นางมารสวมปราด้า (The Devil Wears Prada) เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมดูนานมาแล้วนานมาก หนังเรื่องนี้เข้าตั้งแต่ปี 2549 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเริ่มทำงานได้ประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา ผมมองหนังเรื่องนี้ในตอนนั้นจบใหม่ๆ อารมณ์ผมมองนาย (เจ้านาย)เป็นคล้ายๆ "จอมบงการ" หรือความคิดต่างๆ นานาแต่ด้วยเขาเหล่านั้นที่ผมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จึงสามารถทำมาหาเลี้ยงชีพตัวเองผมได้ทุกวันนี้ และเรื่องนี้ผมเองได้เขียนมานานแต่ผมทำหายไปไหนไม่รู้ ผมจึงดูอีกรอบในวันหยุดและผมจึงมาย้อนดูตัวเองอักสักครั้ง ครั้งนี้ประสบการณ์ในการมองผมเปลี่ยนไปมากๆครับ มีคนบอกว่าอารมณ์ ความคิดของคนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ผมพิสูจน์แล้วว่า "เป็นเรื่องจริง" และดูหนังเรื่องนี้อีกทีครับ หากใครยังดูช่วงนั้น และยังจำเพลง suddenly I can see คำแปลที่ผมลองแปล ชื่อเพลง : ต้องอย่างนี้เลย/ทันทีเลย เพลงนี้มันบอกอารมณ์หนังและตัวเอกต่างๆของเรื่อง ลองฟังนิดนึงนะครับแล้วจะได้อารมณ์ที่ทุกอย่างเร่ง เอาแบบนี้ ใช่เลย ถูกต้อง เอาทันที .......
ประโยคเด็ดจาก นางมารสวมปราด้า...
"แค่นี่แหละ" ?????
มิแรนด้า พรีสท์ลี่ นายหญิงของทุกคนในนิตยสาร run way ชอบพูดเป็นเพียงประโยคสั้น แต่ก็เป็นอันรู้ดีว่านายหญิงของเราเริ่มไม่พอใจ ผสมเบ้ปากเล็กน้อยนี่แปลว่า ผลงานที่ออกมานั้นห่วยสุดๆไปเลย
ขยำรวมผสมเรื่องย่อ
แอนเดรีย แซคส์ เป็นเหมือนนักศึกษาจบใหม่ทั่วไป ที่ต้องออกตระเวนสมัครงานไปตามที่ต่างๆ เนื่องจากแอนเดรียมีความฝันอยากทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ เธอจึงส่งจดหมายสมัครงานไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ หลายแห่ง แต่โชคร้ายที่ไม่มีแห่งใดตอบรับเธอกลับมาเลย
วันหนึ่ง แอนเดรียก็ได้รับแจ้งเรียกตัวเข้ารับการสอบสัมภาษณ์จากยักษ์ใหญ๋ อีเลียส คลาร์กส ซึ่งเป็นเจ้าของนิตยสารและวารสารขายดีหลายฉบับ แอนเดรียตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเธอไปถึง ก็ได้พบว่างานที่ถูกเรียกมาสัมภาษณ์นั้น เป็นตำแหน่งงานผู้ช่วยของมิแรนด้า พรีสท์ลี่ บรรณาธิการบริหารของนิตยสารแฟชั่นอันดับ 1 อย่างรันเวย์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นตำแหน่งที่หญิงสาวนับล้านคนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา แอนเดรียซึ่งไม่เคยสนใจในเรื่องแฟชั่นมาก่อน ถึงกับหมดหวังที่จะผ่านการสอบสัมภาษณ์ แต่ทว่าความแตกต่าง ไม่เหมือนใครของเธอ กลับทำให้มิแรนด้าสนใจ และตกลงรับเธอเข้าทำงาน
แอนเดรียดีใจที่ได้งาน แต่แล้วเธอก็ได้รู้ว่าฝันร้ายเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น เมื่อตำแหน่งงานผู้ช่วยนี้ ทำให้เธอแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตนเอง นอกจากนี้เธอยังต้องคอยทำงานทุกอย่างที่มิแรนด้าส่งมาให้ ไม่ว่างานนั้นจะเกี่ยวกับงาน หรือเรื่องส่วนตัวของมิแรนด้า
อย่างไรก็ตาม แอนเดรียได้เรียนรู้ว่า การทำงานในวงการแฟชั่นนั้น แม้ภายนอกจะดูสวยงาม เลิศหรู แต่เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ กลุ่มคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ล้วนแต่ต้องใช้ความพยายาม และความทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับออกมา ความร้ายกาจ ความเข้มงวด ความจุกจิกจู้จี้ และเอาแต่ใจจนดูเหมือนไร้เหตุผลของมิแรนด้า กลับเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้นิตยสารอย่างรันเวย์ ยังคงครองความนิยมเป็นอันดับ 1 อยู่ได้
แต่แอนเดรียจะทำอย่างไร เมื่องานในวงการแฟชั่น ไม่ได้ต้องการแค่คนตั้งใจทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีทั้งความทุ่มเท และจิตใจที่มุ่งมั่นและรักในงานแฟชั่นอย่างจริงจัง
ตัวละครของเรื่องบอกเรื่องราว
แอนเดรีย แซคส์ - รับบทโดยแอนน์ แฮททาเวย์ หญิงสาวจบใหม่ไฟแรงมุ่งมั่น สมัครงานหลายที่ท้ายสุดมาได้เป็นผู้ช่วยมิรันด้า เจ้าแม่วงการแฟชั่นอีกนัยหนึ่งก็เป็นนางมากแห่งวงการแฟชั่น ผู้ที่จู้จี้ขี้บ่น เอาแต่ใจอย่างสุดชีวิต แต่แอนเดรีย หรือ ที่มิรันด้ามักเรียกผู้ช่วยว่า เอมิลี่ที่คล้ายคนรับใช้ ถึงเวลาปรับตัวขนาดใหญ่จากชีวิตธรรมดา สู่สาวแฟชั่นบ้างาน ใส่ชุดสวยๆ เฉิดฉายไปในงานแฟชั่น มีผู้ชายรุมล้อม แต่ท้ายสุดชีวิตรักเริ่มล้มเหลว แอนเดรียเองจึงมาคิดไตร่ตรองใหม่
มิแรนด้า พรีสท์ลี่ - รับบทโดย เมอรีล สตรีป แม่นายของเหล่าลูกน้อง ผู้ทรหดบ้างาน ละเอียดยิบทุกกระบวนการ แม้เรื่องส่วนตัว ประโยคเด็ดคือ แค่นี้แหละ ที่แปลว่าพอแล้วทำเลย หรือ ทุกอย่างจบ แต่เชื่อใหมเจ้าแม่วงการแฟชั่นเบื้องหลังความสวยงามทันสมัย เธอร้องไห้ทุกคืน เพราะปัญหาครอบครัวที่แต่งและเลิกอยู่เป็นประจำ ประโยคหนึ่งที่เธอกับแอนเดรียเหมือนไนเจลพูดคือ ชีวิตความรักล่วงหรือยัง ครอบครัวล่มสลายหรือยัง นั่นแหละเป็นสัยญาณว่าเธอจะเจริญก้าวหน้า แต่ท้ายสุดมิรันด้ายังคงยืนภายใต้สายผู้คนยิ้มตลอดเวลาเมื่อเข้าสังคม
เอมิลี่ ชาร์ลสตัน - รับบทโดย อมิลี่ บลันท์ เลขาเบอร์ 1 ที่มุ่งมั่นทะเยอทะยาน การแต่งตัวต้องมาเป็นที่ 1 การแต่งตัวห่วยเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เพื่อไปงานประจำปีที่ฝรั่งเศสยอมอดข้าว อดอาหาร เพราะเธอบอกว่าถ้าได้ไปสิ่งนี้จะเป็นการกรุยทางไปงานอื่นๆ แต่ท้ายสุดทุกอย่างพับ เมื่อเธอโดนรถชนกระจุย 555
ไนเจล - รับบทโดย สแตนลีย์ ทุชชี ไนเจลผู้ชายแสนวิเศษแห่งนิตยสารคนที่มิรันด้า ให้ความไว้ใจ จากประวัติไนเจลเขาบอกว่า พ่อแม่ฉันบังคับฉันซ้อมบอล แต่เธอเชื่อไหมกลางดึก พี่น้องผู้ชาย 2 คนแอบอ่านนิตสารแฟชั่น เพราะนี่คือความฝันของฉัน ฉันรู้ว่ามาที่นี่เพราะอะไร นี่ความมุ่งมั่นที่แรงกล้าและการที่เขาอยากจะเป็นของไนเจล แต่เมื่อผิดหวังไนเจล บอกว่า "ทุกคนต้องชดใช้ให้ฉัน"
เราคล้ายหนังเรื่องนางมารสวมปราด้าไหม!!! คนที่โชคดีบอกผมว่าไม่คล้ายนะเราสบายๆๆ แต่บางคนบอกผมว่าเรื่องนี้ตรงเลยกับชีวิตที่เป็นอยู่การทำงานทุกวันนี้ โดนจิกๆๆ ไปเรื่อยๆๆ แล้วผมเองก็ดูละครมองย้อนดูตัวเอง สมมุติว่า กรุงเทพนี่เป็นนิวยอร์ก เจ้านายใครบางคนเป็นมิรันด้า ผมหรือคุณที่เป็น แอนเดรีย และเพื่อนของเราที่เป็นเช่นไนเจล หรือคนอื่นๆ มันคล้ายนะครับ เหมือนชีวิตกระโดดจากจอหนังมาชีวิตจริง แต่อยากจะบอกว่าคนเรานะครับ ท้ายก่อนจบหนังมันสอนผม การที่เราทำอะไรคงต้องเลือกจากใจที่อยากทำจริงๆ แม้เวลาแค่ปีเดียวที่ใครก็ตามผ่าน run way ไปได้แปลว่าได้งานทุกที่ แต่แอนเดรียใกล้แล้วแท้ๆ ก็ไม่เอา เพราะเขาเลือกตัวเขาไม่หลงลืมตัวเขา และไปอยู่กับสิ่งที่เขารัก เอาเป็นว่าอนาคตอยู่ที่ตัวเราการก้าวไปข้างหน้าก็อยู่ที่ตัวเรา เพียงเรายังมั่นคง ตัวอย่างการเปลี่ยนงานของผมบางครั้งผมกลัวนั่น กลัวนี่ ทุกครั้งผมจะหยิบหนังเรื่องนี้มาดูและสอนผมทุกครั้งครับ
และอีกมมุมของหนังที่ได้สอดแทรกไปทุกเรื่องคือ การที่เราเรียนรู้เหมือนแอนเดรียเอง ที่เรียนรู้จากมิรันด้าอย่างไม่รู้ตัว อุปสรรคหรือการทำงานต่างๆที่ถาโหมเหมือนพายุฝนเข้ามาแอนเดรียเองก็ไม่หวั่น แต่เขาเองท้ายสุดเลือกเก็บการเรียนรู้จากการทำงานและมองข้ามจุดที่คิดว่ามันไม่ใช่ แล้วก้าวสู่ความเป็นจริง ท้ายสุดของเรื่อง ผมประทับใจ...ที่นี่ทำงานใหม่ของแอนเดรียได้สอบถามประวัติจากที่ทำงานเดิม ปรากฏว่าผู้รับสายคือมิรันด้า และมิร้นด้าเอง??? ก็ได้รับรองแอนเดรียเสียดิบดี...อย่างน้อยความท้าทายหรือการสร้างการยอมรับให้บุคคลหนึ่งยอมรับในตัวเราได้และเรายังมุ่งมั่นย่อมเป็นสิ่งดีครับ... หากแต่เมื่อผมเป็นเด็กตอนนั้นผมก็อาจไม่รู้สึกแบบนี้ ดูแล้วก็อดหัวเราะตัวเองสมัยเด็กๆนั่นไม่ได้เลย....
ท้ายนี้ผมขอจบด้วยตอนเด็ดของหนัง : You Think This Has Nothing to do with you..... ผมลองแปลเอานะครับ ภาษาผมไม่เก่งเลย "ในตอนหนึ่งที่มิรันด้ากำลังบอกเลือกเสื้อผ้าเพื่อลงปกแฟชั้นนั้น ได้เลือกเข็มขัดเทอร์ค้อยมา 2 เส้น สีฟ้าเช่นกัน และแอนเดรียได้หัวเราะ แต่นั้นเองจึงเป็นประโยคดังกล่าว คุณอาจไม่รู้ด้วยซ้ำไปมีคนคิดให้คุณ/ทำให้คุณ และยกตัวตัวอย่างเสื้อสีฟ้าที่เธอใส่มาจากจากนักออกแบบหรือดีไซเนอร์ทั้งนั้น และสร้างรายได้มหาศาล ในวงการแฟชั้นและการจ้างงาน เป็นต้น
เขียนเล่า และวิเคราะห์สนุกและละเอียด อ่านเพลินเชียวค่ะ
อยากอ่านเรื่อง Incredibly loud incredibly close(ไม่รู้จำชื่อผิดไปบ้างหรือเปล่า)
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ภูสุภา ขอบคุณมากครับอาจารย์ที่มาเยี่ยมชมครับ หากผมได้ดูจะเขียนในบันทึกและมาเล่าแบ่งปันครับอาจารย์