ขวดเพชฌฆาต


ความช่างสังเกต อาจช่วยให้เรามองเห็นเส้นผมที่บังภูเขาได้

        ขวดเป็นภาชนะที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี มีตั้งแต่เรียบๆ จนกระทั่งสวยหรูอลังการราคานับแสน ในแต่ละวันพวกเราทุกคนมีขวดเข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กๆทั้งหลายก็มีขวดนม โตขึ้นหน่อยก็เป็นขวดน้ำ ขวดชาเขียว ขวดน้ำอัดลมและเมื่อแก่ขึ้นอีกนิดก็คงไม่พ้นขวดสุรา เป็นแน่

          ในโรงพยาบาลเองก็มีขวดเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่หลายขวด อาทิ ขวดยาน้ำสำหรับเด็ก ขวดยาชา หรือขวดน้ำเกลือ การทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลก็อาศัยสิ่งต่างๆที่อยู่ในขวดเหล่านี้นั่นเอง อาจจะดูเหมือนว่าการที่ผู้ป่วยจะหายจากโรคหรือไม่ก็ขึ้นกับหมอหรือพยาบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถเลือกของที่อยู่ในขวดได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

          ลุงดำก็เป็นผู้ป่วยอีกรายหนึ่งที่ต้องพึ่งพาของในขวดเช่นเดียวกัน ลุงดำป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงมาช้านาน สาเหตุที่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งนี้ เพราะความดันของแกมันขึ้นสูงกินกว่ายาที่มีอยู่ในมือแกจะดึงมันลงได้ จึงต้องระเห็จมาให้หมอกับพยาบาลมาช่วยกันดึง นอกจากความดันโลหิตสูงที่เป็นคู่ขวัญกับแกมาช้านาน วันนี้มันพาเพื่อนคู่ใจมันมาหาลุงอีกหนึ่งโรค นั่นคือ โรคไต งานนี้บรรดาคุณหมอและพยาบาลได้พยายามกีดกันมันสุดชีวิตด้วยการไม่ให้ลุงดำกินเกลือหรือของเค็มเลย “ตายล่ะว๋างานนี้ ใครจะทนได้” สมัยก่อนบอกแค่ให้ลดความเค็มลงยังพอทนได้ แต่งานนี้ให้ตัดใจจากกันใครจะตัดได้ลง ขนาดตัดบัวเค้ายังเหลือใยเลย แล้วลุงดำจะเหลืออะไร

          หลังจากอยู่โรงพยาบาลมาช้านาน อยู่กับขวดยา ขวดน้ำเกลือมาก็มากมาย อาการของลุงดำก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นเลย ร้อนถึงคุณหมอกับพยาบาลพากันหาสาเหตุกันยกใหญ่ เมื่อตรวจสอบตามหลักวิชาการแล้ว สิ่งต่างๆในขวดก็ถูกต้องตามหลักวิชาการที่เขาว่าไว้ หันไปดูทางด้านอาหารที่แม่ครัวของโรงพยาบาลทำมาให้ทานทุกมื้อ ก็ได้รับการยืนยันว่าอาหารของลุงดำทุกอย่างไม่มีน้ำปลาหรือเกลือแน่นอนพันเปอร์เซ็น ! เดี๊ยนรับรอง เดชะบุญหรือว่าความซวยมาเยือนลุงดำแล้วก็ไม่รู้ แม่ครัวบังเอิญเหลือบสายตาไปเห็นขวดอะไรซ่อนอยู่ที่ตะกร้าของเมียแกข้างหัวเตียง ไม่รอช้าป้าแกรีบจ้ำอ้าวเข้าไปดึงมาดูอย่างรวดเร็ว แล้วทุกคนก็ได้พบกับจำเลยตัวฉกาจก็คือ “ขวดน้ำปลา” ที่เมียแกสงสารผัว อุตส่าห์ไปหามาแล้วซ่อนไว้อย่างดี งานนี้ก็เลยได้ปรับปรุงงานกันยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นคุณหมอที่ดูคนไข้ไม่ใช่ตัวคนไข้ แต่ต้องดูถึงพฤติกรรม ความเข้าใจ หรือจิตใจผู้ป่วยด้วย พยาบาลก็ต้องปรับการดูแลคนไข้ให้ละเอียดรอบคอบขึ้น ไม่ใช่ให้น้ำเกลือแล้ว ให้ยาแล้ว ให้อาหารแล้วก็ไม่สนใจมาดูดำดูดีอีกเลย  รวมทั้งสิ่งที่บอกที่สอนผู้ป่วยที่เรียกกันอย่างสวยหรูว่า “การให้สุขศึกษา” มันใช้ได้ผลจริงหรือเปล่า ทีมงานที่ทำงานอยู่ในหมู่บ้านเองก็ต้องปรับการทำงานกันยกใหญ่ เพราะพอไปดูประวัติการเยี่ยมบ้านของลุงดำแล้วก็มีรอยปากกาติ๊กถูกที่ข้อความว่าทานอาหารจืด หรือไม่เคยรู้เลยว่าบ้านนี้เขาทานข้าวกับอะไร งานนี้แม่ครัวหัวป่าก็หน้าบานไปหลายวันทีเดียวเชียว

         ความเป็นคนช่างสังเกต อาจจะทำให้เราเก่งกว่าอีกหลายคนได้เหมือนกันนะคะ

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 5313เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2005 09:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 17:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท