จากกรอบแนวคิดความเจ็บป่วยเรื้อรังในปี ค.ศ.1960, ค.ศ.1970 ของ Strauss และเพื่อนร่วมงานได้มีการพัฒนาแนวคิดวิถีทางความเจ็บป่วยเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1980 โดย Corbin และ Strauss
- วิถีทางความเจ็บป่วย ถูกอธิบายว่าเป็น ช่วงเวลาของการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นตามช่วงเวลารวมทั้งการปฏิบัติตนของผู้ป่วย ครอบครัวและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่จะบริหารช่วงเวลาที่เกิดการเจ็บป่วย
- วิถีทางความเจ็บป่วย ไม่เพียงแต่เป็นพยาธิสภาพ, การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและสรีระ แต่ว่ามีกลยุทธ์ที่สามารถกำหนดรูปแบบวิถีทางความเจ็บป่วยของภาวะใกล้ตายโดยผู้ป่วย ครอบครัวและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
- วิถีทางความเจ็บป่วยจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลถึงแม้ว่าจะเกิดโรคเหมือนกัน, นำไปอธิบายลักษณะเฉพาะของโรคแต่ละบุคคล
- ข้อสรุปของวิถีทางความเจ็บป่วยจะถูกเปลี่ยนหรือว่าโรคถูกรักษา วิถีทางความเจ็บป่วยอาจจะถูกกำหนดรูปแบบหรือถูกเปลี่ยนแปลงโดยการกระทำของผู้ป่วย ครอบครัว
- วิถีทางของโรคจะคงที่, ความรุนแรงของโรคลดลงและอาการแสดงถูกควบคุมดีขึ้นภายในรูปแบบนี้
วัตถุประสงค์ของแนวคิดวิถีทางความเจ็บป่วย (Objective of Trajectory Theory) เพื่อให้พยาบาล
1. มีความสามารถและเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์การเจ็บป่วยเรื้อรังของผู้ป่วย
2. รวบรวมและจัดระเบียบของบทความสุขภาพการเจ็บป่วยเรื้อรังที่มีอยู่
3. จัดหาทิศทางการสร้างรูปแบบการพยาบาล เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติ, การสอน, การวิจัยและการสร้างนโยบาย
แนวคิดหลักของแนวคิดวิถีทางความเจ็บป่วย (Central Ideas)
- ภาวะเรื้อรังมีวิถีทางหลากหลายและมีการเปลี่ยนแปลงไปตามระยะเวลา
- วิถีทางมีผลต่อการนำไปสู่การอธิบายการเจ็บป่วยหรือสภาวะ
- การเจ็บป่วยมีผลต่อการทำงาน, องค์กรการทำงานและมีผลกระทบอีกหลากหลายต่อการทำงาน
- วิถีทางสามารถจัดรูปแบบและการจัดการได้
- วิถีทางความเจ็บป่วยจะดำเนินไปเรื่อยๆ, คงที่และการบริหารจัดการ ควบคุมภาวะฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม
- การเจ็บป่วยก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทางกาย, การเผชิญปัญหา, การดำเนินวิถีชีวิต
- รูปแบบ/แบบแผนวิถีทางอาจจะเริ่มที่ Crisis, acute, stable, comeback, unstable, downward และอื่นๆ
ที่มาของทฤษฎี
- พัฒนามาจากสังคมวิทยา จะมองที่พฤติกรรม หลักการเรียนในระยะสุดท้ายของการเจ็บป่วยและมะเร็ง, ไตวาย
- เน้นให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมากขึ้นในบริบทสังคม ด้านสังคมและจิตวิทยา
- ปัจจัยด้านบุคคลและสภาพแวดล้อมมีความสำคัญต่อการอธิบายทฤษฎี
- ทฤษฎีการเจ็บป่วยเรื้อรังทั่วไปนำไปสู่รูปแบบการปฏิบัติการพยาบาล ข้อตกลงเบื้องต้น (Assumptions)
1. บุคคล ผู้ซึ่งมีการเจ็บป่วยหรือสภาวะเรื้อรังร่วมกับมีปัญหาทางด้านสังคมและจิตวิทยา
2. โดยธรรมชาติ การเจ็บป่วยเรื้อรังจะเกิดขึ้นไปเรื่อยๆตามเวลา ข้อสำคัญกว่าการมีปัญหาที่เกิดขึ้นตามเวลา คือ การไม่สามารถทำนายจุดจบหรือแบบแผนได้
3. บุคคลบางคนมีความเข้าใจ, รับรู้และพยายามจัดการกับภาวะหรือการเจ็บป่วยเรื้อรัง
4. การเจ็บป่วยเรื้อรังเป็นไปด้วยความไม่แน่นอน
5. การเจ็บป่วยเรื้อรัง รุกล้ำเข้าไปในชีวิตผู้ป่วยและครอบครัว เพราะเกิดความต้องการและการเปลี่ยนแปลง
6. การเจ็บป่วยเรื้อรังต้องการแหล่งประโยชน์และแหล่งสนับสนุน แต่ไม่ต้องการอยู่ภายใต้สภาพอื่นๆ
เนื้อหาของแนวคิดวิถีทางความเจ็บป่วย (Major concepts)
- ความหมาย วิถีทางความเจ็บป่วย เป็นการรวบรวมแนวคิดที่สำคัญทั้งหมดในกระบวนการคิดของกรอบแนวคิดอื่นๆ
- ระยะต่างๆของแนวคิดวิถีทางความเจ็บป่วย
- การทำนายล่วงหน้าเกี่ยวกับวิถีทางความเจ็บป่วย
- รูปแบบของแนวคิดวิถีทางความเจ็บป่วย
- สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการจัดการวิถีทางความเจ็บป่วย
- การจัดการกับวิถีทางความเจ็บป่วย
- ผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยและบุคคลรอบข้าง
ความหมายของวิถีทางความเจ็บป่วย
วิถีทางความเจ็บป่วยเรื้อรัง เป็นการรวบรวมการจัดการกับผลกระทบของบุคคล ครอบครัวและรูปการจัดการของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
องค์ประกอบของวิถีทางความเจ็บป่วย (Property of trajectory)
- เวลา
- รูปแบบ การจัดการกับอาการที่เกิดขึ้นตามเวลา
- ดำเนินการ โดย กิจกรรม, พฤติกรรม, ความต้องการและความพยายาม, การจัดการและการรักษา
ระยะต่างๆของวิถีทางความเจ็บป่วย (Trajectory phase)
ระยะต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงสถานะแตกต่างกัน วิถีทางสภาวะเรื้อรังเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
วิถีทางความเจ็บป่วยมี 9 ระยะ และถึงแม้ว่าวิถีทางความเจ็บป่วยสามารถอธิบายเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่อง แต่ว่าวิถีทางความเจ็บป่วยไม่ได้ดำเนินเป็นเส้นตรง สามารถย้อนกลับไประยะแรกได้ หรือว่าบางช่วงมีการยืดขยายของเวลามากกว่าส่วนอื่นๆ
ระยะเริ่มแรกของรูปแบบวิถีทางความเจ็บป่วย คือ Pretrajectory phase หรือ ระยะการป้องกัน ในระยะนี้วิถีทางความเจ็บป่วยยังไม่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามมีปัจจัยทางพันธุกรรม หรือพฤติกรรมวิถีทางการดำเนินชีวิต ทำให้เกิดความเสี่ยงของคนต่อภาวะเรื้อรังของโรค ตัวอย่าง เช่น คนอ้วน, ประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจของครอบครัว, ไขมันในเลือดสูงและการไม่ออกกำลังกาย
ระยะTrajectory phase เกิดอาการและอาการแสดงของโรคปรากฏและการวินิจฉัยโรคเกิดขึ้น บุคคลเริ่มจัดการกับปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ระยะ Stable phase อาการแสดงความเจ็บป่วยอยู่ภายใต้กาควบคุมและจัดการ โดยการจัดการ/ดูแลระดับปฐมภูมิเกี่ยวกับโรคจะเริ่มเกิดขึ้นที่บ้าน
ระยะ Unstable phase คือ ระยะขาดความสามารถในการรักษา/ควบคุมอาการที่เกิดขึ้น
ระยะ Acute phase คือ เกิดความรุนแรงและอาการแสดงที่ไม่สามารถบรรเทา หรือเกิดอาการแทรกซ้อนของโรค
ระยะ Crisis phase คือ เกิดภาวะฉุกเฉินหรืออยู่ในสถานะชีวิตถูกคุกคามและต้องการการรักษาที่เร่งด่วน
ระยะ Comeback คือ เป็นการแสดงการย้อนกลับของความเจ็บป่วยเรื้อรังกลับมาอย่างทีละนิดและยอมรับว่าเกิดการเจ็บป่วยและอาการแสดง
ระยะ Downward phase คือ เป็นลักษณะที่มีภาวะเพิ่มขึ้นของการทดถอย, ความพิการเพิ่มขึ้นและอาการแสดงเพิ่มขึ้นวิถีทางความเจ็บป่วยจะจบลงใน
ระยะ Dying phase ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นทีละนิดหรือร่างกายหยุดการทำงานอย่างรวดเร็ว การทำนายล่วงหน้าเกี่ยวกับวิถีทางความเจ็บป่วย (Trajectory projection)
เป็นการอธิบายถึงภาพของวิถีทางความเจ็บป่วยในอนาคต การให้ความหมาย อาการแสดง ประวัติ เวลา เช่น การเสียชีวิตด้วยมะเร็ง ผู้ป่วยและผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนในการวางแผนวิถีทางความเจ็บป่วย รูปแบบของวิถีทางความเจ็บป่วย (Trajectory scheme)
เริ่มที่วางแผนรูปแบบความเจ็บป่วย ควบคุมและจัดการกับความพิการ
สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการจัดการวิถีทางความเจ็บป่วย (Conditions influencing management)
- ความแตกต่างของชนิดและขั้นตอน
- ความยากง่ายของการจัดการกับอุปสรรคและอาการแทรกซ้อน
- ชนิด จำนวนและระยะเวลาของเครื่องมือ
ตัวอย่างเช่น ผลข้างเคียง, ผลิตผล, แหล่งประโยชน์, ประสบการณ์ที่ผ่านมา, แรงจูงใจ, หน่วยบริการและการดำเนินชีวิต
การจัดการกับวิถีทางความเจ็บป่วย (Trajectory management)
กระบวนการปรับวิถีทางความเจ็บป่วย เพื่อให้กระทบกับการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยและบุคคลรอบข้างที่เกี่ยวข้องน้อยที่สุด
ผลกระทบของการเจ็บป่วยเรื้อรังต่อบุคคลและการดำเนินชีวิต (Impact Of chronic illness)
- บุคคล ด้านวิถีการดำเนินชีวิต ความสามารถและบุคลิกภาพ
- ผลกระทบ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงการเจ็บป่วย การจัดการ วิถีทางการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของบุคคล
- ความสำเร็จ : คุณภาพชีวิต
- ผลกระทบต่อบทบาท
การประยุกต์ใช้ทฤษฎีวิถีทางความเจ็บป่วย (Application of the trajectory theory)
จุดเน้นทางการพยาบาล
1. คน (Person) ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วมในการป้องกันการเจ็บป่วยและการจัดการการเจ็บป่วย ถือว่าเป็นหน้าที่ระดับปฐมภูมิ
2. สุขภาพ (Health) จุดสำคัญของการดูแลไม่ใช่รูปแบบวิถีทางการรักษา แต่เป็นการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การคิดวิถีทางควบคุม QOL ในอดีตและปัจจุบัน
3. สิ่งแวดล้อม (Environment) การจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับบุคคลและเทคโนโลยี
4. การพยาบาล (Nursing) รูปแบบวิถีทางที่จะช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมการพยาบาล QOL ด้วยการช่วยเหลือและสนับสนุน