ความรู้เกี่ยวกับผึ้งครั้งที่7


คุณค่าของน้ำผึ้ง
คุณค่าของน้ำผึ้ง น้ำผึ้ง คือ น้ำหวานที่ผึ้งเก็บจากต่อมน้ำหวานของดอกไม้หรือต่อมน้ำหวานพิเศษของต้นไม้ ผ่านขบวนการย่อยภายในตัวผึ้ง แล้วนำมาเก็บไว้ในหลอดรวงผึ้ง ผ่านการระเหยน้ำออกจากน้ำผึ้ง(การบ่ม) จนทำให้น้ำผึ้งในหลอดรวงนั้น มีปริมาณน้ำตาลที่เข้มข้นขึ้น จนได้ระดับที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาที่ยาวนาน ผึ้งก็จะทำการปิดฝาหลอดรวงนั้น เราเรียกน้ำผึ้งนั้นว่าน้ำผึ้งที่สุกแล้ว เป็นน้ำผึ้งที่มีมาตราฐาน คุณภาพของน้ำผึ้งมีความผันแปรไปตามชนิดของพืชที่ให้น้ำหวาน ดิน น้ำ และช่วงเวลาในการเก็บน้ำผึ้ง ทำให้น้ำผึ้งมี สี กลิ่น รสชาดและความเข้มข้นต่างกันไปองค์ประกอบของน้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง ประกอบด้วย (1) น้ำ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ (2) น้ำตาลชนิดต่างๆ มี กลูโครส ฟลุกโตส กาแลกโตส และเลวูโรส ประมาณ 79 เปอร์เซ็นต์ (3) กรดชนิดต่างๆ ประมาณ 0.5เปอร์เซ็นต์ และ (4) วิตามิน เอ็นไซม์และแร่ธาตุ ประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นได้ว่า องค์ประกอบหลักของน้ำผึ้งก็คือ น้ำตาล น้ำตาลส่วนใหญ่ เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดียว ถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย
คุณค่าของน้ำผึ้ง
(1) คุณค่าทางอาหาร
น้ำผึ้งเป็นอาหารที่สะอาด ปลอดจากจุลินทรีย์ต่างๆ น้ำตาลในน้ำผึ้งจะถูกนำไปเผาผลาญเป็นพลังงานและความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย บำรุงร่างกาย และสมองให้แข็งแรงและสดชื่นแจ่มใส น้ำผึ้ง 100 กรัม ให้พลังงาน 303 แคลลอรี รับประทานในช่วงที่ต้องการ หรือ 1/2-1 ช้อนโต๊ะตอนเช้าและก่อนนอน ทุกวัน น้ำผึ้งถูกใช้แทนน้ำตาลเป็นส่วนผสมในอาหารชนิดต่างๆ ทั้งขนม นม เครื่องดื่มและอื่นๆ น้ำผึ้งดองกล้วยน้ำว้า ทิ้งไว้ 1 เดือน ใช้เป็นยาอายุวัฒนะได้2) คุณค่าทางยาฆ่าจุลินทรีย์ เชื้อโรคต่างๆได้ น้ำผึ้งมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูง มี แรงดูดซึม (osmotic pressure) ทำให้จุลินทรีย์ที่ตกลงไนน้ำผึ้งเหี่ยวตาย เมื่อเอาน้ำผึ้งมาละลายน้ำ กรดที่มีในน้ำผึ้งแสดงปฏิกิริยาได้ และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่เกิดขึ้น สามารถที่จะฆ่าจุลินทรีย์ได้ด้วย ที่ผึ้งจึงถูกนำไปใช้ในการฆ่าเชื้อโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวอียิปต์ใช้น้ำผึ้งแช่ศพกันเน่าเปื่อยได้
(3) คุณค่าทางรักษาโรค เช่น แก้ท้องผูก เอ็นไซม์ในน้ำผึ้งยังช่วยย่อยคาร์โบโฮเดรตได้ น้ำผึ้งจึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้อาการท้องผูกในเด็กและคนชราได้ ขนาดที่ใช้ 1 ช้อนโต๊ะก่อนนอน
(4) คุณค่าในส่วนผสมยาสมุนไพรหลายชนิด เพื่อใช้ในการรักษาโรคต่างๆได้ เช่น แก้ไอ เจ็บคอ หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ นอกจากรักษาโรคแล้ว น้ำผึ้งยังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องสำอางทาหน้า รักษาผิวให้นุ่มนวล น้ำผึ้งยังถูกนำมาผสมกับสบู่เหลวที่ใช้อาบน้ำในอัตราส่วน น้ำผึ้งกับสบู่เหลวเท่ากับ 30ต่อ 70 จะทำให้ผิวหลังอาบน้ำนุ่มขึ้น ไม่ต้องใช้ครีมทารักษาผิวอีก
สำหรับบความที่นำมาให้อ่านในวันนี่เป็นบทความที่ข้าพเจ้าชอบมากเนื่องจากว่าทำให้ทราบคุณค่าของน้ำผึ้งอย่างไม่คลางแคลงใจว่ามีประโยชน์ยังไง และเมื่อผู้อ่านอ่านแล้งหลังว่าคงจะหันมาบริโภคน้ำผึ้งมากขึ้นนะค่ะ แหล่งที่มาของความรู้ http://www.ist.cmu.ac.th/riseat/nl/2003/02/07.php
หมายเลขบันทึก: 52924เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2006 11:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท