย ขอบคุณมากค่ะ

ทุกคนชื่นชมกับบันทึกนี้

..

วันนี้ผมจึงได้เข้ามายิ้มเป็นกำลังใจให้


 

ต้องรีบแจ้นเข้ามานะคะ เห็นด้วยตรงใจที่บอกได้ตรงกับ " ใจคนในบ้านนี้"  อิอิ  พี่เชียร์ๆๆ รองจาก อ. ขจิต และ อ. เสือ นะคะ ไม่เป็นโรคลักปิดลักเปิดค่ะเพราะ ทานอาหาร V. C (มีแซว ท่าน อิอิ) อยากเล่าอยากเขียนแต่ติดตรงที่ไม่เปิดเท่าไหร่และเกรงผู้รู้จริงค่ะ อ่านแล้วจะ งง  กับการเขียนไม่ถูกหลัก  แต่จะพยายามค่ะมาบันทึกบ่อยขึ้น  จ้าๆๆๆ


                        

สวัสดีค่ะคุณครู noktalay

ถือว่าได้รับคำชมจากกัลยาณมิตร... ขอบคุณค่ะ  :)

สวัสดีีค่ะพี่ หนูรี

ส่วนตัวก็พยายามจะไม่ค่อยเขียนเรื่องที่มีสาระมากนักค่ะ....อิอิ  หนักหัว ชอบเขียนเรื่องเบาๆ อ่านง่ายๆ สั้นๆ ในเรื่องราวที่พบและรู้สึกมากกว่า เพราะในชีวิตประจำวันต้องทำงานวิชาการ(เกินๆ) ที่แสนจะน่าเบื่อและเป็นแบบแผนเก่าๆ ค่ะ

บันทึกของพี่หนูรีเต็มไปด้วยสาระ ทั้งวิธีการทำอาหารและขนม รวมทั้งภาพสวยๆ ที่มีข้อคิดดีๆแฝงอยู่เสมอด้วยค่ะ  :)

ขอบคุณพี่โอ๋ โอ๋-อโณ มากค่ะ

อ่านคอมเม้นท์พี่โอ๋แล้วยิ้ม อ่านหลายรอบ ยิ่งอ่านยิ่งชอบ นานๆพี่โอ๋คอมเม้นท์ที ได้ปลื้มใจทุกทีค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ แม่คงปลื้มใจที่มีคนชื่นชมแม่ค่ะ :)

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ

พี่ใหญ่เป็นพี่ที่น่ารักน่าเคารพและเป็นต้นแบบของน้องๆ เสมอ

ขอบคุณค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณ ประกาย~natachoei ที่~natadee

สังคมโกทูโนว์ เป็นสังคมของกัลยาณมิตร ซึ่งหาได้ยากจากสังคมออนไลน์อื่นๆ ค่ะ

ส่วนตัวเรียกได้ว่า "เติบโต" กล้าคิดกล้าเขียน และได้ฝึกทักษะการสื่อสารทางตัวหนังสือกับคนอื่นจากที่นี่ด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ  ;)


ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะคุณครู อิงจันทร์  :)

สวัสดีค่ะ อ.Wasawat Deemarn

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่ะ

อย่าลืมทาน ส้ม สับปะรด มะขามป้อมบ้างนะคะ มีวิตะมินซีเยอะเลยค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณ แสงแห่งความดี

บันทึกนี้เกิดจากการสังเกตพฤติกรรมดีๆ ของบล็อกเกอร์ในโกทูโนว์ ดังนั้นเรามาชื่นชมและยกความดีของบันทึกนี้ (หากพึงมี) ให้แก่ท่านเหล่านั้นนะคะ

ขอบคุณสำหรับการเป็นกัลยาณมิตรที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงค่ะ  :)

สวัสดีค่ะพี่ krutoom

ยิ่งเขียนก็จะยิ่งมีทักษะค่ะ กลับไปอ่านบันทึกแรกๆ ของตัวเองแล้ว ก็ขำๆ ดีแต่มีกัลยาณมิตรหลายท่านที่คอยแก้ไข ให้คำแนะนำและช่วยติชมสร้างกำลังใจค่ะ

แม้ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะเขียนดีอะไร เพียงแต่มีความคุ้นเคย กล้าเขียนกล้าเล่า และระมัดระวังในการเขียนมากขึ้น

ขอบคุณ รออ่านบันทึกพี่เสมอค่ะ  :)

“เปิดใจ” คนที่เปิดใจยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นอย่างให้เกียรติและใช้คำสุภาพ แม้คิดต่างจากตนเอง ไม่เลือกว่าเป็นคนที่มีอาวุโสมากหรือน้อย มีความรู้ระดับไหน ก็ให้ความสำคัญกับความคิดเท่าเทียมกัน มักจะมีคนยินดีเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ข้อคิดเห็นดีๆ เสมอ  


ประโยคนี้เป็นประโยคที่ตรงใจผมมากนะครับ..

ชื่นชมที่สกัดออกมาได้ตรงมากค่ะ

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ยินดีที่จะอยู่ด้วยกันใกล้ชิดกัน เกื้อกูล รัก และแบ่งปัน สิ่งดีดี

ที่ทำให้คุณภาพชีวิตคนที่ได้รับ ดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย "ให้ความรักให้ความรู้คือที่สุดของการให้" โสตถิทัศน์_2534

"ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากความสุข ที่ได้ร่วมกันทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น" พระราชดำรัสแด่ข้าราชการ

"การให้ความรู้โดยที่ผู้รับไม่ต้องขอให้สอนแต่ยินดีเองที่จะให้ โดยสามารถอธิบายเรื่องราวขั้นตอนวิธีการต่างๆได้อย่างมีลำดับตั้งแต่ต้นจบจบ และผู้รับเข้าใจอย่างรู้แจ้ง(ปฏิเวธ)และนำไปใช้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆ วิบาก(กรรม,การกระทำ)จะส่งผลให้ ผู้สอนมีสมองที่ดีสามารถวิเคราะห์เรื่องต่างๆได้อย่างหลากหลายมุมมองและลงลึกขึ้นเรื่อยๆ" ดังตฤณ

ขอคัดบทความของหลวงพี่เพื่อนสนิทของผมเองครับ .....ท่านบวชเป็นพระและได้วิจาร์ณสิ่งดีดี ดังนี้ครับ

"คนเรามักจะไม่ค่อยยอมรับความผิดของตัวเองสักเท่าไหร่ใครเตือนก้อไม่ค่อยจะฟัง  เพราะว่าเขายังมีทิฏฐิอยู่   ฉะนั้นการอบรมพระนวกะของวัดนั้นจะใช้วิธีอบรมแบบเตือนว่ากันโดยชี้ขุมทรัพย์ให้กัน     นั่นคือในเมื่อเรารู้ข้อบกพร่องของอีกคนเราก็จะเตือนเขา    โดยแนะนำเขาว่ามีจุดบกพร่องข้อเสียอย่างไร    นั่นคือการชี้ขุมทรัพย์    โดยเราไม่ได้ไปจับผิดเขานะ    เราจะต้องจับดีและชี้ขุมทรัพย์ให้     ....

.....ความอดทนก้อเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะต้องรับแรงกดดันจากหลายๆฝ่ายที่มีปัญหา    แล้วนำปัญหานั้นมาให้เราได้แก้ทุกๆวันดังนั้นก้อไม่ต่างอะไรกับพระพุทธเจ้า    ที่ท่านทรงบำเพ็ญตบะมาอย่างยาวนาน20อสงไขยกับแสนมหากัป    และสามารถถ่ายถอดคำสอนต่างๆให้ผู้อื่นรู้ตามได้ ฉะนั้นการทำงานก้ออยากให้เราใช้หลักปฏิบัติเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้ามาใช้    ว่าท่านได้สอนอะไรอะไรควรอะไรไม่ควร    และนำมาปรับแก้    ในชีวิตประจำวันเราจะต้องใช้ธรรมะควบคู่ไปกับชีวิตประจำวัน  รวมไปถึงการทำงานด้วย    เพื่อให้อยู่ดำรงครองธรรมและฝึกสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบมีสมาธิแก้ไขปัญหาต่างๆในการทำงานได้    ฉะนั้นแล้วจงเตือนด้วยความนอบน้อม    ชี้ขุมทรัพย์อย่าจับผิดให้เราจับดีเขา.....

Visutthapho Phikku....

ขอให้มั่นใจและมุ่งมั่น เผยแผ่ เขียนเรื่องราว แลก เปลี่ยน Share กันต่อๆๆๆๆยอดกันไป  ....infinitity... ครับผม....

สวัสดีค่ะ...

มาชื่นชมบทวิเคราะห์ดีดีค่ะ เห็นด้วยกับ best practice เหล่านี้นะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

เข้าถึง

เข้าใจ

รู้สึกชื่นชมเจ้าของบันทึกค่ะกับบทวิเคราะห์นี้

ชื่นชมกับทุกบันทึกที่นำมาแบ่งปัน

น่าอ่าน จรรโลงใจ น่าติดตาม

ส่วนตัวแล้วก็โลกส่วนตัวสูงค่ะ คุยไม่เก่ง ขาดทักษะหลายอย่างในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จนบางครั้งรู้สึกเหมือนไม่ได้ให้อะไรกับโกทูโนว์นัก

เลยถือโอกาสเปิดใจด้วย...

ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ ลูกหมูเต้นระบำ

เมื่อจะทำสิ่งใด เรื่องใด ต้อง "เปิดใจ" ในเรื่องนั้นๆ ก่อน 

ส่วนตัวจำคำสอนของครูบาอาจารย์ ซึ่งส่วนมากเป็นพระสงฆ์่ในพุทธศาสนาว่าการทำให้สำเร็จ ต้องอาศัย "อิทธิบาทสี่" คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา (เริ่มด้วย ความรัก/ชอบ/ศรัึทธา มีความหมั่นเพียร ใส่ใจแก้ไข และค้นหาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง) และคงจะพอเทียบกันได้ว่า ฉันทะ ก็คือต้องเปิดใจก่อน มองหาข้อดีนั่นเองค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณ KMTEAMDCA Airport

ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อความดีๆที่กรุณานำมาแบ่งปัน ชอบทุกข้อความค่ะ  :)

ส่วนตัวมีประสบการณ์น้อยนิด แต่ชอบบันทึกไว้  สังเกตความเป็นไปเนื่องจากเป็นคนที่ค่อนข้าง "ปิด" จึงชอบ "เฝ้าดู" เรื่องราวต่างๆและได้รับประโยชน์ รวมทั้งได้รับความเมตตา เอื้อเฟื้อเมตตาชี้แนะจากกัลยาณมิตรหลายท่าน จึงตั้งใจในเวลาต่อมาว่า อยากแบ่งปันสิ่งที่ดีให้แก่คนอื่นด้วยค่ะ  :)

สวัสดีค่ะคุณ...ปริม ทัดบุปผา...

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่ะ  ;)

สวัสดีค่ะคุณ ถาวร

ดีใจที่ได้รับรู้การ "เปิดใจ" ค่ะ

แรกๆ ที่เป็นสมาชิกก็ขาดทักษะทุกอย่างค่ะ แต่ได้รับการแนะนำ ขัดเกลาจากกัลยาณมิตรในนี้

ดังที่ท่าน วอญ่า กล่าวไว้ค่ะ  "ผลัดกันเขียน  เวียนกันอ่าน วานกันชม" ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ  :)

ชอบตรงนี้ที่สุดเลยค่ะ  มีความเป็นคนไทยชัดเจนเลยค่ะ

“เปิดหูเปิดตา”  การหมั่นไปทักทาย ให้ความเห็น ซักถาม และอ่านบันทึกของผู้อื่น รวมทั้งหมั่นให้ดอกไม้เป็นกำลังใจกับคนอื่นอย่างสม่ำเสมอจะมีคนมาทักทายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย  เพราะธรรมชาติของคน เมื่อมีคนให้ความสนใจ มาทักททาย ย่อมอยากตอบแทนด้วยการไปเยี่ยม ไปอ่าน ไปรู้จัก และไปพูดคุยกับคนนั้นๆ ดังคำพระที่ว่า "ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง"

สวัสดีค่ะคุณ ครูมุก

ขอบคุณที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจค่ะ  :)

ตามมาเพลิดเพลินกับการต่อยอดใน comment ของทุกท่านค่ะ

ขอบคุณมากมายค่ะ

ใช่เลย! 

แต่ว่า .. โอ้โห ดิฉันอ่านนาน.น.น.. กว่าจะจบแล้ว  

กว่าจะหา 'เพิ่มความคิดเห็น' ได้ นาน..น..น..จัง

สวัสดีค่ะพี่ ดารนี ชัยอิทธิพร

ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะที่บันทึกนี้ยาวและทำให้ต้องเสียเวลาอ่าน

ต่อไปจะพยายามเขียนให้สั้นกระชับกว่านี้ หากทำได้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ  

สวัสดีค่ะ

         แวะมาเยี่ยม มาอ่าน เนื่องจากวันนี้พอมีเวลาบ้าง  โดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะว่าง และมีเวลา จึงไม่ค่อยได้ไปอ่าน และตอบบันทึกช้าน่ะค่ะ ...ขอบคุณสำหรับสาระดีๆค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ สายนที"๑๙

ขอบคุณที่แวะมาอ่านและให้ข้อคิดเห็นไว้ค่ะ   :)

เป็นกำลังใจให้นะคะ

อ่านทั้งบันทึกต้นเรื่อง และความเห็นเพิ่มเติมจากทุกท่านแล้วทำให้สมาชิกใหม่อย่างผม ตาใส ใจชื่น ขึ้นเยอะครับ

ผมนึกถึงคำคำหนึ่งให้แก่g2k "ชมรมคนอวดดี" ที่นี่มีคนดีเอาดีมาอวดกัน

สวัสดีค่ะท่าน Yanyong-P

วันนี้บังเอิญได้มาเห็นว่ามีคอมเม้นท์ที่ยังไม่ได้ตอบ

ขออภัยด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท