นสพ. เดอะ เนชั่น วันที่ ๙ กย. ๔๙ ลงข่าวหน้า ๒ เรื่องเจ้าของรถแทกซี่กว่า ๑๐๐ คันเข้าร้องเรียนต่อ สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) ว่าโดน SME Bank กับบริษัทแห่งหนึ่งร่วมกันโฆษณาและชักชวนให้เจ้าของรถแทกซี่ซื้ออุปกรณ์ ๓ ชิ้นติดรถ เป็นเงินผ่อนรวมดอกเบี้ย ๖๐,๓๐๐ บาทใน ๕ ปี โดยบอกว่าจะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง มีตัวเลขให้เสร็จ ซื้อเมื่อปี ๒๕๔๖ บัดนี้ พบว่าเจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวไม่ให้ผลประโยชน์ใดๆ เลย เจ้าของรถจึงมาร้องเรียนเชิงเปิดโปง
ถ้าข่าวนี้เป็นจริง ผมมองว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในสังคมไทย ในโครงการขนาดใหญ่จำนวนไม่น้อย ที่อ้างว่าทำเพื่อชาวบ้านหรือประชาชน แล้วในที่สุดก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นการหลอกลวงหาทางเอาเงินเข้ากระเป๋าตนเองหรือพวกพ้อง น่าจะมีคนทำวิจัยย้อนหลังเอามาให้ความรู้แก่สังคม นี่คือโจทย์วิจัยที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งสำหรับ Investigative Journalism เท่าที่ผมนึกออกก็วัวพลาสติกอย่างหนึ่งละ กล้ายางพาราก็อีกโครงการหนึ่ง
ใครมีโจทย์วิจัยแบบนี้อีกกรุณาช่วยกันเอามาลงไว้ด้วยนะครับ
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสังคมไทย ทั้งที่เป็นการหลอกลวงใหญ่และหลอกลวงเล็ก ส่วนใหญ่ผู้ทำจะร่วมมือกันคิดทางหนีทีไล่ไว้เป็นอย่างดีแล้ว ที่จะไม่ให้มาตรการทางกฎหมายเอาผิดได้ จึงต้องช่วยกันใช้มาตรการทางสังคม และมาตรการทางวิชาการ ทางสื่อเข้าร่วมด้วย ต้องร่วมด้วยช่วยกันครับ
ที่จริงสังคมไทยน่าจะมีองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม ที่จะช่วยป้องกันการถูกต้มแบบนี้ ยึดหลัก "กันไว้ดีกว่าแก้" ให้ผู้ที่สงสัยว่าคำชักชวนชาวบ้านทั่วไปในการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงอะไรบ้าง ที่จริงทำเป็นโครงการทดลองก็น่าจะได้ เป็น pilot development project ผลที่ได้จะเป็นทั้งผลการให้คำแนะนำช่วยเหลือ ได้ข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปในสังคม และได้ข้อสรุปว่าสังคมควรมีหน่วยงานทำหน้าที่นี้อย่างไร สคบ. จะทำหน้าที่นี้ได้ไหม หรือควรมีหน่วยงานแบบ NGO มาทำหน้าที่ หรือสื่อมวลชนยักษ์ใหญ่อาจมีส่วนงานช่วยเหลือสังคมในแนวนี้ เพราะมันก็คล้ายๆ จะเป็น investigative journalism แบบหนึ่งด้วย
มองในแง่ตัวเราเอง เมื่อไรก็ตามมีคนหรือหน่วยงาน หรือนักการเมืองมาชวนลงทุน หว่านล้อมด้วยผลประโยชน์ที่เย้ายวนชวนฝันก็น่าจะต้องระวังให้จงหนัก ต้องท่องกาลามสูตร สัก ๑๐๐ จบ และสืบหาข้อมูลหรือปรึกษาผู้รู้ที่เชื่อถือได้เสียก่อน อย่าเชื่อข้อมูลของผู้ที่จะเอาประโยชน์จากเราเป็นอันขาด
ผมมีชีวิตที่พอเพียงมาได้จนปูนนี้ก็เพราะยึดถือกาลามสูตรนี่แหละครับ
ถ้าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง ผมก็ขอโทษ SME Bank ไว้ด้วยนะครับ ที่ยกเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์เรียนรู้เตือนใจ
วิจารณ์ พานิช
๙ กย. ๔๙