ดิฉันเคยเข้าร่วมการประชุม ปขมท.ประจำปีหลายๆ ครั้ง สิ่งที่ดิฉันเห็นเป็นจุดแข็งของกลุ่มนี้ คือเขาเป็นกลุ่มคนที่มาร่วมทำงาน มีใจในการทำงานให้ส่วนรวม โดยใช้ลักษณะเด่นของแต่ละที่แต่ละมหาวิทยาลัยมารวมกัน ทำงานด้วยความรักความผูกพันในอาชีพ หวังให้เกิดสิ่งดีขึ้นในอาชีพสายสนับสนุนของตนดิฉันมองว่าเป็นการทำงานเพื่อเพื่อนสมาชิกสายสนับสนุนในมหาวิทยาลัยโดยแท้บรรยากาศในการประชุมประจำปีแต่ละครั้งดิฉันเห็นและชมชอบอยู่ คือจะมีข้าราชการรุ่นพี่ที่เคยทำงานในกลุ่ม ปขมท.รุ่นก่อนๆที่เกีษยณอายุราชการไปแล้วยังมาร่วมในงาน มามีบทบาทในการความเห็น ให้กำลังใจรุ่นน้อง คนรุ่นใหม่ในการทำงาน
แต่หากในแต่ละปี จะมีคนเข้าร่วมสัมมนาประจำปีนี้เป็นจำนวนมากด้วยกลยุทธ์หลายๆอย่างของกลุ่มแกนนำเหล่านี้ทั้งการเลือกสถานที่จัด ประเด็นที่กลุ่มเลือกขึ้นมาจัด เรียกได้ว่าลูกค้าไม่ผิดหวังดิฉันเองแม้ไม่ได้ร่วมโครงการทุกปี แต่ก็ติดตามอ่านติดตามชมผลงานกันทุกปี เรียกว่าเขามีจุดแข็งในการเลือกหัวข้อสัมมนา ล่าสุดเมื่อมกราคม 2549 ในหัวข้อ "KPI กลุ่มสายงานสนับสนุน" เป็นที่ฮือฮา มีคนเข้าประมาณ 1200 คน จัดที่โรงแรมกาดสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ "หัวข้อนั้นได้ถูกกลับมาผลักดันในมหาวิทยาลัยของดิฉันตลอดทั้งปี จนบางคณะหน่วยงานนำมาประยุกต์ ใช้ต่อได้อย่างสมบูรณ์
จุดเด่นที่ดิฉันกล่าวถึงแล้วคือทำงานด้วยใจ สามารถจัดงานที่มีคนร่วมเป็นร้อย เป็นพันได้ ในการทำงานใช้กลยุทธ์กรรมการร่วมจากทุกมหาวิทยาลัย หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพหลักในการจัด ดิฉันทราบข่าวจากท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ พานิชเล่าเรื่อง ปขมท. ไว้ใน บันทึกที่ 1 และ บันทึกที่ 2 ด้วยความยินดี ดิฉันมองเห็นว่าสำหรับเวที ปขมท.นี้ หากได้มีโอกาสได้ร่วมออกแบบด้วยใจรักในงานการจัดการความรู้ บวกกับจุดเด่นของวัฒนธรรมปขมท.ที่มีอยู่แล้ว นำประสบการณ์ในการทำงานจัดการความรู้ในแต่ละที่มารวมกัน จะทำให้ผู้มาเข้าร่วมในโครงจะได้เห็นทั้งกระบวนการการจัดการความรู้ นำกลับไปใช้ในที่ของตน หรือไม่ว่าจะเลือกหัวเรื่องอะไรหากเราใช้เวลาในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มากกว่าใช้ Key note speaker จะได้ประโยชน์มาก
ถึง พี่เมตตา