จากประสบการณ์ ที่ได้ดูแลรับผิดชอบในฐานะพยาบาลผู้อยู่ร่วมในสหวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วย คิดว่าส่วนที่สำคัญประการหนึ่งในการดูแลผู้ป่วยคือ การสื่อสาร ทำอย่างไรจึงจะบอกคนไข้ว่าเบาหวานเกิดจากอะไร ,การรักษาต้องทำอย่างไร,คุณต้องปฎิบัติตัวเรื่องอาหาร...,ออกกำลังกาย...,รับประทานยา...,การดูแลเท้าให้ผู้ป่วยเข้าใจและปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น
เราบอกว่า คนไข้ต้องพกลูกอมติดตัวบ้างเวลาเดินทาง ถ้ามีอาการน้ำตาลต่ำจะได้แก้ไขได้ทัน
ผล : มีคนไข้บางคนพกลูกอมตลอดเวลา และอมวันละ 10 เม็ด เพราะตัวเองรู้สึกน้ำตาลต่ำก็อมเลย
เราบอกว่าโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่หายขาด คนไข้มาครั้งเดียว กลับบ้านไม่มาอีกเลย ไปเยี่ยมบ้านบอกว่า...ก็คุณพยาบาลบอกว่า รักษาไม่หาย ยายก็เลยไม่ไปรักษา ไม่รู้จะรักษาเพื่ออะไร?
เราบอกว่าคนไข้เบาหวานออกกำลังกาย สามารถควบคุมน้ำตาล ถ้าให้น้ำตาลในเลือดลดลงได้ คุณลุงได้ยิน กลับไปซื้อรองเท้าผ้าใบวิ่งออกกำลังกายอยู่กับที่ ปรากฎว่าตอนเย็น เท้าคุณลุงเป็นแผลพุพองหมดเลย เพราะว่าคุณลุงเป็นผู้มีปัญหาที่เท้าแบบกลุ่มเสี่ยงสูง มีภาวะมึนชาที่ปลายเท้าและระบบไหลเวียนเลือดส่วนปลายไม่ดี
จะเห็นได้ว่า นอกจากความรู้ที่เราให้คำแนะนำที่เราบอกแล้ว ศิลปะในการสื่อสารที่ถูกต้อง ตรงประเด็น เข้าใจกันและกัน อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับผู้ฟังแต่ละคน รวมทั้งเราต้องมีการประเมินผู้รับสื่อด้วย จะทำให้การดูแลผู้ป่วยเบาหวานประสบผลสำเร็จทั้งผู้ให้และผู้รับ ดังนั้น จะบอกอะไรคนไข้ต้องใช้เทคนิคด้วยนะคะ
ผู้เล่าเรื่อง เพ็ญศรี โปนานนท์ รพ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
ไม่มีความเห็น