KM เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมี
สกว. ฝ่ายสวัสดิภาพสาธารณะ ให้ทุนวิจัยเรื่อง “การจัดการความรู้เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมี” โดยมี รศ. ดร. วราพรรณ ด่านอุตรา สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาฯ เป็นหัวหน้าโครงการ ระยะเวลาตั้งแต่ ก.ค.45 – พ.ค.48
โครงการนี้ระบุวัตถุประสงค์ดังนี้ “ทำหน้าที่เป็นหน่วยจัดการความรู้ (knowledge platform) เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมี โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. ประสานข้อมูลสารเคมีเพื่อสร้างความรู้และสมรรถนะของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
2. ให้ข้อความรู้เกี่ยวกับสารเคมีและความปลอดภัยแก่สังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความตระหนักและการพึ่งพาตนเอง
3. บริหารข้อมูลและความรู้เพื่อใช้ในการตอบคำถามเฉพาะหน้าและเพื่อการตัดสินใจ
4. สังเคราะห์ความรู้เพื่อเสนอแนะทางนโยบาย”
รศ. สุชาตา ชินะจิตร ผอ.ฝ่ายสวัสดิภาพสาธารณะของ สกว. คงจะเห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
การจัดการความรู้ จึงส่งรายงานผลการวิจัยมาให้ผมช่วยประเมิน โดยมีโจทย์ของการประเมินว่า “หน่วยจัดการความรู้เรื่อง ‘ความปลอดภัยด้านสารเคมี’ เป็นกลไกสะสมความรู้และกลุ่มนักวิจัยไว้ล่วงหน้าเพื่อให้สามารถตอบคำถามของสังคมได้ทันเวลาที่ต้องการได้แล้วหรือไม่ หรือควรมีการปรับปรุงกระบวนการวิจัยในส่วนใดบ้าง”
ผมเป็นคนประเภท “คนแก่หัวดื้อ” ไม่ค่อยชอบตอบโจทย์ประเภทที่อยู่ในรูปแบบ ชอบแต่โจทย์นอกรูปแบบ จึงชอบใจมากที่คำถามประโยคสุดท้าย “ควรมีการปรับปรุงกระบวนการในส่วนใดบ้าง”
ที่จริงพลิก ๆ ดูเอกสารรายงานซึ่งมีความหนากว่าครึ่งฟุตแล้ว โครงการนี้ได้ทำงานวิจัยและพัฒนาสร้างระบบความปลอดภัยด้านสารเคมีอย่างน่าชื่นชมมาก เป็นงานเชิงพัฒนาระบบ พัฒนาความคิดด้านการปฏิบัติในกระบวนทัศน์ใหม่ที่มองเรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมีว่าจะเกิดขึ้นได้ จะต้องมีการดำเนินการร่วมมือกันเป็นเครือข่ายของหน่วยงานหลายหน่วยงาน ไม่ใช่แยกกันทำเป็นส่วนๆ ผมไม่ได้ค้นลงดูในรายละเอียดของส่วนนี้ที่จะให้ข้อสังเกตได้ ผมเดาว่าน่าจะทำได้ดีและถ้าจะประเมินส่วนนี้ น่าจะหาคนที่มีความรู้เชิงเทคนิคมาเป็นผู้ประเมิน ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะประเมินได้ เพราะไม่มีความรู้
แต่ผมจะให้ข้อสังเกตในภาพใหญ่ โดยเฉพาะประเด็นด้าน “การจัดการความรู้”
การจัดการความรู้เป็นกิจกรรมของ “คุณกิจ” ซึ่งในกรณีของการจัดการความรู้เรื่องความปลอดภัยของสารเคมี “คุณกิจ” คือคนในหน่วยงานที่เป็นผู้ควบคุมการนำเข้า การขนส่ง การจัดเก็บ และการใช้สารเคมีอันตราย คนในหน่วยงานที่เป็นผู้ใช้สารเคมีอันตราย และคนที่เป็นผู้อาจได้รับอันตรายจากสารเคมี คนเหล่านี้คือ “คุณกิจ” ผู้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมี
การจัดการความรู้เพื่อความปลอดภัยด้านสารเคมี เป็นเรื่องที่ “คุณกิจ” ร่วมกันสร้างความรู้ขึ้นใช้ และเมื่อใช้ความรู้นั้นแล้วก็นำความรู้จากประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และร่วมกันดูดซับความรู้จากภายนอกมาทดลองปรับใช้
ผู้ดำเนินการวิจัยน่าจะทำหน้าที่ “คุณอำนวย” ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการจัดการความรู้โดย“คุณกิจ”
ถ้าดำเนินการ KM ตามที่ผมเล่าข้างบน จะเป็น KM ที่เน้น demand – side
แต่พิเคราะห์ตามรายงานที่ดำเนินการไปแล้ว การจัดการความรู้เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมีดูจะเน้นที่ supply – side นักวิจัยเป็นผู้ดำเนินการหลัก
ใน phase แรก เป็น supply – side KM สัก 80 – 90% ก็คงไม่ผิด แต่ถ้าจะดำเนินการต่อเป็น phase ที่ 2 ส่วนที่เป็น supply – side KM น่าจะเหลือสัก 20 – 30% ให้เป็น demand – side KM สัก 70 – 80% น่าจะเหมาะสม นั่นคือใน phase ที่ 2 (ถ้าจะมี) ควรมีการออกแบบ KM ใหม่ เริ่มด้วยตลาดนัดความรู้ด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เล่าเรื่อง (storytelling) ความสำเร็จของ “คุณกิจ” ในหน่วยงานต่าง ๆ และสกัด “ขุมความรู้” ในการจัดการระบบความปลอดภัยจากสารเคมี เอามาใช้คิดวางระบบจัดการความรู้แบบใหม่ที่ “คุณกิจ” ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ดำเนินการหลัก นักวิจัยทำหน้าที่ “คุณอำนวย”
ถ้าจะดำเนินการเช่นนี้ สคส. ยินดีช่วยเป็นวิทยากรและให้คำแนะนำในการจัดตลาดนัดความรู้ โดยที่ฝ่ายสวัสดิภาพสาธารณะของ สกว. ต้องเป็นผู้จัดตลาดนัด ซึ่งจะต้องมีการเตรียมการต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ใช้เวลาเตรียมการณ์ประมาณ 2 เดือน ทาง สคส. จะมีคุณอุรพิณ ชูเกาะทวด เป็นวิทยากรหลัก ผมเป็นกองหนุน
วิจารณ์ พานิช
27 มิ.ย.48
ขออภัยค่ะ อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเป้าหมายของโครงการนี้ เพราะใช้คำผิด โครงการนี้ยังไม่ได้ใช้ KM แต่ต้องการเห็นรูปแบบของการจัดทำฐานความรู้ (knowledge platform) ว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ของ platform หรือยัง คือการสร้างความรู้พื้นฐานที่จำเป็น สามารถตอบคำถามได้เมือต้องการ สร้างความสามารถกับคนกลุ่มเทคนิคที่ทำเรื่องนี้ พร้อมกับการสื่อสารสู่สาธารณะ การมองภาพรวมนี้จะได้เป็นแนวทางของการทำให้เกิด platform อื่นๆตามมา
อยากทราบชื่อวิทยาศาสตร์ของวาสลีนค่ะ
ใครรู้ช่วยบอกหน่อยน่ะค่ะ
ต้องการไปทำรายงาน ด่วน ค่ะ