กระทรวงแรงงาน ได้ออกกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานที่รับไปทำที่บ้าน พ.ศ.2547 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ กันยายน 2547
ผู้รับงานไปทำที่บ้านคือ
1. งานที่ลูกจ้างรับจากนายจ้างไปผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม หรือแปรรูปสิ่งของ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับค่าจ้าง
2. การทำงานจะต้องเป็นการทำงานในบ้านของลูกจ้างเอง หรือเป็นสถานที่อื่นจะต้องไม่ใช่สถานประกอบกิจการของนายจ้าง
3. วัตถุดิบหรืออุปกรณ์ในการผลิตจะต้องเป็นของนายจ้างทั้งหมดหรือบางส่วน
4. เมื่อทำงานเสร็จแล้วต้องส่งมอบคืนแก่นายจ้างไม่ใช่ลูกจ้างขายเอง
ข้อกำหนดตามกฎกระทรวง
1. ในการส่งมอบงานให้ลูกจ้างทำจะต้องแจ้งให้พนักงานตรวจแรงงานทราบ
2. นายจ้างจะต้องทำสัญญาจ้างเป็นหนังสือมีข้อความตรงกัน 2 ฉบับ มอบให้ลูกจ้าง 1 ฉบับ ซึ่งสัญญานี้นายจ้างจะต้องพร้อมให้พนักงานตรวจแรงงานแห่งท้องที่ตรวจสอบได้ โดยในสัญญาจะต้องระบุรายการ ดังนี้
2.1. วันและสถานที่ที่ทำสัญญา
2.2. ชื่อตัว ชื่อสกุล อายุ ที่อยู่ของนายจ้างและลูกจ้าง
2.3. ที่ตั้งสถานประกอบกิจการของนายจ้างและสถานที่ทำงานของลูกจ้าง
2.4. ประเภท ลักษณะและสภาพของงาน และสภาพของงานที่ส่งมอบให้ลูกจ้าง
2.5. วันและสถานที่ที่นายจ้างส่งมอบงานให้แก่ลูกจ้าง
2.6. อัตราค่าจ้าง
2.7. วันและสถานที่ที่นายจ้างรับมอบงานจากลูกจ้าง
2.8. วันและสถานที่จ่ายค่าจ้าง
3. การจ่ายค่าจ้าง นายจ้างต้องจ่ายให้ถูกต้องตามอัตราที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจ้าง (ไม่เกี่ยวข้องกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ) และต้องจ่ายให้ลูกจ้างภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ลูกจ้างส่งมอบงาน
4. ความปลอดภัยในการทำงาน
4.1. ห้ามนายจ้างส่งมอบงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย และความปลอดภัยให้ลูกจ้างทำ ในงานผลิต ประกอบ แปรรูปวัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ (งานทำพลุ งานทำดอกไม้เพลิง) งานผลิตหรือบรรจุสารเคมีที่เป็นอันตรายหรือวัตถุมีพิษ เช่น สารไซยาไนต์ สารก่อมะเร็ง เป็นต้น
4.2. ให้นายจ้างจัดให้มีเครื่องมือ หรืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน และกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน
5. กรณีที่ลูกจ้างถูกเลิกจ้างและนายจ้างไม่จ่ายค่าชดเชย หรือกรณีอื่นนอกจากค่าชดเชยลูกจ้างสามารถยื่นคำขอรับเงินสงเคราะห์ตามที่คณะกรรมการกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างกำหนด
6. กรณีที่นายจ้างฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ลูกจ้างสามารถยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานในท้องที่ที่ลูกจ้างทำงานอยู่หรือที่นายจ้างมีภูมิลำเนาอยู่ก็ได้
โดยในส่วนของจังหวัดชุมพร จากการสำรวจกลุ่มต่างๆ พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นงานของกลุ่ม OTOP ซึ่งในกลุ่มของผู้รับงานไปทำที่บ้านจะมีจำนวนน้อย และงานที่สำรวจพบจะเป็นงานตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชุมพรจะได้มีการดำเนินการต่อไป
ชุลีรัตน์ กำชัย
ไม่มีความเห็น