เกือบ 1 เดือนที่ไปเรียนรู้งานห้องบัตร เป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าที่ได้มีโอกาสเติมเต็มบางอย่างที่ขาดหายไปอย่างไม่น่าเชื่อว่าช่วงเวลาสั้นๆได้ให้อะไรที่มากมาย อย่างน้อยก็รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป เช่น อคติเดิมๆด้านการจัดการบุคลากร เมื่อก่อนดิฉันเองก็ไม่ได้แตกต่างกับคนส่วนใหญ่ที่มักจมอยู่กับปัญหา จนมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองทำอยู่ทุกๆวัน ดิฉันได้ฝึกร่วมเรียนรู้โดยไม่ตัดสิน พยายามให้ตัวเราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนระบบ ถ้าสมัยที่ดิฉันเป็นนักศึกษาฝึกงานได้มีโอกาสแบบนี้ ดิฉันคงไม่ต้องผ่านช่วงชีวิตที่เก็บกดจากการเรียนและการทำงานยาวนานขนาดนี้ ดิฉันได้เข้าใจคำว่า "เข้าถึง" "เอื้อโอกาส" และได้ทบทวนเกี่ยวกับ "คุณค่าของการทำงาน" บางครั้งการปล่อยให้ตัวเองทำงานซ้ำซากจำเจมันก็สร้างให้เราเป็นคนซ้ำซากจำเจน่าเบื่อไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราควรเติมคุณค่าใหม่ให้กับชีวิตเราทุกๆวัน
สิ่งหนึ่งที่เติมคุณค่าที่ขาดหายให้ดิฉันคือการบริการคนไข้ เนื่องจากปัจจุบันงานของดิฉันจะไม่ได้บริการคนไข้โดยตรง ซึ่งมักจะทำให้ Low Bat.ได้ง่าย แต่งานบริการคนไข้ เป็นDirect Service ให้ด้วยใจก็รู้ได้ด้วยใจ(คนอื่นอาจไม่รู้) เป็นการชาร์ทแบตตัวเองไปในตัวตลอดเวลา (ยิ่งให้ ยิ่งได้) ฉะนั้นผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการบริการคนไข้โดยตรงอยู่แล้วไม่ควรพลาดโอกาสในการเก็บเกี่ยวคุณค่านั้น ซึ่งไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อตัวคุณเอง
เป็นบุญของคนไข้น่ะ ที่ปิ่งมีคนหัวใจบริการต่อคนไข้ความเจ็บป่วยของเขาคงดีขึ้นทั้งทางกายและทางใจ
อย่างน้อยๆ ก็ได้รับบริการที่ดี เจ้าหน้าที่มีความเอื้ออาทร ต่อเขา ปิ่งจะเป็นแบบอย่างที่ดีของน้องๆ ต่อไป
เมตตาธรรม ค้ำจุ้นโลก
พี่อ้อมขออนุโมทนาด้วยด้วยน่ะ เพราะได้ทำบุญทุกเช้าเลย ที่ช่วยสงเคราะห์ผู้ป่วยให้ได้รับความสะดวกสบายเมื่อมารับบริการ
ปัจจัยแห่งชัยชนะ
องค์กรสามารถมองเห็นชัยอยู่เบื้องหน้าจากห้าวิถีทาง
เมื่อเห็นว่าเมื่อใดควรรุกและไม่ควรรุก ย่ิอมมีชัย
รู้ว่าควรใช้ทรัพยากรมากน้อยเพียงใด ย่อมมีชัย
ตอบรับวัตถุประสงค์ของผู้น้อยและผู้ใหญ่ ย่อมมีชัย
นอนรอและเตรียมพร้อมที่จะกระหน่ำคู่แข่งเมื่อคู่แข่งหลวมตัว ย่อมมีชัย
สามารถนำโดยปราศจากการก้าวก่ายอย่างขาดระบบย่อมมีชัย
ผู้รู้วิถีทั้งห้า รวมถึงหลักธรรมะ คือ ผู้ชนะ
จึงกล่าวกันว่า
"รู้เขารู้เรา รุกได้ร้อยครั้ง ไม่เป็นอันตราย
ไม่รู้เขาแต่รู้เรา แพ้ชนะเท่ากัน
ไม่รู้ทั้งเขาทั้งเรา สู้อย่างไรย่อมปราชัยแน่นอน"
ซุนวู สู่ยุทธศิลป์การแก้ไขปัญหา
........................................................
ผมนำมาฝากให้กำลังใจคนทำงานครับ
พี่ปิ่งเขียนได้จับใจมากครับ เมื่อเราตกอยู่ปัญหาเดิมๆ ที่แก้ไม่ได้ มันเหมือนกับมีค้อนมาตอกย้ำความไม่เอาไหนของเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คนภายนอกอาจไม่ทราบว่าในหน่วยงานพยายามทำอย่างไร
ปล. ชอบที่สหายจตุพรนำมาให้อ่านมากเลย
มาเสริมต่อความคิดครับ